© COPYRIGHT 2024 AME IMAGINATIVE COMPANY LIMITED.
มาริสา อนิต้า กับการเป็น ครูฝึกสุนัข ที่เกิดขึ้นจากความรับผิดชอบในฐานะ เจ้าของสุนัขหนึ่งตัว
จากคนที่ไม่คิดจะเลี้ยงแมว แต่ก็มีเหตุการณ์นำพาให้ต้องกลายมาเป็น ทาสแมว และขั้นตอนการมอบแมวให้บ้านใหม่
แมวไทย โบราณเป็นที่รักทั้งในและต่างประเทศ ด้วยลักษณะและมีนิสัยที่เป็นเอกลักษณ์ แต่ในปัจจุบันมีเพียง ๕ สายพันธุ์จากแมวให้คุณทั้งสิ้น ๑๗ สายพันธุ์ เท่านั้น
เวลาแห่งการ ฉลองเทศกาลคริสต์มาส ที่กำลังจะเข้ามาถึงในช่วงปลายปีนี้ เป็นเทศกาลที่มีความสุขสำหรับเรา แต่สำหรับแมวนั้นช่วงเวลาคริสต์มาสอาจจะเป็นช่วงเวลาที่สร้างความเครียด หรือเสี่ยงต่อการบาดเจ็บได้ International Cat Care ได้มีการเก็บข้อมูลของแมวที่เข้ารับการรักษาด้วยอาการป่วยที่มีความสัมพันธ์กับช่วง ฉลองเทศกาลคริสต์มาส โดยบทความนี้จะให้คำแนะนำสิ่งที่เราควรระวัง และหลีกเลี่ยงเพื่อเพิ่มความสุขให้กับแมวในช่วงเทศกาลคริสต์มาส 1.ต้นพอยน์เซตเทีย (Poinsettia) หรือ ต้นคริสต์มาส(Christmas plants) ต้นพอยน์เซตเทีย (Poinsettia) หรือ ต้นคริสต์มาส เป็นต้นไม้ที่มีพิษสำหรับแมวชนิดหนึ่ง มีรายงานพบแมวที่กิน หรือกัดแทะต้นคริสต์มาสจำนวนมากในช่วงเทศกาล ซึ่งสามารถทำให้มีอาการน้ำลายไหล ซึม และไม่กินอาหาร หรือบางรายอาจจะไม่แสดงอาการเลย ในรายที่ได้รับพิษไม่มากอาการต่าง ๆ อาจจะดีขึ้นเองได้ โดยไม่ต้องได้รับการรักษาจำเพาะ แต่ถ้าหากมีอาการคงอยู่ มักจะเป็นอาการระคายเคืองทางเดินอาหาร ซึ่งให้การรักษาแบบตามอาการจะตอบสนองได้ดี ดังนั้น ถึงแม้พิษจะไม่ได้ทำให้อาการรุนแรงก็ตาม เรายังแนะนำให้เก็บต้นคริสต์มาสให้ห่างจากน้องแมวจะดีที่สุด 2.ต้นคริสต์มาสประดิษฐ์และของตกแต่ง หลาย ๆ บ้านจะติดตั้งต้นคริสต์มาสประดิษฐ์ และของตกแต่ง ไม่ว่าจะเป็นพู่ระย้าที่ล้อมรอบต้นคริสต์มาส ลูกแก้วประดับตกแต่ง รวมถึงไฟกระพริบ จากรายงานพบว่ามีเคสแมวเข้ารับการรักษาด้วยอาการกินสิ่งแปลกปลอมเหล่านี้เข้าไปในช่วงเทศกาลจำนวนมาก รวมถึงการถูกไฟช็อตจากการกัดแทะสายไฟ ดังนั้น ถ้าหากบ้านเรามีการเลี้ยงแมว การตั้งต้นคริสต์มาสประดับอาจจะต้องคำนึงถึงความปลอดภัยต่อเจ้าเหมียวของเราด้วย แนะนำให้ติดตั้งในบริเวณที่แมวเข้าถึงได้ยาก หรือ การใช้ของตกแต่งที่กัดแทะ หรือกินได้ยาก พันสายไฟด้วยท่อเก็บสายไฟ เป็นต้น […]
