เปิดรับเทรนด์สวน เปิดรับการเปลี่ยนแปลงของธรรมชาติ ในงานบ้านและสวนแฟร์ Select 2021
ผ่านไปแล้วสำหรับ งานบ้านและสวนแฟร์ Select 2021 จัดไปเมื่อวันที่ 17-21 มีนาคม ที่ผ่านมา ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา ภายใต้ธีม “Open Culture : วัฒนธรรมแห่งการเปิดรับ และแบ่งปันดีไซน์ที่ดีสู่สังคม” ในโซน Garden of Ideas ซึ่งเป็นอีกจุดหนึ่งที่คนให้ความสนใจ ด้วยการนำเสนอเทรนด์การจัดสวนใหม่ๆ ของปีนี้ที่กำลังเป็นกระแสของโลก และเป็นการออกแบบที่ให้ความสำคัญกับสภาพแวดล้อมและเริ่มกลับไปโหยหาธรรมชาติที่เรียบง่ายกันมากขึ้น โดยแบ่งออกเป็น 4 เทรนด์ ดังนี้
สวนทนแล้ง (Desert Plant Garden)
ภัยแล้งจัดเป็นปัญหาใหญ่ที่เกือบทุกภาคในประเทศไทยกำลังเผชิญอยู่ จากปริมาณน้ำฝนที่ตกลงมาน้อย หรือน้ำประปาเค็ม โดยเฉพาะช่วงฤดูแล้ง ไม่นับการดูแลต้นไม้ทั่วไปที่ต้องรดน้ำกันอย่างน้อยวันละครั้ง ซึ่งสำหรับคนขี้ลืมหรือไม่ค่อยมีเวลาก็มักประสบปัญหาต้นไม้ตายได้ง่าย ดังนั้นการจัดสวนด้วยไม้ทนแล้งจึงเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่น่านำไปทำตาม
การเลือกพรรณไม้
ไม้ทนแล้งจัดอยู่ในหมวดหมู่ของไม้อวบน้ำที่มีอยู่หลายชนิด ส่วนใหญ่มีรูปทรงใบ ลำต้น รวมไปถึงสีสันที่โดดเด่นแตกต่างจากต้นไม้ชนิดอื่น มีหลายชนิดที่เรารู้จักกันเป็นอย่างดี เช่น ชวนชม กุหลาบหิน ว่านหางจระเข้ กระบองเพชร แก้วมังกร ลิ้นมังกร เป็นต้น รวมไปถึงพวกแคคตัสและยูโฟร์เบียชนิดอื่นๆ ซึ่งส่วนใหญ่เจริญเติบโตได้ดีในดินโปร่งร่วน ระบายน้ำได้ดี อากาศถ่ายเท และมีแสงแดดส่องตลอดทั้งวัน นอกจากนี้ยังมีหญ้าประดับชนิดต่างๆที่ไม่ต้องดูแลมาก แถมยังออกดอกสวยงาม เล่นกับสายลมดูพลิ้วไหวอย่างเป็นธรรมชาติอีกด้วย
งานฮาร์ดสเคปและของตกแต่ง
สวนทนแล้งสามารถจัดได้หลายสไตล์ ตั้งแต่สไตล์คาวบอยแบบตะวันตก สวนริมชายหาด ไปจนถึงสวนแบบทะเลทราย เฟอร์นิเจอร์ที่ใช้ก็เน้นที่ให้ความรู้สบายๆ มีน้ำหนักเบา เคลื่อนย้ายสะดวก เช่น เก้าอี้สนาม เตียงผ้าใบ หรือเปลญวน เพื่อไม่ให้ไปแข่งกับไม้ทนแล้งที่มีรูปทรงสวยเด่นชัดอยู่แล้ว และอาจเล่นระดับความสูงต่ำของพื้นที่ได้ไม่มาก เพราะต้นไม้ส่วนใหญ่มีความสูงไม่มาก อาจทำให้บดบังต้นไม้ที่เราต้องการโชว์ได้ นอกจากนี้ยังสามารถตกแต่งด้วยงานฝีมือหรืองานเซรามิกสีสันสวยๆตามความชอบได้
