- Home
- Ideas
Ideas
7 แนวทาง WFH ไม่ป่วยจากการอยู่บ้านนานๆ
เมื่อคนเลือก Work From Home กันมากขึ้น แล้วบ้านของเราปลอดภัยจริงๆ แล้วหรือยัง การอยู่บ้านนานๆ ก็อาจทำให้ป่วยด้วยสาเหตุอื่นอย่างไม่รู้ตัวได้ มาดูวิธีทำให้บ้านปลอดภัยต่อสุขภาพทั้งกายและใจกัน
Green Building / Green Façade ออกแบบบ้านและต้นไม้ให้เป็นอยู่ร่วมกัน
มาออกแบบให้ต้นไม้เป็นส่วนหนึ่งของบ้าน ทำได้หลายวิธี ทั้งสวนดาดฟ้า ผนังต้นไม้ สวนแนวตั้ง มาดู 7 เรื่องควรรู้ในการออกแบบกัน 1. ต้นไม้อยู่ตรงไหนของบ้านได้บ้าง บ้านปกติมักจะออกแบบให้มีสวนอยู่ล้อมรอบ แต่ถ้าไม่มีพื้นที่รอบบ้าน มาดูกันว่าจะสามารถออกแบบต้นไม้หรือจัดสวนให้อยู่ตรงไหนได้บ้าง อาคารเขียว สวนบนอาคาร ได้แก่ สวนบนดาดฟ้า สวนบนระเบียง และสวนที่อยู่บนโครงสร้างอาคาร ควรเตรียมโครงสร้างในการรับน้ำหนักไว้ตั้งแต่เริ่มสร้างและทำระบบกันซึมปัองกันโครงสร้างเสียหายจากความชื้น ผนังอาคารต้นไม้ อาศัยผนังอาคารหรือโครงสร้างของอาคารในการปลูกหรือให้ต้นไม้เกาะเกี่ยว เช่น การปลูกไม้เลื้อยเกาะผนังโดยตรง การปลูกไม้เลื้อยเกาะโครงสร้างเสริม หรือทำผนังอาคารเป็นกระบะปลูก ผนังสวนแนวตั้ง เป็นการนำแผ่นหรืออุปกรณ์ที่บรรจุวัสดุปลูกไปติดตั้งบนผนังอาคารอีกชั้นหนึ่ง สวนในบ้าน โดยออกแบบพื้นที่ภายในบ้านให้เป็นกระบะปลูกต้นไม้หรือพื้นที่จัดสวน ซึ่งอาจเป็นสวนภายในบ้านหรือสวนกึ่งภายนอก 2. การทำสวนบนหลังคา ระเบียง การทำกระบะหรือพื้นที่ปลูกต้นไม้บนหลังคา ระเบียง และบนโครงสร้างอาคาร ควรเตรียมระบบกันซึมเพื่อป้องกันความชื้นที่มากับต้นไม้และดิน ซึ่งเป็นตัวการสำคัญที่ทำให้โครงสร้างบ้านเสียหาย รวมถึงเตรียมชั้นดินและระดับความลึกของดินให้เหมาะกับการปลูกพืชพรรณแต่ละชนิด 3. การออกแบบผนังอาคารต้นไม้ การออกแบบฟาซาดบ้านให้ประกอบด้วยด้วยต้นไม้ หรือ อาคารเขียว เป็นแนวคิดที่สร้างความกลมกลืนกับธรรมชาติที่เห็นผลชัดเจนที่สุด โดยปลูกต้นไม้ปกคลุมอาคารทั้งหมดหรือบางส่วน ช่วยเพิ่มพื้นที่สีเขียวได้แม้ในพื้นที่จำกัด และเป็นอีกวิธีในการสร้างสภาพแวดล้อมของบ้านให้ดี สามารถออกแบบร่วมกับผนังอาคารประเภทต่างๆเพื่อช่วยให้เมืองมีพื้นที่สีเขียวมากขึ้น การปลูกต้นไม้ให้เป็นฟาซาดสามารถทำได้หลายวิธี เช่น การปลูกให้ต้นไม้เติมโตจากด้านล่าง เป็นการปลูกต้นไม้บนพื้นดินให้เติบโตไปบนผนังอาคาร สามารถทำได้ทั้งการให้ต้นไม้เกาะกับผนังโดยตรง […]
รีวิวน้ำยาเร่งรากยี่ห้อต่างๆในท้องตลาด สำหรับปักชำต้นไม้