แมวฝัน ได้หรือไม่ ? คำถามค้างคาใจที่ทาสแมวหลาย ๆ คนอยากรู้ วันนี้บ้านและสวน Pets จะพาไปไขคำตอบกัน แมวใช้เวลาไปกับการนอนหลับเฉลี่ย 13-15 ชั่วโมงต่อวัน ซึ่งเกือบสองเท่าของมนุษย์เรา การนอนของแมวที่ยาวนานนั้นส่วนหนึ่งเป็นพฤติกรรมตามธรรมชาติของสัตว์นักล่า ไม่ใช่ว่าเจ้าแมวของเราจะขี้เกียจแต่อย่างใด แต่เป็นการนอนเพื่อเก็บพลังงานไว้เตรียมสำหรับการล่าในช่วงเวลาตื่นด้วย แมวมักนอนหลับเป็นช่วง ๆ ทั้งเวลากลางวัน และกลางคืน และมักจะตื่นตัวมากที่สุดในช่วงก่อนรุ่งสาง และหลังพลบค่ำซึ่งเป็นสัญชาตญาณของนักล่าตามธรรมชาติ ระดับการนอนของแมวมี 2 รูปแบบคล้าย ๆ ในคนคือ ช่วงหลับธรรมดา (Non-Rapid Eye Movement Sleep หรือ Non-REM Sleep) ช่วงการนอนหลับนี้จะเป็นช่วงที่แมวได้ฟื้นฟูร่างกาย และถ้าเป็นในลูกแมวจะเป็นช่วงที่ฮอร์โมนเกี่ยวกับการเจริญเติบโตหลั่งออกมา ช่วงหลับฝัน (Rapid Eye Movement Sleep หรือ REM Sleep) การนอนหลับในช่วงนี้จะมีการเคลื่อนไหวไปมาของตาอย่างรวดเร็ว ในช่วงนี้สมองของแมวจะทำงานใกล้เคียงกับตอนตื่น ซึ่งแมวจะนึกถึงช่วงวันที่เก็บไว้ในหน่วยความจำและเป็นช่วงที่จะเกิดการฝันมากกว่าการนอนหลับช่วงอื่น ช่วงระยะการนอนของแมวจะมีนอนหลับลึกไปจนถึงหลับตื้น ช่วงแรกของการนอนหลับประมาน 10-30 นาที จะเป็นการนอนแบบหลับตื้น และจากนั้นจะนอนหลับลึก 6-7 นาที […]
ด้านหนึ่งของเจ้าเหมียว คือ สัตว์เลี้ยงที่น่ารัก อ่อนโยน น่าทนุถนอม แต่อีกด้านหนึ่ง คือ นักล่าตัวฉกาจ ซึ่งเจ้าเหมียวเป็นสิ่งมีชีวิตที่มีประสาทสัมผัสอันแสนพิเศษ เป็นตัว การรับรู้ความรู้สึกของแมว ที่มีต่อโลกใบนี้ ซึ่งประสาทสัมผัสเหล่านี้ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อให้ การรับรู้ความรู้สึกของแมว สอดคล้องกับกิจกรรมในการเป็นนักล่า หากเราจะสังเกตด้านสรีระของเจ้าเหมียวแล้ว ต้องยอมรับว่า ธรรมชาติออกแบบรังสรรค์ให้มีประสิทธิภาพในการเป็นสุดยอดนักล่าอย่างแท้จริง วันนี้ บ้านและสวน Pets จะพาไปรู้จักกับการทำงานของระบบการรับรู้ความรู้สึกที่สำคัญในแมวกัน 1.ระบบการมองและการรับภาพ ลูกแมวจะเริ่มเปิดตาเมื่ออายุประมาน 5-14 วัน (เฉลี่ย 8 วัน) ลูกแมวสามารถมองเห็นได้อย่างคมชัดที่อายุ 25 วัน การมองภาพได้ดีในแบบ Binocular (ใช้สองตาในการมองเห็น) ที่อายุ 47 วัน ความสามารถในการมองเห็นสมบูรณ์เมื่ออายุประมาน 60 วัน ดวงตาของแมวทำงานได้ดีอย่างยิ่งในที่มืด เนื่องจากแมวมี Tapetum lucidum เป็นเนื้อเยื่อชั้นถัดจากจอประสาทตา มีหน้าที่ในการสะท้อนแสง ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการมองเห็นในที่มืด แมวสามารถรับสี และ แยกแยะการมองเห็นสีได้ต่ำ โดยตอบสนองได้ดีต่อสีน้ำเงิน การมองเห็นในสุนัขและแมว แตกต่างจากการมองเห็นของมนุษย์อย่างไร 2.