- Home
- Plant-scoop
Plant-scoop
ไขข้อสงสัยซื้อกล้วยด่างแท้-กล้วยด่างเทียม ดูอย่างไร ไม่ให้โดนหลอก
ในระยะเวลากว่า 3 เดือนที่ผ่านมา วงการไม้ด่างเริ่มเติบโตและแตกแขนงกลุ่มสมาชิกออกไปเรื่อยๆ จากเดิมที่นิยมกันแค่กลุ่มไม้ด่างในวงศ์ Araceae ก็เริ่มขยายสู่กลุ่มไม้ด่างชนิดอื่นๆ ซึ่งป้ายต่อไปคือ “กล้วยด่าง” ที่แต่เดิมนิยมกันเพียงกลุ่มสมาชิกเล็กๆไม่กี่คน ปัจจุบันกลายเป็นกลุ่มใหญ่ที่เริ่มได้รับความนิยมในวงกว้าง และกำลังเป็นขุมรายได้ที่ทำเงินมหาศาล สวนกระแสกับธุรกิจชนิดอื่นๆที่กำลังซบเซาอยู่ในตอนนี้ ทำให้เริ่มมีพ่อค้าแม่ค้าที่ขาดจรรยาบรรณหรือความรู้แฝงตัวเพื่อจำหน่ายกล้วยด่างเทียมอยู่ด้วยเช่นกัน ดังนั้นเราควรมาศึกษาวิธีการแยก “กล้วยด่างแท้” และ “กล้วยด่างเทียม” จากประสบการณ์ของผู้ที่อยู่ในวงการและเริ่มสะสม กล้วยด่าง มาเป็นระยะเวลายาวนานโดยคุณโอ๊ต-อัศวเดช ตั้งโยธาพิพัฒน์กุล นิยามของ “กล้วยด่างแท้” กล้วยด่างที่มีราคาและทำการซื้อขายกันในหมู่นักสะสม คือกล้วยด่างที่เกิดจากความผิดปกติในระดับพันธุกรรมที่เกิดการกลายเฉพาะจุด สามารถสังเกตเห็นได้จากภายนอกทางส่วนใบ ลำต้น ไปจนถึงผล ซึ่งเกิดความสม่ำเสมอไม่เท่ากัน กลายเป็นสีสันและลวดลายที่ผิดแปลกไปจากกล้วยปกติ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นสีเขียวทั้งต้น โดยความผิดปกตินี้จะเกิดกับต้นกล้วยต้นนั้นไปตลอด แม้ว่าต้นนั้นจะอยู่ในสภาวะสมบูรณ์หรือไม่ก็ตาม ลักษณะผิดปกติดังกล่าวก็จะเกิดขึ้นและไม่กลับไปมีใบเขียวเหมือนต้นกล้วยปกติได้อย่างแน่นอน ต่างจากกล้วยด่างเทียมซึ่งเกิดกับต้นที่มีพันธุกรรมของกล้วยแบบปกติ แต่แสดงความผิดปกติออกมาคล้ายต้นกล้วยด่างจนหลายคนแยกไม่ออก ซึ่งหากต้นกล้วยต้นนั้นได้รับการดูแลเป็นอย่างดีและอยู่ในสภาพสมบูรณ์ก็จะกลับไปมีใบสีเขียวตามเดิมในธรรมชาติ กลโกง กล้วยด่างเทียม กล้วยด่างเทียมเกิดได้จากหลายปัจจัย ส่วนมากเกิดจากการขาดสารอาหาร ทำให้ใบและลำต้นมีอาการใบเหลืองและสีซีดอ่อน ไม่สม่ำเสมอกัน คล้ายกับลักษณะใบด่างโดยความผิดปกติทางพันธุกรรม แม้จะรดน้ำและกลับมาดูแลให้สารอาหารที่เหมาะสม บางต้นก็ต้องใช้เวลานานเป็นเดือนกว่าจะมาแสดงให้เห็นว่าเป็นสีเขียวตามเดิม รองลงมาคือโรคระบาดอันมาจากของเชื้อไวรัส เช่น Mosaic Virus จะมีอาการด่างเหลือง บางเป็นดวงทั่วทั้งใบ ไม่ให้ผลผลิต และมักแพร่ไปติดยังต้นอื่นๆในสวน […]