เชื่อว่าในช่วงที่เราต้องใช้ชีวิตอยู่ที่บ้านเป็นส่วนใหญ่ ในขณะที่ต้นไม้ในสวนเริ่มแตกกิ่งก้านยืดยาวให้ต้องตัดแต่งใหม่ จึงเป็นช่วงเวลาที่ดีที่เราจะเริ่มตัดและขยายพันธุ์ต้นไม้ด้วยวิธีง่ายๆอย่างการปักชำ ยาเร่งราก ยี่ห้อไฮรูท-V ยาเร่งราก ยี่ห้อเอิร์ทรูท ยาเร่งราก ยี่ห้อบี-1 ยาเร่งราก ยี่ห้อไลเกอร์-รูท น้ำยาเร่งราก ยี่ห้อเอ็กโซติค โดยเฉพาะกับเหล่าต้นไม้ใบและต้นไม้ด่างสะสมที่ช่วงเวลานี้สามารถปลูกเพื่อทำจำนวนและจำหน่ายต่อได้ ซึ่งหากนำกิ่งที่ตัดไปปักชำเลย รากก็อาจแตกช้าไม่รวดเร็วทันใจ เราจึงจำเป็นต้องมีตัวช่วยอย่าง น้ำยาเร่งราก ปัญหาคือในท้องตลาดก็มีหลายยี่ห้อให้เลือกใช้ เราจึงขออาสากวาดซื้อทุกยี่ห้อที่หาได้ มาทดลองปลูกเปรียบเทียบรากให้เห็นผลกันจะๆไปเลยว่าแต่ละยี่ห้อให้ผลเป็นอย่างไร เราใช้กิ่งของต้นเล็บครุฑด่างที่ปลูกและขยายพันธุ์ง่ายในระดับกลางๆมาเป็นตัวทดสอบร่วมกับยาเร่งรากทั้งหมด 5 ยี่ห้อ ได้แก่ ไฮรูท-V,เอิร์ทรูท,บี-1,ไลเกอร์-รูท และเอ็กโซติค กับอีกกลุ่มหนึ่งที่ไม่ใช้ยาเร่งรากเลย โดยเราใช้กิ่งเล็บครุฑด่างที่ตัดมาจุ่มยาเร่งราก จากนั้นนำไปปลูกต่อในถาดตะกร้าพลาสติกที่ภายในใช้แกลบดำเป็นวัสดุปลูก ระยะเวลาทดลองปลูกประมาณ 1 เดือน ขั้นตอนการเพาะเมล็ดและปักชำกิ่งไม้เลื้อย วิธีปักชำต้นไม้ให้ได้ผล ไม่ได้ใช้ยาเร่งราก ปกติแล้วต้นเล็บครุฑด่างสามารถตัดแล้วนำไปปักชำในดินหรือปักชำน้ำได้เลย ซึ่งสามารถแตกรากออกมาได้เอง แต่ต้องใช้ระยะเวลานานพอสมควร โดยการปักชำน้ำจะได้ผลดีกว่าปักชำดิน ในการทดลองครั้งนี้พบว่าบางกิ่งที่ปักชำไม่เกิดรากและตายไปจำนวนหนึ่ง นอกจากนั้นหากสังเกตดีๆ รากจะแตกแค่บริเวณแผลและรอยตัดเท่านั้น ซึ่งทำให้มีรากออกน้อยกว่าต้นที่จุ่มยาเร่งรากก่อนปลูก ยาเร่งราก ยี่ห้อไฮรูท-V มีลักษณะเป็นสารสังเคราะห์ชนิดผงต่างจากยี่ห้ออื่นๆที่เป็นของเหลว ประกอบด้วยวิตามินบี1 เหล็กคีเลท โปรตีน อะมิโน ซิลิกอน ที่มีประโยชน์ต่อการแตกรากของต้นไม้ ช่วยให้รากเจริญเติบโตได้ดี ฟื้นตัวเร็ว […]
กิจกรรมในสวน ที่สร้างการเรียนรู้แก่เด็กๆร่วมกับธรรมชาติรอบตัว
ช่วงเวลานี้คงเป็นช่วงเวลาที่ยากลำบากของทุกคน โดยเฉพาะครอบครัวที่มีเด็กๆอยู่ในบ้าน เพราะนอกจากจะต้องเรียนที่บ้านแล้ว ยังไม่สามารถออกไปเที่ยวเล่นหรือทำกิจกรรมที่สร้างเสริมพัฒนาการได้ เราจึงขอพาทุกคนในครอบครัวเข้าไปในสวนเพื่อสํารวจหาเมล็ดพันธุ์ของดอกไม้แล้วเริ่มต้นปลูกดอกไม้ให้สวนของเราให้กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง อีกทั้งยังเสนอกิจกรรมในสวนง่ายๆที่ปลอดภัยเหมาะสมกับเด็กและทุกคนในครอบครัวจากดอกไม้ใบหญ้ารอบตัว