สวนสวยกินได้ (Edible Garden)
วิกฤตด้านอาหารเป็นอีกหนึ่งผลกระทบที่เรากำลังประสบ โดยเฉพาะการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในช่วงแรกที่ส่วนใหญ่ต้องล็อกดาวน์ ออกเดินทางไปไหนมาไหนไม่สะดวก โชคดีที่ประเทศไทยมีแสงแดดจัดจ้าตลอดทั้งปี พรรณไม้ที่ปลูกง่ายส่วนใหญ่จึงเป็นพรรณไม้แดด ซึ่งจุดเด่นคือมีสีสันทีสดใสสวยงาม โดยเฉพาะดอกและใบ ทำให้เรามีพรรณไม้สำหรับเลือกใช้ในงานจัดสวนมากตามไปด้วย นอกจากนี้ยังมีไม้แดดจำนวนหนึ่งที่ให้ผลผลิตมารับประทานได้โดยไม่ต้องไปหาซื้อในตลาดให้สิ้นเปลือง นับว่าเป็นต้นไม้ที่ทั้งสวยและกินได้ด้วย
การเลือกพรรณไม้
สำหรับผู้ที่ยังคิดไม่ออก เราอาจเข้าครัวเพื่อหยิบพืชผักที่อาจใกล้เน่าแล้วมาทดลองปลูก เช่น นำหัวของต้นหอม หอมหัวใหญ่ หรือตะไคร้มาเพาะ หรือกิ่งกะเพรา โหระพา สะระแหน่ มาปักชำ นอกจากนี้ยังมีไม้ดอกและไม้ประดับหลายชนิดที่นำมาประกอบอาหารได้ เช่น พวงชมพู บาหยา กุหลาบมอญ อัญชัน หรือโกสน บางชนิดเป็นสมุนไพรที่มีสรรพคุณในด้านการรักษา แต่ควรศึกษาให้ดีก่อนนำมาประกอบอาหาร เพราะบางชนิดก็มีพิษและมีรูปทรงคล้ายกันจนอาจเข้าใจผิดว่าเป็นต้นไม้ชนิดเดียวกัน เช่น ออดิบกับบอนโหราที่หลายคนมักเข้าใจผิดว่าเป็นต้นไม้ชนิดเดียวกัน โดยออดิบสามารถรับประทานได้ แต่บอนโหรานั้นมีพิษ
งานฮาร์ดสเคปและของตกแต่ง
ด้วยความที่ต้นไม้กินได้มีอยู่หลายชนิด ครอบคลุมทั้งไม้ยืนต้น ไม้พุ่ม ไม้คลุมดิน และไม้เลื้อย ทำให้ในการออกแบบงานฮาร์ดสเคปสามารถเล่นกับการปลูกต้นไม้ได้หลายรูปแบบ เช่น ทำกระบะปลูกช่วยจัดสรรต้นไม้ที่มีความสูงและทรงพุ่มแตกต่างกันให้ดูเป็นระเบียบมากยิ่งขึ้น วางเล่นระดับทำให้สวนดูมีมิติมากขึ้น ซุ้มศาลาไม้เลื้อยสำหรับเป็นที่นั่งให้ร่มเงาในตอนกลางวัน รวมไปถึงการใช้กระถางรูปทรงต่างๆปลูกต้นไม้สลับกันจัดวางตามตำแหน่งต่างๆ โดยสามารถใช้โทนสีธรรมชาติของวัสดุเดิม เช่น ไม้สีอ่อน หินธรรมชาติ เมทัลชีต เพื่อไม่ไปแข่งกับสีสันของไม้ดอกที่ปลูกในสวน
สวนชุ่มน้ำ (Wetland Garden)