ระบบการรับกลิ่นในแมว อวัยวะรับกลิ่นของแมว […]
หูของแมว ประกอบไปด้วย กล้ามเนื้อมากกว่า 12 มัด ที่มาควบคุม และทำให้หูสามารถหมุนได้ 180 องศา ไม่ว่าจะไปข้างหน้า ข้างหลัง ขึ้น และ ลง นอกจากหูจะมีหน้าที่ในการรับเสียงแล้ว ยังบ่งบอกถึงภาวะอารมณ์ของเจ้าเหมียวได้อีกด้วย วันนี้ บ้านและสวน Pets มีอีกหนึ่งวิธีในการสังเกตอารมณ์ของน้องแมว นั่นก็คือ “หูของแมว” พร้อมแล้ว! หันไปมองหน้าลูกๆของเราตอนนี้เลย ว่าน้องๆกำลังรู้สึกอะไรอยู่ ถ้าน้องรู้สึกสบายและผ่อนคลาย หูจะชี้ไปด้านข้าง และไปด้านหน้าเล็กน้อย แสดงให้เห็น ความพึงพอใจ และความรู้สึกในขณะที่เป็นอยู่ ว่าเขาไม่กลัว หรือ ไม่ก้าวร้าว กำลังสนใจสิ่งใดสิ่งหนึ่ง แมวจะมีการแจ้งเตือน หูของแมวจะตั้งเป็นแนวตรงขึ้นด้านบนและชี้ไปข้างหน้าเล็กน้อย หรือถ้าหากทำหูแบบนี้ในเวลาที่เจอคุณนั่นหมายถึง เขากำลังกล่าวคำทักทายและพร้อมจะเป็นมิตร รู้สึกกังวล กลัว แมวจะทำหูกระตุกไปมา หากเห็นพฤติกรรมแบบนี้ เราอาจจะเข้าไปช่วยกอด หรืออุ้ม เพื่อลดความกังวล และช่วยให้แมวรู้สึกปลอดภัย และอาการนี้อาจเป็นอาการเบื้องต้นของแมวที่ป่วยก็ได้ 8 วิธีเอาใจแมวเหมียว สัตว์เลี้ยงที่ขึ้นชื่อว่าเอาใจยากสุด กำลังดุร้ายก้าวร้าว โกรธ การโจมตี แมวจะทำหูลู่ ในตำแหน่งแนวนอน […]
เจ้าแมว เป็นเพื่อนสี่ขาแสนรักของมนุษย์มาแต่ไหนแต่ไร โดยธรรมชาติแมวเป็นสัตว์ที่เป็นนักล่า มีความรักสันโดษ มีความเป็นส่วนตัวสูง และ รักอิสระ จนเราอาจจะคิดว่า แมวนั้นเป็นเพียงสัตว์เลี้ยงธรรมดา ที่อาจจะไม่ได้สร้างประโยชน์ใดๆ แล้วยิ่งดูกิจกรรมในแต่ละวันของเหล่าแมว กิน นอน เล่น ฝนเล็บ นวดเจ้าของบ้างพอเป็นพิธี ประโยชน์ในการเลี้ยงแมว ซึ่งอาจจะต่างจากสุนัขที่ทั้งเฝ้าบ้านได้ ขอมือได้ สั่งฝึกให้เก็บของได้ เอาใจเจ้านายที่รักได้เก่งกว่า แต่จริงๆ แล้วนั้นวิถีชีวิตความเป็นแมวมันสร้างสิ่งที่ทำให้เกิดความสุขกับคนเลี้ยงได้อย่างแบบที่เราอาจจะไม่รู้ตัว ค่อยๆซึมซาบทีละนิดๆ แล้ววันนี้ บ้านและสวน Pets จะพาไปเปิดมุมมอง 7 ประโยชน์ในการเลี้ยงแมว