หาเมล็ดจากต้น โดยทั่วไปแล้วต้นไม้สามารถขยายพันธุ์ได้หลายรูปแบบ แต่สําหรับดอกดาวเรืองหรือดอกไม้ชนิดอื่นในวงศ์ Asteraceae การขยายพันธุ์ด้วยเมล็ดเป็นวิธีที่ง่ายและสะดวกที่สุด เพราะใช้ระยะเวลาเพาะกล้าไม่นานมาก อีกทั้งในหนึ่งต้นก็มีเมล็ดเยอะ จึงสามารถขยายพันธุ์หลายต้นพร้อมกันได้ ต้นไม้ในวงศ์นี้ที่เรารู้จักกันดีก็ได้แก่ ทานตะวัน ดาวเรือง ดาวกระจาย รักเร่ บานชื่น สร้อยทอง ปืนนกไส้ นอกจากนี้ยังมีดอกไม้ในวงศ์บานไม่รู้โรยหรือ Amaranthaceaeได้แก่บานไม่รู้โรย หงอนไก่ ผักเป็ดแดง ที่ใช้วิธีเพาะปลูกด้วยเมล็ดได้ง่ายและโตเร็วเช่นกัน โดยเมล็ดจะอยู่บริเวณเกสรเดิมของดอกหรือบริเวณโคนของก้านดอกซึ่งสามารถสังเกตได้ไม่ยาก เริ่มเพาะปลูก ตามธรรมชาติแล้ว เมื่อเมล็ดต้นไม้เหล่านี้หล่นลงดินณที่ใด หากได้ปัจจัยที่พร้อมอย่างแสงแดดและความชื้นที่เหมาะสม ก็พร้อมจะงอกเป็นต้นใหม่ได้เสมอ แต่เราสามารถช่วยเพิ่มปัจจัยการเจริญเติบโตได้ โดยการเตรียมแปลงปลูกที่พรวนดินให้ร่วนเพื่อให้ระบายน้ําได้ดี เนื่องจากต้นไม้เหล่านี้ส่วนมากไม่ชอบที่แฉะ ยกเว้นหงอนไก่ไทยที่สามารถเจริญเติบโตได้ จากนั้นเติมปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยเคมี สูตร16-16-16เพื่อเพิ่มแร่ธาตุลงในดิน แล้วโรยเมล็ดบนดินหรือฝังกลบในดินลึกประมาณ1เซนติเมตร รดน้ําอย่างสม่ําเสมอ วันละ1ครั้ง แต่ควรสังเกตไม่ให้ดินแฉะจนเกินไป ภายใน7–10วันก็จะเริ่มงอกเป็นต้นใหม่ได้ในที่สุด โดยเมล็ดส่วนใหญ่จะงอกภายใน5–7วัน จากนั้นจะใช้เวลา2–3เดือนจึงออกดอก ซึ่งหากชวนเด็กๆในครอบครัวมาร่วมปลูกด้วยก็จะช่วยให้พวกเขาเข้าใจถึงวิวัฒนาการการเจริญเติบโตขั้นพื้นฐานของต้นไม้ ตั้งแต่ระยะการเก็บเมล็ดปลูกจนโตเป็นต้นอ่อน ต้นกําลังโต ผลิดอก และได้เห็นขั้นตอนการผสมเกสรโดยผีเสื้อและผึ้ง จนนําไปสู่การติดเมล็ดอีกครั้ง ประดับในสวน นอกจากเราจะปลูกดอกไม้เหล่านี้รวมกันเป็นแปลงเดียวแล้ว ยังสามารถนําไปจัดวางเป็นองค์ประกอบต่างๆภายในสวนได้อีกด้วย […]
รวมวิธีดูแลสวน ทั้งเรื่องต้นไม้และงานฮาร์ดสเคป รวมถึงการว่าจ้างนักจัดสวน
เพราะการจัดสวนไม่ได้จบแค่ตอนที่จัดเสร็จแล้ว แต่เรื่องใหญ่ที่แท้จริงคือการดูแลสวนให้สวยงามอยู่เสมอ เราจึงขอรวบรวมไอเดียจัดสวนให้ดูแลง่าย รวมไปถึงการดูแลสวนและการว่าจ้างนักจัดสวน การคิดค่าแรงแบบต่างๆ ออกแบบสวนให้ดูแลง่าย สำหรับคนที่ไม่ชอบดูแลต้นไม้หรือมีเวลารดน้ำต้นไม้ไม่มากนัก อาจจำเป็นต้องเลือกต้นไม้ที่ทนต่อสภาวะแห้งแล้งและดูแลง่าย สามารถขาดน้ำได้ในระยะเวลาหนึ่ง