รวมต้นไม้ดอกหอมหายาก ออกดอกสวยและให้ร่มเงา น่าสะสมและปลูกในสวน
เสน่ห์ของดอกไม้หอมไม่เคยห่างหายไปจากใจหรือสวนไหนๆ ไม่ว่าจะกี่ยุค กี่สมัย ซึ่งไม้ดอกหอมแต่ละชนิดก็จะมีกลิ่นหอมเฉพาะตัวแตกต่างกันไป บ้างหอมมาก หอมน้อย หอมอ่อนๆ ถูกใจแต่ละคนต่างกัน ซึ่งในประเทศไทยพบต้นไม้ดอกหอมในธรรมชาติหลากหลายชนิด บางชนิดเป็นที่นิยมนำมาตกแต่งสวนหรือใช้พรรณาความงามในงานวรรณกรรมไว้มากมาย ไม้ดอกหอมหายาก แต่ยังมีต้นไม้หอมหลายชนิดที่พึ่งถูกค้นพบหรือไม่ค่อยเป็นที่รู้จักแพร่หลายนัก แม้จะมีกลิ่นหอมและความงามไม่แพ้ไม้หอมที่เป็นที่นิยมแต่อย่างใด ซึ่งเราได้รวบรวมไม้ดอกหอมหายากมาให้ทุกท่านได้รู้จัก ดังนี้ ไม้ดอกหอมหายาก มังตาน ชื่อวิทยาศาสตร์ Schima wallichii (DC.) Korth. วงศ์ THEACEAE ต้นไม้ยืนต้นขนาดกลาง สูง 15-20 เมตร ไม่ผลัดใบ ออกดอกในช่วงเดือนธันวาคมถึงเมษายน แต่ละช่อดอกทยอยบานเต็มต้นอยู่ราว 2 สัปดาห์ บานได้ 2 วันถึงจะร่วง ส่งกลิ่นหอมอ่อนตลอดวัน ควรปลูกไว้กลางแจ้งห่างจากต้นอื่นอย่างน้อย 5 เมตร บริเวณที่มีอากาศเย็นจะออกดอกดกกว่าบริเวณพื้นที่ที่อากาศร้อนจัด อรัญญิการ์ ชื่อวิทยาศาสตร์ Faradaya splendida F.Mu..ll.วงศ์ LAMIACEAE ไม้เลื้อยทอดยาวได้ไกล ทยอยออกดอกตลอดปี มองเห็นช่อดอกสีขาวตัดกับสีเขียวเข้มของใบได้ชัดเจน ดอกจะทยอยบานทั้งช่อ บานเพียงวันเดียวก็โรย ส่งกลิ่นหอมอ่อนๆในช่วงเย็น เหมาะกับปลูกตามซุ้มทางเดินบริเวณที่แสงแดดจ้าเพื่อกันความร้อน หากตัดแต่งทรงพุ่มอยู่เสมอจะดูเป็นระเบียบและออกดอกได้สวยงาม จันทน์กะพ้อ ชื่อวิทยาศาสตร์ […]
12 ไม้ประธานฟอร์มสวยที่นิยมใช้ในงานจัดสวน
ไม้ประธาน คือ ต้นไม้ใหญ่ที่ช่วยสร้างความน่าสนใจให้มุมสวนได้ดี จึงนิยมเลือกต้นที่มีรูปทรงสวยงามมาใช้กัน เราได้รวบรวม 12 ต้นไม้ฟอร์มสวยที่นิยมนำมาสร้างจุดเด่นให้สวน จะมีต้นอะไรบ้างนั้นไปชมกันเลย ไม้ประธานจัดสวน 1. เสม็ดแดง ชื่อวิทยาศาสตร์: Syzygium Gratum (Wight) S.N.Mitra Var.Gratum วงศ์: MYRTACEAE ไม้ต้นขนาดกลาง ไม่ผลัดใบ สูงถึง 20 เมตร มีถิ่นกำเนิดประเทศอินเดีย พม่า มาเลเซีย จนถึงฟิลิปปินส์ ทรงพุ่มกลม ลำต้นสีน้ำตาลปนเทา มักบิดงอ กิ่งอ่อนเป็นทรงสี่เหลี่ยม