ที่คุณอาจคาดไม่ถึง 1. แมวทำให้เราผ่านช่วงเวลายาก ๆ ในชีวิตไปได้ ในเชิงจิตวิทยานั้น ช่วงเวลาที่ยากยิ่งอย่างหนึ่งของคนเรา คือการสูญเสียบุคคลผู้เป็นที่รักไป แมวสามารถรับรู้ถึงความรู้สึก การเปลี่ยนแปลงทางอารมณ์ รวมถึงสัมผัสของคนเราได้ การที่เจ้าของได้พูดคุยกับแมว สัมผัสตัวแมว การระบายความรู้สึกให้กับแมว ช่วยในการบำบัดความเจ็บปวดให้หายเร็วขึ้น ระยะเวลาความเจ็บปวดต่อเรื่องนั้นๆลดลง เพราะว่าส่วนหนึ่งแมวจะไม่สามารถซ้ำเติมความผิดพลาด หรือ ตัดสินแบบคนได้ ในต่างประเทศ เช่นญี่ปุ่น มีแมวที่ทำอาชีพ เป็นแมวนักบำบัด หรือ […]
เพราะบรรยากาศที่เหมาะสมสำหรับการอยู่อาศัยและใช้เวลาร่วมกันระหว่างคุณกับน้องแมวแสนรักต้องไม่หยุดแค่เรื่องความสวยงาม สภาวะแวดล้อมที่อยู่สบายครอบคลุมในทุก ๆ ด้านก็เป็นเรื่องสำคัญที่ช่วยเปลี่ยน House ให้เป็น Home ซึ่งในปัจจุบันนี้จำนวนของประชากรแมวที่เลี้ยงในระบบปิดมีมากขึ้น การอยู่ร่วมกันในพื้นที่จำกัดจึงทำให้เราต้องมีความพิถีพิถันในการเลือกซื้อผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับน้องแมวยิ่งขึ้น โดยคำนึงถึงความปลอดภัยมาเป็นอันดับแรก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของอาหาร ของเล่น และโดยเฉพาะอย่างยิ่งคือ ทรายแมว ห้องน้ำ เพราะห้องน้ำส่งผลกระทบโดยตรงกับสุขภาพของน้องแมวนั่นเอง น้องแมวเป็นสัตว์ที่รักสะอาด การมีห้องน้ำและ ทรายแมว ที่ไม่ถูกสุขอนามัย หรือมีจำนวนที่ไม่เพียงพอ อาจจะทำให้น้องแมวอั้นปัสสาวะซึ่งเป็นต้นเหตุของโรคที่เกี่ยวข้องกับระบบขับถ่ายได้ เช่น ปัสสาวะไม่ออก, ปัสสาวะเป็นเลือด หรือรุนแรงจนถึงกระเพาะปัสสาวะอักเสบเลยก็ได้ค่ะ เพราะฉะนั้นการเลือกห้องน้ำและทรายแมวให้เหมาะกับพฤติกรรมของน้องและลักษณะบ้านของเราจึงเป็นเรื่องที่ไม่ควรมองข้าม อีกทั้งการเลือกทรายแมวที่ไม่ได้มาตรฐานอาจก่อให้เกิดปัญหาเรื่องฝุ่นที่ส่งผลให้น้องแมวเกิดอาการอักเสบที่ดวงตา อุ้งเท้า รวมถึงเป็นอันตรายกับเจ้าของที่เป็นโรคภูมิแพ้ นอกจากนี้หาก ทรายแมว ผลิตจากวัตถุดิบที่ไม่ปลอดภัย อาจทำให้เกิดการระคายเคืองในระบบย่อยอาหารจากการเผลอกลืนหรือกินทรายได้อีกด้วย วันนี้ บ้านและสวน Pets จึงขออาสาเป็นไกด์พาไปเลือกทรายแมวและห้องน้ำแมวให้เหมาะกับบ้านและพฤติกรรมของน้องแมวกันค่ะ เริ่มจากการทำความรู้จักกับ ทรายแมว แต่ละประเภทกันก่อนค่ะ ว่าแบบไหนเหมาะกับน้องแมวและบ้านของเรามากที่สุด ทรายแมวที่วางขายอยู่ทั่วไปในปัจจุบันนี้สามารถแบ่งออกได้เป็น 4 ประเภทหลัก ๆ โดยแต่ละแบบก็มีส่วนประกอบและกรรมวิธีการผลิตที่แตกต่างกันดังนี้ 1.