ส่วนมากจะอยู่ในกลุ่มไม้อวบน้ำ เช่น อากาเว่ ลิ้นมังกร พญาไร้ใบ รวมไปถึงสับปะรดสี หากเป็นกลุ่มไม้ยืนต้นเองก็มีต้นไม้ทนแล้งหลายชนิด เช่น กระถินณรงค์ เหลืองปรีดียาธร พญาสัตบรรณ หางนกยูงฝรั่ง มะขามเทศ หรือต้นไม้ในตระกูลปาล์ม โดยเราสามารถใช้งานฮาร์ดสเคปหรือปูพื้นด้วยกรวดและหินเพื่อลดการดูแลได้ด้วย รดน้ำต้นไม้อย่างน้อยวันละครั้ง ต้นไม้ต้องการน้ำเพื่อละลายสารอาหารในดินและช่วยนำอาหารจากรากไปเลี้ยงส่วนต่างๆ ทำให้เซลล์เต่งตึง ลดอุณหภูมิภายในต้นเมื่ออากาศร้อนจัด ถึงแม้ว่าต้นไม้แต่ละชนิดจะต้องการน้ำไม่เท่ากัน แต่โดยทั่วไปนิยมรดน้ำต้นไม้ในช่วงเช้ามากกว่าตอนเย็น และเพิ่มเป็น 2 ครั้งในช่วงฤดูร้อน หรือรดให้น้อยลงในฤดูฝน ควรรดน้ำให้ชุ่มทั้งต้นเพื่อชำระล้างคราบฝุ่นบนใบและเชื้อโรคออก และนานพอให้น้ำซึมลงดินไปถึงราก เพราะถ้าเปียกแค่ผิวดินก็อาจไปไม่ถึงรากไม้ กำจัดสิ่งไม่พึงประสงค์ วัชพืชและสัตว์บางชนิดเป็นอันตรายต่อต้นไม้ ซึ่งมักเกิดในบริเวณที่อับชื้น อากาศไม่ถ่ายเท แสงสว่างส่องลงมาน้อย ดังนั้นควรนำต้นไม้ออกมารับแสงแดดและผึ่งลดบ้าง นำวัสดุปลูกเก่ามาเปลี่ยน หากต้นไม้มีอาการรุนแรงควรเด็ดส่วนที่มีอาการทิ้งหรือขูดออกให้หมด อาจฉีดพ่นน้ำสมุนไพรหมักไล่แมลงร่วมด้วย วัชพืชมักติดมากับดินถมหรือปุ๋ยคอกที่ยังย่อยสลายไม่เต็มที่ เมื่อเห็นควรรีบถอนและกำจัดออก หรือใช้กระสอบคลุม จากนั้นจึงปลูกต้นไม้ทดแทนไป การให้ปุ๋ยต้นไม้ สำหรับสวนทั่วไปจะให้ปุ๋ยเคมีเป็นครั้งคราวเพื่อเพิ่มสารอาหารในดิน หรือปุ๋ยละลายช้าชนิด 3 เดือนหรือ […]
ออกแบบบ้านให้รู้สึกโปร่งสบาย ด้วยหลักวิทยาศาสตร์
ทุกคนอยากทำบ้านให้ ”โล่ง โปร่ง สบาย” แต่จะทำ ความสูงฝ้าเพดาน เท่าไรจึงรู้สึกว่าโปร่งโล่ง คนส่วนใหญ่ใช้ความรู้สึก แต่เรามีคำตอบที่มาจากหลักวิทยาศาสตร์ ซึ่งศึกษาโดย ศูนย์วิจัยและนวัตกรรมเพื่อความยั่งยืน Research & Innovation for Sustainability Center (RISC) หน่วยงานที่ใส่ใจเรื่องสุขภาวะในการอยู่อาศัย ได้พบคำตอบว่า ความสูงฝ้าเพดาน 2.70 เมตร ทำให้รู้สึกไม่อึดอัด และฝ้าเพดานสูง 3.40 เมตร ทำให้รู้สึก โล่ง โปร่ง สบาย มาดูที่มาของคำตอบนี้กัน การรับรู้ของมนุษย์ ก่อนจะเข้าใจว่าทำไมคนเราจึงรู้สึก “โล่ง โปร่ง สบาย” เพื่อมากำหนด ความสูงฝ้าเพดาน ต้องมาทำความเข้าใจก่อนว่า มนุษย์จะเกิดความรู้สึกตามสิ่งเร้า เช่น แสง เสียง กลิ่น รส อุณหภูมิหรือการสัมผัส ถ้าไม่อยู่ใน “เขตการรับรู้” จะไม่เกิดความรู้สึก เขตการรับรู้จึงเป็นเสมือนเส้นแบ่งระหว่างความรู้สึกกับความไม่รู้สึก และจาก “กฎของเฟชเนอร์” (Fechner’s law) […]