ใบเดี่ยวเรียงตรงข้าม ใบรูปรีแคบหรือรูปไข่ ปลายใบแหลม โคนใบสอบมน ใบค่อนข้างหนามัน ใต้ใบสีอ่อน ออกดอกเป็นช่อตามซอกใบและปลายกิ่ง สีขาวอมเขียว ไม่มีก้านดอก กลีบดอก 5 กลีบ รูปทรงมน มีขนาดเล็ก ออกดอกเดือนพฤษภาคม-กรกฎาคม ติดผลเป็นพวง ผลทรงกลมสีขาวขุ่น อัตราการเจริญเติบโตปานกลาง ต้องการน้ำมาก ทนน้ำท่วม แสงแดดตลอดวัน ควรปลูกในพื้นที่กว้างให้ได้รับแสงเต็มที่ ระยะปลูกที่เหมาะสม […]
แนวทางเปลี่ยนพื้นลานแข็ง และทำทางเท้าให้ดีต่อต้นไม้ใหญ่
ต้นไม้ใหญ่จำเป็นกับเราเสมอ ทั้งประโยชน์ด้านความร่มเย็นจากเงาไม้ในเวลากลางวัน ช่วยให้อุณหภูมิเย็นลงและดูดซับมลภาวะต่าง ๆ อีกทั้งยังให้สุนทรียภาพและความสวยงามกับเมืองและคนที่สัญจรผ่านไปมา โดยเฉพาะบริเวณพื้นที่ทางเท้าและริมถนน แต่รู้หรือไม่ว่าต้นไม้ริมทางเหล่านั้นก็ควรได้รับการดูแลให้สวยงามและถูกต้อง ต้นไม้ใหญ่ในเมืองหลายต้นได้รับการดูแลไม่ถูกวิธีทำให้เติบโตได้ไม่เต็มที่ ทรุดโทรมและเริ่มตายลงในที่สุด กลุ่ม BIG Trees ร่วมกับเครือข่ายต้นไม้ในเมือง, บริษัทรุกขกร วิสาหกิจเพื่อสังคม จํากัด และสมาคมรุกขกรรมไทยจึงได้เสนอแนวทางการปรับเปลี่ยนพื้นที่บริเวณพื้นลานแข็ง และ ทำทางเท้าให้ดีกับต้นไม้ใหญ่และการใช้งานของคนทั้งพื้นที่สาธารณะหรือในบ้านของเรา ดังนี้ แนวทางการปรับเปลี่ยนพื้นที่บริเวณพื้นลานแข็ง และทำทางเท้าให้ดีต่อต้นไม้ใหญ่และการใช้งานของคน 1.เปิดแผ่นปูทางเท้ารอบต้นใหญ่เดิมออกให้หมด โดยมีรัศมีความกว้างออกจากบริเวณโคนต้นอย่างน้อยครึ่งหนึ่งของระยะทรงพุ่มด้านบน ซึ่งเป็นระยะที่ต้นไม้ควรได้รับน้ำฝนไหลซึมลงจากทรงพุ่มของต้นตกสู่ระบบรากใต้ดินในธรรมชาติ 2.ใช้เสียมลมเป่าดินหรือใช้เครื่องมือ ได้แก่ จอบ เสียมมือ ขุดดินรอบโคนต้นไม้ 3.ผสมวัสดุปลูก ได้แก่ ดินอินทรีย์ , ถ่านไบโอชาร์, กาบมะพร้าว และอิฐทุบขนาดเล็ก จากนั้นเติมเข้าไปที่โคนต้นบริเวณหลุม ซึ่งเตรียมไว้สําหรับใส่วัสดุปลูก 4.ทำทางเท้าหรือลานโดยรอบใหม่ด้วยวัสดุพรุน ที่น้ำและอากาศสามารถผ่านได้มากพอสำหรับระบบราก เช่น บล็อกพรุนหรือบล็อคปูหญ้า (ตามตัวอย่างในภาพ) 5.ตัดแต่งกิ่งแห้ง, ตัดเนื้อไม้ที่ตายออก, ตัดลดน้ําหนักกิ่ง, วางโครงสร้างกิ่งให้สมดุล สิ่งที่ไม่ควรทำ แต่คนมักเข้าใจผิด 1. ตัดรากพูพอนที่ดันทางเท้าขึ้นมา โดยเฉพาะการใช้การดึงด้วยเครื่องยนต์อย่างรถแบคโฮ หรือการใช้เครื่องมือ อย่างมีด […]
