© COPYRIGHT 2024 AME IMAGINATIVE COMPANY LIMITED.
ข้อมูลย้อนหลังจากกองจัดการคุณภาพอากาศและเสียง กรมควบคุมมลพิษ ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ทำการตรวจสอบคุณภาพอากาศและสถานการณ์หมอกควันในประเทศไทย จะเห็นชัดเจนว่าค่าตัวเลขของฝุ่นนั้นเกินค่ามาตรฐานมากขึ้นทุกปี โดยทาง WHO หรือ องค์การอนามัยโลกกำหนดว่า หากมีเกินกว่า 25 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ถือเป็นอันตรายต่อสุขภาพ ขณะที่ประเทศไทยกำหนดอันตรายของฝุ่น PM 2.5 อยู่ที่ 50 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร แต่ไม่ว่าจะถือมาตรฐานใด นั่นก็เป็นหนึ่งสาเหตุหลักที่ทำให้คนไทยมีปัญหาด้านทางเดินหายใจเพิ่มขึ้นทุกๆ ปี อันตรายจาก PM 2.5 ที่ไม่ควรมองข้าม ฝุ่น PM 2.5 หรือ Particulate Matters 2.5 คือ ฝุ่นละอองในอากาศที่มีขนาดอนุภาคเล็กกว่า 2.5 ไมครอนหรือไมโครเมตร ในบ้านเราปัญหาของ PM 2.5 ตลอดทั้งปี โดยจะทวีความรุนแรงมากเป็นพิเศษช่วงปลาย-ต้นปี โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคเหนือและกรุงเทพฯ และด้วยขนาดของฝุ่นที่เล็กมากทำให้เราจึงมองไม่เห็นได้ด้วยการมองปกติ อีกทั้งยังสามารถลอดผ่านการกรองของขนจมูกไปยังหลอดลม ลงลึกจนถึงถุงลมปอดและซึมเข้าสู่กระแสเลือด จึงทำให้ทุกคนที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงก็มีโอกาสสามารถเป็นโรคทางเดินหายใจได้ทุกคน โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยงอันตรายอย่างเด็ก สตรีมีครรภ์ ผู้สูงอายุ โดยหากได้รับ ฝุ่น PM 2.5 ในปริมาณที่เกินกำหนดจะมีอาการแสบจมูก เป็นหวัด […]
ช่วงฤดูหนาวไม่ได้มีแค่ความเย็นและบรรยากาศของการเฉลิมฉลองปีใหม่เท่านั้น แต่ยังมีปัญหาฝุ่นละออง PM 2.5 หรือฝุ่นขนาดเล็กไม่เกิน 2.5 ไมครอน ที่จะมาเป็นแขกไม่ได้รับเชิญทุกครั้งเช่นกัน โดยจะยิ่งทวีความรุนแรงเป็นอย่างมากในช่วงเดือนมกราคมจนกระทั่งต้นเดือนเมษายนของทุกปี ด้วยขนาดของ PM 2.5 ที่เล็กกว่าฝุ่นละอองชนิดอื่น ทำให้แม้จะปิดประตูและหน้าต่างอย่างดีแล้ว ฝุ่นเหล่านี้ก็ยังสามารถเล็ดรอดเข้ามาทางช่องระบายอากาศ ช่องว่างของวงกบหรือแม้กระทั่งรอยร้าวต่างๆ รวมถึงอากาศเสียและมลภาวะอื่นๆ สร้างปัญหาสุขภาพให้กับเราและครอบครัวที่เรารักได้ แค่เครื่องฟอกอากาศเพียงพอหรือไม่? ปัจจุบันการแก้ปัญหาฝุ่นละอองที่เข้ามาในบ้านโดยส่วนใหญ่จะเลือกใช้เครื่องฟอกอากาศ ซึ่งผลลัพธ์ของเครื่องฟอกอากาศนั้นสามารถช่วยได้เพียงส่วนหนึ่ง อีกทั้งยังเป็นการแก้ปัญหาเรื่องสุขภาพที่ปลายเหตุ เนื่องจากเครื่องฟอกอากาศจะเป็นการกรองอากาศในบ้านให้สะอาดขึ้นเท่านั้น แต่ไม่สามารถกรองมลพิษ เชื้อโรคหรือแม้กระทั่งกลิ่นรบกวนเข้าสู่ตัวบ้านได้ตั้งแต่ต้น นั่นจึงทำให้การเลือกใช้เพียงเครื่องฟอกอากาศ ไม่เพียงพอต่อการสร้างอากาศที่มีคุณภาพสำหรับการอาศัยที่ดี ซึ่งสามารถแก้ปัญหาได้ด้วยนวัตกรรมใหม่อย่าง SCG Active AIR Quality สำหรับสร้างอากาศที่มีคุณภาพ สามารถป้องกันได้ทั้งมลพิษ ฝุ่น PM 2.5 เชื้อโรค แบคทีเรียและไวรัสได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้ก็เพื่อให้การใช้ชีวิตและสุขภาพของคุณและครอบครัวนั้นเต็มเปี่ยมไปด้วยคุณภาพในระยะยาว SCG Active AIR Quality เพิ่มคุณภาพอากาศ เพิ่มคุณภาพชีวิต การทำงานของ SCG Active AIR Quality จะแก้ปัญหาเรื่องของอากาศภายในบ้านได้อย่างตรงจุดตั้งแต่จุดเริ่มต้น ด้วยการทำงานของอุปกรณ์ในระบบอย่าง Supply Air […]