มารู้จักหลังคารูปแบบต่างๆกัน
มาดูกันว่าหลังคามีกี่ประเภท แตกต่างกันอย่างไร เพื่อเลือกใช้ รูปแบบหลังคา ให้ถูกต้องและเหมาะสมกับความต้องการได้มากที่สุด หลังคาเพิงหมาแหงน (Lean-to or Pitched Roof) หลังคารูปแบบเรียบง่ายมีความลาดเอียงด้านเดียว เป็นแบบหลังคาที่เกิดจากการสร้างบ้านหรือที่พักชั่วคราวแบบง่ายๆ การใช้หลังคาเพิงหมาแหงนต้องออกแบบให้ด้านที่ลาดเอียงหันไปหาแสงแดดหรือทิศที่มีฝนสาด แต่อย่างไรก็ดี หลังคาประเภทนี้ไม่สามารถป้องกันแดดและฝนได้ดีเท่าไรนัก สำหรับบ้านที่ใช้หลังคาเพิงหมาแหงนอาจแก้ปัญหาเรื่องแดดด้วยการทำแผงกันแดดด้านข้างเพิ่ม รูปแบบหลังคา หลังคาจั่ว (Gable Roof) เป็นหลังคาที่เกิดจากการนำด้านสูงของหลังคาเพิงหมาแหงนมาชนกันให้เกิดสันหลังคา (Ridge) สามารถกันแดดกันฝนได้ดีในด้านที่มีชายคายื่น ส่วนหน้าจั่วหรือด้านสกัดมักมีปัญหาเรื่องการป้องกันแดดและฝน ซึ่งเราอาจทำชายคาเฉพาะจุดเพิ่มบริเวณเหนือหน้าต่างและประตูเพื่อป้องกันแดดและฝน หลังคาจั่วนิยมใช้กับบ้านในเมืองไทยและบ้านเมืองร้อนทั่วไป การสร้างหลังคาจั่วควรออกแบบให้มีความลาดชันที่พอเหมาะ เพื่อให้น้ำฝนไหลลงได้สะดวก และควรระวังรอยต่อบริเวณสันหลังคา เพราะเป็นจุดที่น้ำฝนรั่วซึมได้ง่าย หลังคาปั้นหยา (Hip Roof) เป็นหลังคาที่พัฒนามาจากหลังคาจั่ว แต่มีชายคาลาดเอียงทั้งสี่ด้าน สามารถกันแดดกันฝนได้รอบ เหมาะกับสภาพภูมิอากาศของเมืองไทยที่ร้อนและมีฝนตกชุก การก่อสร้างหลังคาปั้นหยาจะยุ่งยากกว่าหลังคาจั่ว เพราะมีรอยต่อของสันหลังคาหรือตะเข้สันมากกว่า หลังคามนิลา (Hip Gable Roof) คือหลังคาปั้นหยาที่ปรับให้ด้านสกัดมีหน้าจั่วทั้งสองด้านบริเวณช่วงบนของหลังคา เพื่อรูปทรงที่สวยงามและการระบายอากาศใต้หลังคาที่ดี หลังคาชนิดนี้เป็นแบบหลังคาของบ้านเรือนไทยภาคกลาง เนื่องจากเหมาะกับภูมิประเทศเขตร้อนที่มีฝนตกชุก หลังคามนิลา นอกจากจะมีชายคากันแดดกันฝนทั้งสี่ด้านแล้ว ยังสามารถระบายอากาศร้อนใต้หลังคาออกทางหน้าจั่วได้ด้วย หลังคาสวิส (Gable Hip Roof) หลังคาลูกผสมระหว่างหลังคาจั่วกับหลังคาปั้นหยา […]
รวมทุกเรื่องน่ารู้เกี่ยวกับงานฮาร์ดสเคป หรือ งานก่อสร้างในสวน