ไม้เลื้อยฤดูฝน ออกดอกง่าย แต่งสวนสวย
ไม้เลื้อยฤดูฝน ต้นไม้เลื้อยอยู่หลายชนิดที่ชอบออกดอกดกเป็นจำนวนมากในช่วงฤดูฝน บางชนิดสีสันสวยงามและมีกลิ่นหอม
รวม บอนสีน่าสะสม หลากหลายสายพันธุ์ที่เหมาะกับมือใหม่
บอนสีน่าสะสม จะมีชนิดไหนที่น่าสนใจและเหมาะสำหรับมือใหม่หัดปลูกกันบ้าง เราได้รวบรวมบอนสีน่าปลูกมาให้ชมและหาซื้อมาปลูกกันแล้วดังนี้
วิธีปลูกเฟินสาย หรือ ฮูเปอร์เซียจากมืออาชีพ ต้นไม้แขวนฟอร์มสวยที่น่ามาปลูกในบ้าน
สวนโพธิ์เสด็จพันธุ์ไม้ จังหวัดนครศรีธรรมราช คือแหล่ง “ฮูเปอร์เซีย”(Huperzia) หรือ “ไม้สาย”(นิยมเรียกในชื่อ“เฟินสาย”) แหล่งใหญ่ที่สุดในภาคใต้ นอกจากจุดเด่นเรื่องสายพันธุ์ที่สวยงามแปลกตาแล้ว ที่นี่ยังมีการเพาะขยายพันธุ์เองจนมีลูกไม้สวยๆมากมาย ภายในโรงเรือนอันแสนสะอาดสะอ้านบนพื้นที่ไร่ครึ่งจึงเต็มไปด้วยฮูเปอร์เซียกว่า 30 สายพันธุ์ ซึ่งเกิดจากความตั้งใจของพี่ยงค์ – พยงค์ และ พี่เอ๋ – จิตทิมา มาศบํารุง เจ้าของสวนที่อาศัยใจรักล้วนๆจนเนิร์สเซอรี่แห่งนี้เต็มไปด้วยต้นไม้สวยๆอย่างที่เห็น มาพบกับเคล็ดลับวิธีปลูกเฟินสายจากมืออาชีพกัน ในวันที่เราไปถ่ายทําเป็นจังหวะเวลาเดียวกับที่พี่ยงค์นําต้นไม้ขึ้นมาขายที่งานเฟินในกรุงเทพฯ พี่เอ๋จึงรับหน้าที่อธิบายเรื่องราวต่างๆในสวนแห่งนี้ โดยมีน้องเวฟ – เด็กชายศรัณยู มาศบํารุง ลูกชายวัย 9 ขวบของทั้งสองเป็นผู้ช่วยหยิบจับต้นไม้ต่างๆ อย่างแข็งขัน พี่เอ๋บอกว่าจุดเริ่มต้นครั้งแรกคือตอนตั้งครรภ์น้องเวฟ ช่วงนั้นเธอเริ่มเบื่อกรุงเทพฯ ประกอบกับอยากให้ลูกได้เติบโตกับธรรมชาติ เมื่อขายบ้านที่กรุงเทพฯได้จึงตัดสินใจย้ายกลับมาอยู่ที่นครศรีธรรมราชบ้านเกิดของพี่ยงค์ โดยที่อาชีพเดิมของทั้งคู่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับงานด้านต้นไม้เลยพี่ยงค์เคยเป็นวิศวกรไฟฟ้า ส่วนพี่เอ๋เป็นเซลส์ขายคอมพิวเตอร์ แต่อาศัยว่ามีใจรักจึงเริ่มจากเปิดร้านขายต้นไม้ก่อน โดยลองรับมาจากแหล่งต่างๆ “เริ่มแรกรับไม้ประดับพวกกุหลาบและกล้วยไม้มาขาย แต่เจออุปสรรคคือพอมันหมดดอกแล้วขายไม่ได้ ฉีดปุ๋ยก็แล้ว เลยลองเสิร์จในอินเทอร์เน็ตว่าที่ใต้มีต้นอะไรพอจะขายได้ ก็เริ่มจากกล้วยไม้ป่าทางใต้จะมีตระกูลสิงโตเยอะ ลองมาทํา พอได้ฝักก็ส่งแล็บ โพสต์ขายในอินเทอร์เน็ตบ้าง กลุ่มที่รู้จักกันทางออนไลน์จะเรียกพี่ว่าเป็น ‘เจ้าแม่สิงโต’ พอตอนหลังพี่ยงค์ลองเอาพวกไม้สายมาเลี้ยง แต่เราไม่รู้หรอกว่าจะเลี้ยงอย่างไร ก็ลองๆ เลี้ยงดู มีตายบ้าง […]
