ศูนย์รวม" สวนเมืองร้อน " ไอเดียสวนเมืองร้อน พรรณไม้สวนเมืองร้อน
สวนป่าข้างบ้าน

สวนป่าข้างบ้าน เขียวสะพรั่งบนพื้นที่ 200 ตารางเมตร

สวนป่าข้างบ้าน ในย่านลาดพร้าวที่มีหน้ากว้างเพียงแค่ 6 เมตร แต่กลับร่มครึ้มไปด้วยร่มเงาของต้นไม้ใหญ่ มีลำธารเล็กๆ ให้บรรยากาศราวกับป่าธรรมชาติ

สวนเมืองร้อน ของสถาปนิกระดับโลก

บ้านและสวนเดินทางไปประเทศศรีลังกา และมีโอกาสได้เยี่ยมชมบ้าน สวน และสถานที่สวยๆหลายต่อหลายแห่ง ที่หนึ่งที่เราประทับใจคือบ้านในสวนกว้างของสถาปนิกระดับปรมาจารย์ชาวศรีลังกาที่ชื่อ Geoffrey Bawa  หลายท่านอาจเคยได้ยินชื่อเสียงและเห็นภาพผลงานของเขามาบ้างแล้ว ที่นี่ทำให้เราได้เรียนรู้เรื่องราวก่อนที่เขาจะกลายเป็นผู้ที่ทำให้สถาปัตยกรรมและการจัดสวนสไตล์บาหลีเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก สวนเมืองร้อน บาวาเติบโตในครอบครัวเลือดผสมในยุคที่ประเทศศรีลังกายังเป็นเมืองขึ้นของประเทศอังกฤษ เขาได้รับการเลี้ยงดูแบบผสมผสานระหว่างวัฒนธรรมตะวันออกกับตะวันตก ดังนั้นความคิดความอ่านและมุมมองของเขาในเรื่องศิลปะวัฒนธรรมจึงกว้างขวาง แม้จะเรียนจบทางด้านกฎหมายในปี 1942 และเริ่มทำงานเป็นทนายความตามที่บิดาคาดหวังไว้ แต่หลังจากทำงานนี้ได้ไม่นานเขาก็เริ่มเบื่อหน่าย ในที่สุดบาวาก็ลาออกจากงานและไปท่องเที่ยวทวีปยุโรปในปี 1946 การเดินทางครั้งนี้ทำให้เขาหลงใหลในสุนทรียภาพของสถาปัตยกรรมและภูมิสถาปัตยกรรมคลาสสิกของประเทศอิตาลี เขาได้เห็น “วิลล่า” หรือคฤหาสน์บนเขาที่มีสวนและทิวทัศน์โดยรอบที่เชื่อมต่อกันเป็นหนึ่งเดียว เมื่อเดินทางกลับประเทศศรีลังกาในปี 1948 เขาได้ซื้อสวนยางพาราเก่าที่ปล่อยทิ้งร้างบนภูเขาในเมืองเบนโตตา ซึ่งอยู่ทางตอนใต้ของประเทศ และหวังเป็นอย่างยิ่งที่จะแปลงโฉมที่ดินเสื่อมโทรมผืนนี้ให้กลายเป็นสวนสวยแบบที่เขาเคยเห็นในประเทศอิตาลี สวนยางแห่งนี้มีชื่อว่า “ลูนากังก้า” (Lunaganga) สวนสไตล์บาหลี บาวาพยายามออกแบบบ้านและจัดสวนด้วยตัวเอง แต่ก็ได้พบความจริงว่า เขามีความรู้พื้นฐานที่จำเป็นในการออกแบบบ้านและสวนไม่มากพอ ในปี1951 เขาตัดสินใจหางานทำในสำนักงานสถาปนิกเพื่อหาประสบการณ์เพิ่มเติม  และสมัครเข้าเรียนด้านสถาปัตยกรรมที่ Architectural Association สถาบันออกแบบที่มีชื่อเสียงของประเทศอังกฤษ ขณะนั้นเขามีอายุ 34 ปี และกลายเป็นนักศึกษาปีหนึ่งที่มีอายุมากที่สุดในโรงเรียน  สามสิบปีต่อมาบาวากลายเป็นสถาปนิกที่มีชื่อเสียงของประเทศศรีลังกา ผลงานของเขามีอิทธิพลต่อวงการออกแบบทั่วโลกในช่วงปลายศริสต์ศตวรรษที่ 20  เขาได้รับการยกย่องให้เป็นนักออกแบบที่ผสมผสานสุนทรียภาพจากระเบียบแบบแผนในงานออกแบบของยุโรปให้เข้ากับศิลปะวัฒนธรรม และเสน่ห์การใช้ชีวิตของชาวเอเชียใต้ได้อย่างกลมกลืน นอกจากงานในประเทศแล้ว เขายังมีงานออกแบบในกลุ่มประเทศเอเชียใต้และตะวันออกเฉียงใต้หลายแห่ง โดยเฉพาะที่โรงแรมบนเกาะบาหลีซึ่งกลายเป็นต้นแบบของอาคารในประเทศเขตร้อนที่เราเรียกว่า “สไตล์บาหลี”   […]