นอกจากการปลูกต้นไม้ในสวนแล้ว งานฮาร์ดสเคป หรือการก่อสร้างองค์ประกอบภายในสวนที่ต้องใช้โครงสร้างถาวรหรือกึ่งถาวรก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่หลายคนควรรู้ เพื่อนำไปใช้ในการลงมือก่อสร้างด้วยตัวเอง หรือนำไปคุยกับช่างก่อสร้าง เพื่อให้ก่อสร้างส่วนต่าง ๆ ในสวนได้อย่างถูกต้อง งานฮาร์ดสเคป หรืองานก่อสร้างในสวน ไม่ว่าจะเป็น ส่วนทางเดิน ศาลา บ่อปลา หรือระบบให้แสงสว่าง บ้านและสวน มีเรื่องที่ต้องรู้มาแนะนำดังนี้ การปรับระดับพื้นที่เป็นเรื่องสำคัญ การปรับระดับพื้นที่ควรเป็นสิ่งแรกที่ทำหลังจากการออกแบบสวนและเริ่มจัดสว นเพื่อให้ได้ระดับความสูงต่ำ เนินดิน ตลิ่งริมน้ำ หรือทางระบายน้ำ ไม่ควรออกแบบให้ทางลาดสูงชันมาก โดยเฉพาะพื้นที่แคบ ๆ เพราะ เสี่ยงต่อดินพังทลายจากการกัดเซาะของน้ำฝน และไม่สะดวกต่อการตัดแต่งดูแล สำหรับพื้นที่ที่อยู่ในบริเวณที่ต่ำมีน้ำท่วมถึง อาจไม่จำเป็นต้องเลือกแนวทางการถมดินให้มีระดับสูงกว่าระดับน้ำท่วมเสมอไป อาจใช้การปรับระดับโดยการขุดดินในบริเวณหนึ่งให้สามารถรับน้ำเพิ่มและรองรับน้ำที่ระบายไป แล้วนำดินที่ขุดได้ไปถมในบริเวณที่จำเป็นสำหรับใช้งาน โดยไม่ต้องเสียค่าดินในการถมและช่วยแก้ปัญหาในระยะยาวได้ หลีกเลี่ยงผลกระทบที่ไม่ดีต่อพื้นที่ใกล้เคียงและรบกวนสิ่งแวดล้อมเดิมให้มากที่สุด การกำหนดระยะงานฮาร์ดสเคป ต้องเหมาะสมกับลักษณะการใช้งานของมนุษย์ เช่น ทางเดินในสวนควรมีขนาดพื้นให้คนปกติและรถเข็นสามารถผ่านได้ โดยทั่วไปควรมีความกว้างไม่ต่ำกว่า 80 เซนติเมตร ถ้าเล็กกว่านี้คนจะเดินทางผ่านกันลำบาก และยังเบียดทำลายต้นไม้ข้างทางเดินได้ และควรมีระยะทางไม่ยาวเกินไป รวมถึงต้องมองเห็นได้ชัดเจน มุมที่นั่งบนขอบกระบะปลูกต้นไม้ควรออกแบบให้มีระยะความสูง 45-50 เซนติเมตร ลึก 40-60 เซนติเมตร หากต้องการสร้างปฏิสัมพันธ์ระหว่างคนที่เดินผ่านหรือให้คนที่อยู่ใกล้กันหันหน้าเข้าหากัน แต่หากต้องการความเป็นส่วนตัว เพียงเว้นที่นั่งไว้ในระยะคนนั่งหนึ่งคนและหันหน้ามองไปทางเดียวกันก็ทำให้รู้สึกแบ่งแยกออกจากกัน […]
Rapid Antigen Test Kit ตรวจโควิดใช้งานอย่างไร
เพื่อการตรวจหาเชื้อโควิด-19 อย่างเร่งด่วนในสถานการณ์ปัจจุบัน เราจึงต้องเรียนรู้ว่า Rapid Antigen Test Kit ใช้งานอย่างไร เมื่อไรที่จะพบเชื้อ ยี่ห้อไหนที่อย.รับรอง และอ่านผลอย่างไรให้ถูกต้อง Rapid Antigen Test คือการตรวจคัดกรองผู้ติดเชื้อ โดยหาส่วนประกอบของเชื้อไวรัสที่มีอยู่ภายในโพรงจมูกหรือลำคอ ซึ่งการตรวจแบบนี้ใช้ได้กับทั้งผู้ที่ฉีดวัคซีนมาแล้วและผู้ที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีน เป็นการตรวจที่ทราบผลอย่างรวดเร็วได้ด้วยตัวเอง มีความต่างจากการเจาะเลือดหา Antibody ซึ่งไม่สามารถแยกออกจากภูมิของผู้ที่ได้รับวัคซีนมาแล้วได้ การตรวจโดยใช้ชุดตรวจโควิดแบบรวดเร็วนี้ จะตรวจพบเชื้อไวรัส หลังจากรับเชื้อมาประมาณ 3-5 วัน ไม่ว่าจะเป็นผู้ป่วยที่แสดงอาการหรือไม่แสดงอาการ (ดีที่สุดในช่วง 5-14 วัน จากนับจากวันรับเชื้อ) หากพ้นระยะ 14 วันและหายป่วยแล้วก็จะไม่สามารถตรวจหาเชื้อเจอ วิธีตรวจโควิด Rapid Antigen Test ด้วยตัวเอง ก่อนอื่นเตรียมพื้นที่ซึ่งไม่มีการปนเปื้อน ล้างมือให้สะอาด หากมีน้ำมูกควรเคลียร์จมูกก่อน ตรวจสอบวันหมดอายุของชุดตรวจ แกะบรรจุภัณฑ์ออก โดยปกติชุดตรวจจะประกอบด้วย ก้านสำลีสำหรับ Swab หลอดใส่น้ำยาตัวอย่าง ฝาหยด ตลับทดสอบ และเอกสารกำกับ ทำการอ่านเอกสารกำกับอย่างถี่ถ้วน แต่ละยี่ห้ออาจมีรายละเอียดแตกต่างกันบ้าง […]
วิธีไหนใช้ทำความสะอาดไม้ใบ ให้สะอาดและดีต่อสุขภาพพืช
หลายคนอยากให้เหล่าไม้ใบที่ปลูกอยู่มีใบเงามันสวยงามเหมือนตอนที่ซื้อจากร้านค้ามาในช่วงแรก ๆ เพราะ เวลาปลูกต้นไม้ไว้ที่บ้านนาน ๆ ก็มักจะมีคราบสกปรกจากฝุ่นเกาะอยู่ตามผิวใบ ทำให้ใบดูไม่เขียวสดใสเหมือนเดิม บ้านและสวน จึงมาหาคำตอบให้ดูว่า มีวิธีไหนที่จะช่วย ทำความสะอาดไม้ใบ ให้กลับมาเขียวสดใสขึ้นกันได้บ้าง สเปรย์สำหรับฉีดเพิ่มความเงาให้ใบ ใช้ง่ายเพียงแค่ฉีดพ่นในระยะห่างจากใบประมาณ 10 ซม. แต่ด้วยความที่น้ำยาสเปรย์ก็มีส่วนผสมของน้ำมันหรือแว็กซ์เพื่อสร้างความเงางาม จึงอาจมีการอุดตันต่อผิวใบ ทำให้ใบนั้นไม่สามารถสังเคราะห์แสงหรือคายน้ำได้ดีและอาจส่งผลให้ใบนั้นเหี่ยวแห้งตายในที่สุด ทำความสะอาดไม ไม่ว่าจะเป็น น้ำมันมะกอก น้ำมันมะพร้าว หรือน้ำมันพืช เมื่อนำมาเช็ดก็จะให้สัมผัสของใบเงางามวิบวับขึ้นมาทันที แต่ตัวน้ำมันสามารถเคลือบผิวของใบ ทำให้ใบไม่สามารถสังเคราะห์แสงหรือคายน้ำได้ ส่งผลให้ใบนั้นเหี่ยวแห้งตาย โดยเฉพาะผิวใบที่มีขน ๆ อย่าง ไทรใบสัก เมื่อถูกเคลือบด้วยน้ำมันจะทำให้ใบไหม้ได้ เราจึงไม่ค่อยอยากแนะนำให้ใช้ น้ำอัดลมก็สามารถช่วยให้เกิดความเงามันบนผิวใบได้ดี แม้จะไม่เงาวับเท่ากับน้ำมันก็ตาม แต่น้ำอัดลมจะทำให้ผิวใบเกิดความเหนียวที่เป็นเหมือนตัวเคลือบการคายน้ำและสังเคราะห์แสงของใบได้เช่นกัน อีกทั้งความเหนียวยังกลายเป็นตัวกักเก็บฝุ่นได้ง่ายขึ้นด้วย เราจึงไม่แนะนำให้ใช้ การหยดน้ำยาล้างจานเพียง 2-3 หยดลงในน้ำเปล่า 1 ลิตร เพื่อนำมาเช็ดที่ใบ ไม่ได้มีวัตถุประสงค์เพื่อให้เกิดความเงางาม แต่ใช้เพื่อกำจัดล้างแมลงเล็ก ๆ หรือไข่แมลงที่เกาะอยู่ตามใบ ถ้าเป็นต้นที่มีใบเล็ก ๆ จำนวนมากก็สามารถยกมาล้างในห้องน้ำ หรืออ่างล้างหน้าได้ แต่ไม่ควรใช้แปรงขนมาทำความสะอาด เพราะ […]
BCG คืออะไร หรือคือทางออกเศรษฐกิจไทยในอนาคต