ทราย Bentonite หรือ ทรายแบบจับตัวเป็นก้อน ทรายประเภทนี้ผลิตโดยใช้แร่เบนโทไนต์เป็นส่วนประกอบหลัก มีความโดดเด่นคือคุณสมบัติในการดูดซับของเหลวและความชื้นได้เป็นอย่างดี จากนั้นก็จะจับตัวเป็นก้อนจึงสามารถตักทิ้งเฉพาะของเสียได้สะดวกโดยไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนทรายทั้งกระบะในคราวเดียว จุดเด่นอีกอย่างคือเม็ดทรายจะมีลักษณะใกล้เคียงกับทรายจริงตามธรรมชาติ […]
สุนัขและแมวเป็นสัตว์เลี้ยงที่ได้รับความนิยมและอยู่คู่กับมนุษย์มาตั้งแต่อดีตกาล ทำให้มีเรื่องราวสุดแสนจะน่าประทับใจเกี่ยวกับความรักและความผูกพันระหว่างสัตว์กับมนุษย์อยู่มากมาย ทั้งในเรื่องของความน่ารัก ความกล้าหาญ ความซื่อสัตย์ และความจงรักภักดี อนุสาวรีย์สุนัขและแมว จึงเป็นสิ่งก่อสร้างที่ถูกสร้างไว้ เพื่อเป็นตัวแทนให้เราระลึกถึงบุคคล วีรกรรม หรือเหตุการณ์สําคัญต่าง ๆ ที่ไม่อยากให้เลือนลางหายไปจากความทรงจำตามกาลเวลา ฮาจิโกะ (Hachiko) ๐ ตั้งอยู่ที่สถานีรถไฟชิบูยะ, สุสานอาโอยามะ, มหาวิทยาลัยโตเกียวในอุเอะโนะ, พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติและวิทยาศาสตร์แห่งชาติในอุเอะโนะ และเมืองโอดะเตะในจังหวัดอะกิตะ ๐ อนุสาวรีย์สุนัขและแมว ตัวแรกคือ “ฮาจิโกะ” สัญลักษณ์ของความซื่อสัตย์ จากวีรกรรมการรอคอยเจ้านาย ศาสตราจารย์เอซะบุโระ อุเอะโนะ อย่างแน่วแน่ที่หน้าสถานีชิบูย่า จนวาระสุดท้ายของชีวิต แม้ว่าเจ้านายของมันจะเสียชีวิตไปแล้วกว่า 10 ปี ไลก้า (Laika) ๐ ตั้งอยู่ใกล้กับศูนย์วิจัยของกองทัพในกรุงมอสโก ประเทศรัสเชีย ๐ สุนัขตัวแรกที่เดินทางสู่ห้วงอวกาศ เมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน ค.ศ. 1957 บนยานสปุตนิก 2 ทอมบิลี่ (Tombili ) ๐ ตั้งอยู่ที่ย่านซิเวอร์เบย์ […]
บ้านและสวน Pets ขอมอบความสุขด้วย เสียงร้องของสัตว์ต่าง ๆ ในหลากหลายภาษา ไม่ว่าจะเป็น เสียงร้องของ น้องหมา น้องแมว น้องไก่ น้องหมู และสัตว์อื่น ๆ ด้วยเช่นกัน ลองฟังและออกเสียงดู เผื่อว่าจะได้ยินหรือเข้าใจเสียงน้อง ๆ ร้องเพลงหรือสื่อสารกันนะคะ อย่างที่เคยบอกไปค่ะว่า โลกเรามีภาษาที่ใช้ในการสื่อสารแตกต่างกันไป ในแต่ละประเทศมีการออกเสียงสัตว์ไม่เหมือนกัน