ร่มรื่นแบบสวนเมืองร้อนในกลิ่นอายของสวนชนบทฝรั่งเศส

สวนนี้เป็นการผสมผสานกลิ่นอายของบรรยากาศสวนชนบทในหมู่บ้านของฝรั่งเศส ด้วยการเลือกใช้พรรณไม้ที่มีสีสัน รูปทรง และความร่มรื่นแบบสวนเมืองร้อน

4 ทศวรรษ 4 นักจัดสวน กับ 4 แบบสวนยอดนิยม

รวมแบบสวนสวย จาก 4 นักจัดสวน 4 สไตล์ คือ สาโรช โสภณางกูร ,คุณวรวุฒิ แก้วสุก คุณศิริวิทย์ ริ้วบํารุง และคุณจาตุรงค์ ขุนกอง จาก Little Tree และบริษัทกิ่ง ก้าน ใบ จำกัด

สวนเมืองร้อน

ซึบซับธรรมชาติใกล้ตัวภายในสวนเมืองร้อน

คอนเซ็ปต์ของ สวนเมืองร้อน นี้คือการซ่อนความงามไว้ด้านใน เปิดตัวด้วยลานคาร์เป็ตสโตนที่นิ่งเรียบ แล้วทิ้งจุดไฮไลต์ไว้ตรงกลางหรือช่วงท้าย

จัดสวนมอสส์ ด้วยแรงบันดาลใจจากป่าดิบชื้น

การจัด สวนมอสส์ นี้ได้แรงบันดาลใจจากป่าดิบเขาสูง (Upper MontaneRain Forest) ซึ่งเป็นลักษณะหนึ่งของป่าในเขตร้อนชื้นบริเวณระดับสันเขาที่สูงทั่วทั้งประเทศ

สร้าง “สวนป่าในบ้าน” ใจกลางกรุง

สวนป่า บ่อปลา น้ำตกในสวน ในบ้านใจกลางกรุงหลังนี้มีต้นแบบมาจาก “กิ่วแม่ปาน” ในเขตอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ จังหวัดเชียงใหม่

ใต้ร่มเงาไม้ใน สวนเมืองร้อนกลิ่นอายไทย

สวนเมืองร้อนกลิ่นอายไทย เพราะด้วยวัสดุอย่างกระเบื้องดินเผา อิฐมอญ ไม้หมอนรถไฟ และหินธรรมชาติ อีกทั้งสวนที่ร่มรื่น มีมุมนั่งเล่นที่เดินเข้าไปแล้วรู้สึกสงบ