รวมพรรณไม้คล้ายผีเสื้อ ทั้งส่วนใบหรือดอกมีรูปทรงเหมือนผีเสื้อในธรรมชาติ
ไม้ประดับสวนหลายชนิดที่นิยมปลูกเลี้ยงกันทั่วไป ไม่เพียงมีรูปทรงดอกสวย สีสันสดใสดึงดูดสายตา หรือมีกลิ่นหอมจรุงใจเท่านั้น แต่บางชนิดยังมีผลต่อความรู้สึก อารมณ์ และจิตใจของคน คนเรามองเห็นดอกไม้แต่ละชนิดก็จะมีความรู้สึกต่างกันไป ดอกไม้บางชนิดดูแล้วรู้สึกว่าเป็นดอกไม้ที่แปลกตา ซึ่งจะมองว่าแปลกขนาดไหนก็ย่อมขึ้นอยู่กับรูปทรง ลักษณะกลีบ และสีสันของดอก เช่น ดอกไม้ที่มีรูปทรงดอกคล้ายนก ปลา หรือมีกลีบดอกประกอบกันคล้ายรูปคนหรือสัตว์ชนิดต่าง ๆ โดยเฉพาะดอกไม้ที่มีกลีบดอกพลิ้วล้อลม จนบางครั้งดูพรรณไม้คล้ายผีเสื้อกำลังสยายปีกบิน กลายเป็นเสน่ห์ที่ยิ่งมองก็ยิ่งเพลิน เสมือนกำลังอยู่ท่ามกลางธรรมชาติ ซึ่งบางชนิดช่วยล่อแมลงเข้ามาในสวนด้วย ตัวอย่างเช่น ผีเสื้อ ชื่อสามัญเรียก Chinese Pink หรือ Indian Pink อยู่ในวงศ์ Caryophyllaceae ชื่อวิทยาศาสตร์ Dianthus chinensis L. & hybrid ไม้ดอกอายุสั้นหรือ 2 ปี สูง 15-20 เซนติเมตร ดอกออกเป็นช่อที่ซอกใบและปลายยอด ช่อละ 5-10 ดอก มีทั้งดอกชั้นเดียวและดอกซ้อน กลีบดอกรูปไข่กลับ ปลายกลีบหยักเป็นแฉกลึก สีขาว ชมพู แดง ม่วง […]
7 วิธีปลูกต้นไม้ล้อมอย่างถูกต้อง เรื่องที่หลายคนมักเข้าใจผิดและไม่เคยรู้มาก่อน
เชื่อว่าอุณหภูมิที่ร้อนถล่มทลายทำลายสถิติสูงขึ้นทุกปีๆ การอยู่ในอาคารใต้หลังคาเพียงอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอเสียแล้ว การหาต้นไม้ใหญ่มาปลูกในบริเวณบ้านเพื่อให้ร่มเงาอาจเป็นทางออกที่ดี ซึ่งส่งผลช่วยลดความร้อนทั้งทางตรงและทางอ้อมแบบไม่ต้องสงสัย ปลูกต้นไม้ล้อม ปลูกต้นไม้ล้อม อย่างไรให้ถูกวิธี ขุดหลุมปลูกให้กว้างมากกว่าลึก ปรุงดินปลูกเองอย่างถูกวิธีแทนการใช้ดินถุง คลุมหน้าดินหนา 2 เซนติเมตร ไม่พันลำต้นด้วยกระสอบหรือวัสดุอื่นๆ ไม่ใช้ค้ำยันมากจนเกินไป ให้ปุ๋ยกับต้นไม้เมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม ไม่ควรตัดกิ่งลิดใบทิ้งทั้งก่อนและหลังปลูก แต่รู้หรือไม่ว่าต้นไม้ใหญ่ที่เราล้อมมาปลูกก็มีวิธีปลูกที่ต่างจากต้นไม้ทั่วไป ซึ่งหลายคนมักทำผิดวิธีส่งผลให้ต้นไม้ล้อมตายหรือเติบโตมาเป็นต้นไม้ใหญ่ที่ไม่แข็งแรง บ้านและสวนร่วมกับกลุ่ม Big trees ขอนำเสนอวิธีการ ปลูกต้นไม้ล้อม แบบถูกวิธีมาให้รู้กัน ดังนี้ 1.