ซึ่งการออกเสียงต่างกันนั้น เกิดจากการถอดเสียงจากธรรมชาติให้ตรงกับคำที่มาใช้แทนภาษา ความจริงแล้วคนทุกคนได้ยินเสียงน้องหมาเหมือนกัน แต่ภาษาถิ่นนั้นต่างกัน การแทนเสียงธรรมชาติด้วยการเทียบเคียงคำในภาษาของตนนั้นจึงออกมาแตกต่างกัน บางภาษามีเสียงวรรณยุกต์ แต่บางภาษานั้นไม่มีเสียงวรรณยุกต์ ทำให้ เสียงร้องของสัตว์ต่าง ๆ เลยออกมาต่างกัน เราเรียกว่า Onomatopoeia หรือการสร้างคำ นั่นเอง ต้องขอบคุณ ดร.เจมส์ แชปแมน ผู้เชี่ยวชาญด้านเสียงสากล ที่ได้เปรียบเทียบการออกเสียงของสัตว์ต่าง ๆ เราจึงมีคู่มือประกอบเสียงสัตว์ทั่วโลก Soundimals เอาล่ะมาลองฟังเสียงร้องของสัตว์จากทั่วโลกกันค่ะ ว่าน้อง ๆ เค้าร้องยังไง ที่มา: chapmangamo.tumblr.com CAT MJAU (สวีเดน) […]
“ทำไมสุนัขถึงกัด!” คำถามคลาสสิคที่คนถามกันเยอะมาก ๆ ซึ่งส่วนใหญ่มักจะโทษไปที่สายพันธุ์ของสุนัขเป็นส่วนใหญ่ แต่ในความเป็นจริงแล้วนั้น มีสาเหตุหรือแนวโน้มมาจากอะไรได้บ้าง บ้านและสวน Pets จึงได้สอบถามไปยังครูนล พันธุ์นุชิต โปษยานนท์ ผู้เชี่ยวชาญในการฝึกสุนัขของเรา ถึงสาเหตุหรือแนวโน้มที่จะทำให้สุนัขกัดได้ ไม่ว่าจะ กัดคนหรือกัดสุนัขด้วยกันเอง ซึ่งก็ได้คำตอบดังนี้เลยค่ะ การที่สุนัขมีแนวโน้มจะกัดนั้น มีอยู่ 5 องค์ประกอบ ** บางกรณีก็ประกอบด้วยทั้ง 5 ข้อนี้รวมกัน หรือบางกรณีก็เกิดจากเพียงกรณีใดกรณีหนึ่งเท่านั้น ** 1. พันธุกรรม แน่นอนว่าพันธุกรรมส่งผลแน่นอน หากได้พันธุกรรมสุนัขที่มีพื้นฐานของอารมณ์ที่ดุมา ถ้าอยากให้เป็นมิตรเจ้าของและครูฝึกคงต้องเหนื่อยกันมากหน่อย และอาจจะไม่สามารถทำให้เป็นมิตรแบบสุด ๆ ได้ 2. ประสบการณ์ในวัยเยาว์ ลูกสุนัขอาจโดนประสบการณ์อะไรบางอย่างที่ฝังใจมาตั้งแต่เด็ก ทำให้ไม่ชอบสถานการณ์แบบนั้น พอต้องเผชิญหน้าในสถานการณ์ดังกล่าว จึงเกิดความไม่สบายใจและอาจกัดได้ เช่น สุนัขบางตัวไม่ชอบโดนอุ้มโดนล็อค เพื่อตัดเล็บหรือเช็ดเท้า พอโดนมาตั้งแต่เด็กและทนไม่ไหวจึงกัด เป็นต้น 3. การพาเข้าสังคมและการฝึกที่ผิดวิธี เช่น สุนัขมีอาการไม่ชอบเวลาเจอสุนัขอื่น แต่เจ้าของพยายามพาไปเข้าฝูง โดยไม่เรียนรู้วิธีที่ถูกต้อง ทำให้เขาอยู่ในจุดที่ไม่สบายใจมากเกินไป จากแค่ไม่ชอบสุนัขอาจเปลี่ยนเป็นกัดเพื่อตอบสนองสถานการณ์ตรงนั้นแทนทันที ซึ่งสาเหตุนี้จะไม่เกิดขึ้นหากเราฝึกสุนัขในการพาเข้าสังคมให้ถูกต้องหรือถูกวิธี เช่น […]