Tropical Gently Classic สวนป่าละมุนละไม

การผสมผสานความต่างของสองสไตล์อย่างลงตัวระหว่างพรรณไม้ที่เหมาะกับสวนเมืองร้อนและการตกแต่งสวนสไตล์ยุโรป กลายเป็นรูปแบบที่เข้ากันได้อย่างลงตัว ซึ่งเกิดจากความตั้งใจของ คุณม่วย – อุบลรัตน์ สุวรรณโพธิ์ศรี ที่ต้องการบรรยากาศของสวนที่ร่มรื่น ดูโปร่ง ไม่ปิดทึบจนรู้สึกอึดอัด แต่ยังให้ความเป็นส่วนตัวเวลาใช้งานในสวน “ก่อนหน้านี้บ้านกับสวนมีสภาพเก่าทรุดโทรมมาก ต้นไม้ใหญ่ขึ้นเบียดเสียดอยู่ในพื้นที่เดียวกันจนแสงแดดส่องลงมาไม่ถึงสนามหญ้ากับไม้พุ่มเล็กที่อยู่ด้านล่าง ทำให้หญ้าและต้นไม้ส่วนใหญ่แห้งตาย มีบ่อเลี้ยงปลาที่ใช้หินกั้นทำเป็นขอบบ่อซึ่งเจ้าของเดิมทำไว้ เวลาฝนตกน้ำจะพาเอาดินที่ชะล้างไหลซึมเข้าในบ่อ เป็นสาเหตุให้น้ำขุ่นและปลาในบ่อทยอยตาย จึงตัดสินใจนำปลาที่เหลือไปปล่อยลงบึงธรรมชาติใกล้บ้าน ปัญหาใหญ่ของที่นี่คือเรื่องดินทรุดจนเกิดเป็นโพรงใต้บ้าน กลัวจะกลายเป็นที่อยู่ของสัตว์เลื้อยคลาน จึงติดต่อให้นักจัดสวนเข้ามาช่วยแก้ไขปัญหา พร้อมทั้งถมดินตรงบ่อน้ำเก่าเพื่อใช้เป็นที่ปลูกต้นไม้แทน ส่วนรูปแบบสวนเราให้โจทย์ผู้ออกแบบ คุณปุ้ย – เฉลิมศักดิ์ บุญทวี และ คุณอ๊อบ – ภาณุยศปริกสุวรรณ จาก P_do Landscape Studio ไปว่าต้องการสวนและพรรณไม้ที่ดูแลง่าย มีต้นไม้ใหญ่บ้าง โดยเก็บต้นเดิมเอาไว้บางส่วน และอยากได้กลิ่นอายความเป็นสวนยุโรปนิดหน่อย เห็นช่วงนี้เขากำลังฮิตกัน” เจ้าของบ้านพูดพลางหัวเราะไปด้วย คุณอ๊อบอธิบายถึงการแก้ปัญหา แนวทางการออกแบบ รวมถึงฟังก์ชันการใช้งานในสวนให้ฟังว่า “ของเดิมดินอยู่ในระดับต่ำกว่านี้มากเห็นเป็นโพรงใต้บ้านเลย ผมจึงใช้วิธีขุดหลุมลึกประมาณ 70 – 80 เซนติเมตร วางแผ่นคอนกรีตสำเร็จแนบชิดกับผนังรอบบ้าน ก่อนใช้ปูนเชื่อมติดเป็นผืนเดียวกันอีกครั้ง ลดปัญหาดินสไลด์ใต้โพรงบ้าน บรรเทาเรื่องการทรุดตัวของดินได้พอสมควร จากนั้นนำดินมาถมเพิ่มให้ได้ระดับความสูงที่ต้องการและเผื่อดินยุบตัวในอนาคต […]