เศรษฐกิจประเทศไทยจะเดินหน้าต่อไปอย่างไร BCG คืออะไร สำคัญอะไรกับเรามากน้อยแค่ไหน คำตอบอาจอยู่ในคำสามคำที่ว่าด้วย Bioeconomy, Circular Economy และ Green Economy
รวมทุกเรื่องที่ควรรู้เกี่ยวกับการปลูกต้นไม้ทุกชนิดในสวน
จะจัดสวนต้องซื้อต้นไม้แบบไหนบ้าง? แล้วซื้อมาแล้วจะมาปลูกที่บ้านอย่างไรให้ไม่ตาย? สำหรับใครที่กำลังมองหาซื้อต้นไม้สำหรับจัดสวน หรือพึ่งเริ่มต้นจัดสวนเองที่บ้าน แต่ไม่เคยปลูกต้นไม้รอบมาก่อน เราได้รวบรวมเรื่องที่คุณต้องรู้เกี่ยวกับการปลูกต้นไม้ชนิดต่างๆ การเลือกพรรณไม้ในการจัดสวน รวมไปถึงการปลูกต้นไม้แต่ละแบบอย่างถูกต้อง แบบที่เมื่อคุณอ่านจบคุณจะกลายเป็นผู้มีความรู้แบบนักจัดสวนได้ในทันที ต้นไม้ใหญ่ ต้นไม้ใหญ่ หมายถึง ต้นไม้ยืนต้นที่มีลำต้นตั้งตรง สูงได้มากกว่า 6 เมตร และแผ่ทรงพุ่มด้านบน จุดประสงค์หลักของการปลูกส่วนใหญ่เพื่อให้ร่มเงากับทั้งคนที่อยู่ด้านล่างใต้ต้นไม้ไปจนถึงตัวบ้านด้านข้าง นอกจากนั้นยังช่วยสร้างจุดเด่นในสวน ซึ่งต้นไม้ใหญ่แต่ละชนิดจะมีรูปทรงและลักษณะเด่นต่างกันไป สามารถเลือกไปใช้ตามความเหมาะสม ข้อควรระวังในการปลูกต้นไม้ใหญ่ – รากชอนไชแผ่ขยายจนดันพื้นคอนกรีต บ่อปลา หรือสิ่งก่อสร้างจนแตกร้าว ควรแก้ปัญหาด้วยการปลูกต้นไม้ลงในกระถางก่อน เมื่อต้นโตเต็มที่แล้วค่อยปลูกลงดิน อีกทั้งหมั่นตัดแต่งกิ่งไม่ให้แผ่ไปมาก หลีกเลี่ยงต้นไม้ที่มีระบบรากขนาดใหญ่หรือมีพูพอนอย่างไทร โพธิ์ จามจุรี พญาสัตบรรณ หรือหางนกยูงฝรั่ง -หมั่นตัดกิ่งที่เปราะหักง่ายจนหล่นมาเป็นอันตรายกับคนที่สัญจรไปมาหรือมีสิ่งก่อสร้างอยู่ใกล้ โดยเฉพาะต้นไม้ที่มีกิ่งเปราะอย่างชมพูพันธุ์ทิพย์ จามจุรี นนทรี เป็นต้น -หากปล่อยให้ต้นไม้ใหญ่สูงเกินไป ควรระวังเรื่องดินอ่อนทรุดตัว โดยเฉพาะบริเวณที่น้ำกัดเซาะหรือหลังจากฝนตกหนักใหม่ๆ อาจส่งผลให้ต้นล้มและเกิดความเสียหายได้ -ควรปลูกต้นไม้ให้เหมาะสมกับขนาดพื้นที่สวนว่ามีที่ว่างเพียงพอทั้งแนวราบและแนวตั้ง รวมไปถึงจำนวนที่เหมาะสมที่ทรงพุ่มไม่ชนกัน ดังนั้นก่อนปลูกจึงควรศึกษาข้อมูลพื้นฐานของต้นไม้ชนิดนั้นๆว่ามีรูปทรงเป็นอย่างไร ระดับความสูงเท่าไหร่ ทรงพุ่มแผ่กว้างได้แค่ไหน และโตเร็วหรือเปล่า เพื่อจะเตรียมพื้นที่ปลูกที่เหมาะสมและสามารถปลูกร่วมกับต้นไม้ชนิดอื่นในสวนได้ การปลูกต้นไม้ล้อมทำอย่างไร – แต่เดิมเราอาจเข้าใจผิดว่าควรขุดหลุมปลูกให้ลึกถึงจะดี เนื่องจากอาจคิดว่าดินจะช่วยพยุงโคนต้นให้ตั้งตรงได้เร็ว หรือเป็นความเข้าใจที่ผิดว่ารากจะสามารถลงไปแทงหาอาหารได้ลึก […]