ขุดหลุมปลูกให้กว้างมากกว่าลึก แต่เดิมเราอาจเข้าใจผิดว่าควรขุดหลุมปลูกให้ลึกถึงจะดี เนื่องจากอาจคิดว่าดินจะช่วยพยุงโคนต้นให้ตั้งตรงได้เร็ว หรือเป็นความเข้าใจที่ผิดว่ารากจะสามารถลงไปแทงหาอาหารได้ลึก ความจริงแล้วรากที่หาอาหารจะอยู่บริเวณใกล้ผิวดินและแผ่ออกไปด้านข้างมากกว่าแนวลึก มีต้นไม้ส่วนน้อยเท่านั้นที่จะไปแทงรากแก้วลงไปลึก ดังนั้นควรขุดหลุมให้มีปากหลุมลึกเพียง 15-30 เซนติเมตร ยิ่งต้นไม้ล้อมที่ปลูกอยู่ในตุ้มดินเป็นระยะเวลานาน การขุดหลุมปลูกให้มีปากกว้างที่สุดตั้งแต่ครึ่งหนึ่งถึงสองเท่าของทรงพุ่มใบจะส่งเสริมให้ระบบรากสมบูรณ์ มีผลทำให้ลำต้นแข็งแรงและพุ่มใบเจริญเร็ว 2.ปรุงดินปลูกเองอย่างถูกวิธีแทนการใช้ดินถุง ไม่ควรใช้ดินปลูกที่วางขายใส่ถุงในท้องตลาดมาเป็นดินปลูกสำหรับต้นไม้ล้อมหรือต้นไม้ทั่วไปอื่นๆ เนื่องจากดินปลูกที่ใส่ถุงขายเหล่านั้นส่วนใหญ่มีส่วนผสมของแกลบดำหรือใช้วัสดุอื่นที่มักไม่ย่อยสลายตัว ทำให้หลุมปลูกไม่มีสารอาหารและมีเพียงตุ้มดินที่ติดมากับรากไม้กลายเป็นที่หมักปุ๋ย พวกวัสดุปลูกที่ไม่ย่อยสลายจะแย่งแร่ธาตุอาหารและความชื้นทำให้ต้นไม้หยุดการเจริญเติบโต รวมทั้งอาจมีเชื้อโรค รา ไข่แมลง และเชื้อวัชพืชติดตามมาด้วย ยิ่งถ้าดินรอบๆเป็นดินเลวหรือดินที่พึ่งถมใหม่ควรใช้ดินคุณภาพจากหน้าดินดีหรือผสมปุ๋ยหมักที่พร้อมใช้งานแล้วพรวนให้โปร่ง 3.คลุมหน้าดินหนา 2 เซนติเมตร คลุมปากหลุมที่กลบแล้วด้วยวัสดุคลุมดินเพื่อรักษาความชื้นและป้องกันวัชพืช โดยควรใช้วัสดุคลุมดินเช่น หญ้าไทรตากแห้งสับ กาบมะพร้าวสับผสมขุยมะพร้าวที่ไม่มีเส้นใย ปุ๋ยหมักหยาบที่สลายตัวแล้ว […]
มอนสเตอร่า ที่สุดแห่งไม้ใบที่ปลูกง่ายและเลี้ยงได้ในบ้าน
มอนสเตอร่า ต้นไม้ใบที่ไม่เคยได้พักและกระแสไม่เคยตกไปจากแนวหน้าของต้นไม้มาแรงตลอดระยะเวลา 3-4 ปีให้หลังมานี้
รวมฟิโลเดนดรอนยอดฮิต ที่สุดของไม้ใบที่ใครๆก็รัก และมีติดบ้าน