พักกาย พักใจ ในสวนเมืองร้อน

“กรุงเทพฯ นั้น เต็มไปด้วยรถรา มองไปทางไหนก็มีแต่ตึกรามบ้านช่อง มีป่าคอนกรีตขึ้นแทนต้นไม้ การได้พบเจอธรรมชาติเป็นสิ่งที่ผมโหยหา จึงได้เป็น สวนเมืองร้อน อย่างที่เห็น” นั่นคือความในใจที่เจ้าของบ้านหลังนี้บอกกับเรา สวนเมืองร้อน บนเนื้อที่ประมาณ 225 ตารางวา แบ่งเป็นที่พักอาศัย 100 ตารางวาที่เหลือใช้เป็นพื้นที่จัดสวน แม้เทรนด์การจัดสวนจะมีให้เลือกหลากหลาย ทว่า “สวนเมืองร้อน” ยังคงได้รับความนิยมอยู่เสมอบรรยากาศรอบตัวที่โอบล้อมด้วยธรรมชาติของต้นไม้และสายน้ำ มีลมพัดโชยมาตลอดเวลา ชวนให้รู้สึกน่าพักผ่อน จึงเป็นความต้องการหลักของเจ้าของบ้าน คุณไห – ทินกร ศรีวัฒนะธรรมา ผู้ออกแบบสวนเล่าว่า “ตอนผมเข้ามาจัดสวนนี้ เจ้าของบ้านอยู่อาศัยมาได้ประมาณ 6 ปีแล้ว จึงพอมีพื้นที่สวนอยู่บ้าง ความต้องการหลักคืออยากได้อารมณ์แบบสวนป่า มีธารน้ำตก ศาลานั่งเล่น และพื้นที่กิจกรรมของสมาชิกในครอบครัว ผมออกแบบให้ทั้งบ้านและสวนมีความต่อเนื่องกัน เริ่มจากเพิ่มร่มเงาให้บริเวณหน้าบ้านที่ต้องโดนแดดตลอดทั้งวัน โดยปลูกปาล์มหางกระรอก ไม้ทรงสูงฟอร์มสวยงาม ดูแลง่าย ที่สำคัญใบไม่ร่วงมาก ตลอดแนวรั้วเลือกปลูกคริสตินาเพื่อบังสายตาจากภายนอก สร้างความรู้สึกเป็นส่วนตัวให้ผู้ใช้งานในสวน ตบท้ายด้วยการปลูกไม้พุ่มและไม้คลุมดินอย่างหมากผู้หมากเมีย พุดศุภโชค เข็มชมพู คล้า และเฟินใบมะขาม ให้มีความต่อเนื่องกัน บริเวณนี้เคยเป็นสนามหญ้า นอกจากต้องคอยตัดแต่งเป็นประจำแล้ว ในช่วงฤดูฝนยังค่อนข้างเฉอะแฉะ […]

หลง (ใหล) ในป่า

วันนี้เรามีนัดกับ คุณบอย – สุรพงค์ โอวรารินท์ นักจัดสวนจาก Scenery Concept Landscape Design & Contractor ที่บ้านหลังหนึ่งในย่านปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี เราเดินทางมาถึงก่อนเวลานัดหนึ่งชั่วโมงเพื่อสัมผัสความสดชื่นของสวนในยามเช้า ประจวบเหมาะกับช่วงเวลานั้นระบบรดน้ำอัตโนมัติทำงานพอดี บรรยากาศรอบตัวจึงเหมือนมีฝนตกพรำๆ อากาศเย็นและชื้น มองเห็นละอองน้ำเกาะพราวอยู่ตามใบไม้ การได้อยู่ภายใต้ร่มเงาของไม้ใหญ่ ฟังเสียงนกร้องคลอไปกับเสียงน้ำไหล นี่แหละคือสวรรค์ของคนรักธรรมชาติอย่างแท้จริง “ผมอยากได้สวนอารมณ์แนวป่าๆ มีต้นไม้เยอะ ดูเขียวๆ ร่มรื่น เห็นแล้วสบายตา” คุณหมี – สกนธ์ ตันโชติกุล เจ้าของบ้านกล่าว ก่อนจะเล่าต่อว่า “น้ำตกกับบ่อปลาเพิ่งมาเพิ่มทีหลัง เนื่องจากกังวลว่าตัวเองจะไม่ค่อยมีเวลาดูแลมากนัก เลยขอให้คุณบอยทำเป็นลานสนามหญ้าไปก่อน ซึ่งเขาก็แนะนำเราตั้งแต่ทีแรกแล้วว่าบริเวณนี้เป็นพื้นที่ร่ม แสงอาจไม่เพียงพอสำหรับหญ้า แต่ขอเขาไว้ว่าลองดูก่อน ผลปรากฏว่าอยู่ได้แค่ไม่กี่เดือนก็ตายเรียบ (หัวเราะ) ครั้งที่สองคุณบอยเลยเสนอทางเลือกให้ว่าอยากเปลี่ยนเป็นอะไร ระหว่างพื้นกรวด ลานกิจกรรม หรือบ่อปลา คิดอยู่สักพัก ไหนๆ จะทำทั้งที ขอทำในสิ่งที่ตัวเองชอบก็แล้วกัน ตัดสินใจเลือกทำบ่อปลาแทน ผู้ออกแบบก็ทำออกมาได้สอดรับกับแนวสวนของเรามาก เป็นน้ำตกสองชั้นคล้ายลำธารไหลต่อเนื่องไปยังมุมศาลานั่งเล่น” คุณบอยกล่าวเสริมว่า “ศาลากับผนังน้ำตกเป็นของแถมมาพร้อมกับบ้าน ที่เหลือรื้อออกหมด แต่เก็บไม้ใหญ่อย่างคูนและชงโคไว้สองต้น […]

Jungle Book ป่าศึกษา

หลายคนคงได้ยินข่าวคราวของ “โครงการป่าในกรุง” โดย ปตท. ผ่านสื่อหลายแขนงกันมาพอสมควร บางคนอาจกำลังตัดสินใจว่าควรไปชมดีหรือไม่ ครั้งนี้เป็นโอกาสอันดีที่ผมได้ไปเยือนและเก็บภาพรวมของโครงการดังกล่าวมาฝากคุณผู้อ่านทุกท่านกันครับ โครงการป่าในกรุงตั้งอยู่บนถนนสุขาภิบาล 2 ในเขตชานเมืองของกรุงเทพมหานคร บนพื้นที่กว่า 12 ไร่ มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นแหล่งเรียนรู้เรื่องการปลูกป่าตามวิถี ปตท. ซึ่งเป็นองค์ความรู้ที่เกิดจากการปลูกป่า 1 ล้านไร่ นับตั้งแต่ปี พ.ศ. 2537 ให้แก่ประชาชนทั่วไปและนักศึกษาที่สนใจ ทันทีที่เข้ามาภายในโครงการผมรู้สึกได้ถึงความเย็นสบายจากพื้นดินชุ่มน้ำใต้ร่มเงาไม้ใหญ่ แตกต่างกับความร้อน จากไอแดดของถนนคอนกรีตด้านนอก พื้นทางเดินหญ้าสีเขียวทอดนำไปสู่ทางเดินที่ขนาบด้วยนิทรรศการเมล็ดพันธุ์แห่งป่าที่จัดวางตลอดแนวผนังดินบดอัดสีสวย ก่อนนำไปสู่อาคารนิทรรศการที่จัดแสดงนิทรรศการน่าสนใจมากมาย ตั้งแต่บอกเล่าถึงสภาพป่าเดิมในกรุงเทพมหานคร อันเป็นที่มาของชื่อย่านต่างๆ ไปจนถึงห้องฉายภาพยนตร์ปลุกจิตสำนึกเกี่ยวกับการรักษาสิ่งแวดล้อมในเมือง อาคารแห่งนี้ยังมีพื้นที่ดาดฟ้าซึ่งมีส่วนช่วยป้องกันความร้อนให้เข้าสู่ตัวอาคารน้อยลง และยังเป็นพื้นที่สำหรับพักผ่อนและชมวิวทิวทัศน์ของโครงการอีกจุดหนึ่งด้วย ส่วนพื้นที่ภายนอกจัดเป็นสวนป่าเลียนแบบระบบนิเวศเดิมของพื้นที่บริเวณนี้คู่กับบ่อน้ำขนาดใหญ่ที่จัดให้มีระบบหมุนเวียนน้ำและความลึกในระดับต่างกัน เพื่อให้เกิดลักษณะภูมิประเทศที่หลากหลาย ตั้งแต่พื้นที่ริมน้ำ ป่าน้ำตก เขาหินปูน ป่าดิบลุ่มไปจนถึงป่าเบญจพรรณ โดยเราสามารถศึกษาระบบนิเวศต่างๆ ในป่าได้จากการเดินบนทางเดินชมเรือนยอด (skywalk) อีกหนึ่งสิ่งที่สำคัญและน่าสนใจไม่น้อยคือลักษณะและรูปแบบการสร้างป่านิเวศตามแนวคิดของ ศาสตราจารย์ ดร.อาคิระ มิยาวากิ ซึ่งใช้เวลาเพียง 2 – 3 ปีในการสร้างป่าที่สมบูรณ์ มีหลักการง่ายๆ ที่สามารถทำตามได้ไม่ยาก เริ่มต้นจากการสร้างเนินดินและเตรียมดิน โดยดินชั้นล่างเป็นดินเหนียวที่มีความเป็นกรดเล็กน้อย จากนั้นถมดินชนิดเดิมแต่ผสมทรายขี้เป็ดในอัตราส่วน […]