ฟิโลเดนดรอน ด้วยรูปทรงใบที่สวยงามโดดเด่น ดูแลง่าย อดทน และโตเร็ว เหมาะกับการปลูกไว้ในบ้าน ใครที่อยากเป็นเจ้าของลองดูกันว่ามีตัวไหนน่าสนใจ
รวมต้นไม้มงคลในพุทธประวัติ เป็นที่เคารพและนิยมปลูกมาตั้งแต่สมัยพุทธกาล
ธรรมะและธรรมชาติเป็นสิ่งเดียวที่อยู่คู่กันมาเสมอ หากใครที่ได้ศึกษาพุทธประวัติคงพอทราบว่าในสมัยพุทธกาล สถานที่สำคัญอันเกี่ยวข้องกับพุทธศาสนาส่วนใหญ่เกิดขึ้นใต้ต้นไม้ใหญ่ ในโอกาสวันสำคัญทางพุทธศาสนานี้เราจึงขอรวบรวม ต้นไม้มงคลในพุทธประวัติ ที่มีความสิริมงคลและเป็นที่เคารพสักการะ อีกทั้งยังนิยมปลูกในบ้านหรือสถานที่สำคัญมาจนถึงปัจจุบัน ซึ่งบางต้นอาจมีชื่อพ้องกับต้นไม้ชนิดอื่นจนหลายคนเข้าใจผิด ต้นสาละอินเดีย ต้นไม้มงคลในพุทธประวัติ ที่พบมากบริเวณประเทศอินเดียและเนปาล เมื่อถึงฤดูแล้งที่อากาศหนาวเย็นจะทิ้งใบและออกดอกหอมทั้งต้นคล้ายต้นพยอม (ขอขอบคุณภาพ จาก Geeta Samant ) 1.ต้นสาละอินเดีย ชื่อวิทยาสตร์ Shorea robusta Roxb. วงศ์ DIPTEROCARPACEAE ตามพุทธประวัติกล่าวถึงเหตุการณ์การประสูติและดับขันธ์ปรินิพพานของพระพุทธเจ้าไว้ว่าเกิดขึ้น ณ ใต้ต้นสาละ โดยประสูติใต้นต้นสาละต้นเดี่ยวและปรินิพพานใต้ต้นสาละคู่ หากแต่เป็นต้นสาละอินเดีย ซึ่งมีความแตกต่างกับต้นสาละลังกาที่คนส่วนใหญ่รู้จักกันและนิยมปลูกในบ้านเราอย่างสิ้นเชิง แม้ว่ารูปทรงของดอกสาละลังกาจะคล้ายคลึงกับดอกบัวที่อาจเกี่ยวข้องกับการดําเนินได้ 7 ก้าวหลังการประสูติก็ตาม เหตุที่แน่ใจได้ว่าสาละลังกาไม่ใช่ต้นไม้ชนิดเดียวกับต้นสาละในพุทธประวัติอย่างแน่นอน ก็เพราะต้นสาละลังกา (Couroupita guianensis Aubl.) มีถิ่นกําเนิดในทวีปอเมริกาใต้ โดยชาวโปรตุเกสเป็นผู้นํามาเผยแพร่ในประเทศศรีลังกาในช่วงปี พ.ศ.2424 ก่อนที่จะแพร่มายังประเทศไทยในเวลาต่อมา สาละลังกาจึงไม่ใช่ต้นไม้พื้นถิ่นที่สามารถเจริญเติบโตในสวนลุมพินีวัน ประเทศเนปาล หรือกรุงกุสินารา ประเทศอินเดีย เมื่อสองพันกว่าปีก่อนอย่างแน่นอน ต้นสาละอินเดีย อยู่ในวงศ์เดียวกับต้นพะยอมและต้นรังของบ้านเรา มีจุดเด่นคือดอกที่ออกเป็นพวงสีขาวอมเหลือง มีกลิ่นหอม ปัจจุบันยังสามารถพบเห็นได้ในป่าและสวนรอบสังเวชนียสถาน อย่างไรก็ตาม ทั้งต้นสาละอินเดียและต้นสาละลังกาต่างเป็นต้นไม้ที่ให้ร่มเงาและมีความสวยงามเฉพาะตัว หากแต่ควรมีการให้ความรู้และประวัติความเป็นมาที่ถูกต้อง […]