ตอนนี้เราไม่สามารถเอาแน่เอานอนกับสภาพอากาศบนโลกได้เลย สักพักก็แล้งจัด สักพักก็น้ำท่วม ทำให้หลายๆสวนที่ไม่สามารถปรับตัวรับการเปลี่ยนแปลงได้ต้องมีต้นไม้ตายไปส่วนหนึ่ง เสียทั้งเวลาและเงินทองในการหาซื้อและดูแลให้กลับมาสวยอีกครั้ง แต่ปัญหานี้จะหมดไปหากเราปลูกต้นไม้ทนน้ำท่วมหรือต้นไม้ชุ่มน้ำที่สามารถปรับตัวให้อยู่ทั้งบนบกและในน้ำได้
การเลือกพรรณไม้
ต้นไม้ทนน้ำท่วมหรือต้นไม้ที่ขึ้นในบริเวณพื้นที่ชุ่มน้ำส่วนใหญ่เป็นไม้พื้นถิ่นของไทย ซึ่งในธรรมชาติจะมีน้ำท่วมขังเป็นระยะเวลาสั้นๆอยู่แล้ว บางชนิดสามารถเติบโตได้ดีทั้งบนบกและในน้ำ โดยต้นไม้ทนน้ำได้พัฒนาส่วนต่างๆทั้งการสร้างช่องอากาศตามเปลือกลำต้นและผิวรากที่ช่วยแลกเปลี่ยนก๊าซระหว่างลำต้นหรือรากกับบรรยากาศรอบๆ รวมถึงการสร้างรากพิเศษที่ช่วยยึดพยุงลำต้นไม่ให้ล้มไปตามแรงน้ำอย่างพวกไม้โกงกาง แต่อย่างไรก็ตามมีปัจจัยทั้งความสูงของระดับน้ำ ความแรงของกระแสน้ำ และระยะเวลาที่น้ำท่วมที่อาจทำให้ต้นไม้ทนน้ำท่วมบางชนิดไม่รอดเมื่อถูกน้ำท่วมนานๆเหมือนกัน
งานฮาร์ดสเคปและของตกแต่ง
ส่วนมากการออกแบบสวนสำหรับต้นไม้ชุ่มน้ำจะนำเสนอในรูปแบบของสวนป่าธรรมชาติที่มีพื้นที่ชุ่มน้ำ เช่น น้ำตกจำลอง ลำธาร หรือบ่อน้ำ มีทั้งบ่อดินที่ขุดแบบธรรมชาติและบ่อแบบคอนกรีต เราจำเป็นต้องวางผังเพื่อกำหนดขนาดบ่อ รวมถึงเตรียมโครงสร้างสำหรับทำบ่อที่แข็งแรงและได้คุณภาพ ส่วนมากบ่อคอนกรีตที่ลึกไม่เกิน 1 เมตร ควรลงเสาเข็มยาว 2 เมตร ต่อพื้นที่ 1 ตารางเมตร และตกแต่งขอบบ่อด้วยหินธรรมชาติ โดยปลูกต้นไม้ทนน้ำท่วมหรือต้นไม้ชุ่มน้ำรอบๆ อาจออกแบบสวนให้มีความโมเดิร์นด้วยการลดทอนรูปทรงของก้อนหินและน้ำตกเป็นทรงเรขาคณิตและทำกระบะปลูกสูงต่ำลดหลั่นไปกับน้ำตก
ต้นไม้ต่างถิ่น (Exotic Garden)
เพราะโลกที่ไร้พรมแดน ต้นไม้ก็เดินทางได้ด้วยเช่นกัน ต้นไม้เหล่านี้อาจไม่เป็นที่คุ้นชินกับผู้ที่เข้ามาพบเห็นมากนัก เมื่อนำมาใช้ในการจัดสวนก็ทำให้เกิดจุดเด่นได้ไม่ยาก ประกอบกับสีสันที่สดใสแปลกใหม่ ทำให้สวนที่ใช้ต้นไม้จากต่างประเทศดูมีชีวิตชีวา ต่างจากต้นไม้พื้นถิ่นที่พบเห็นได้จนชินตา
การเลือกพรรณไม้
ต้นไม้ต่างถิ่นหรือต้นไม้นําเข้าจากต่างประเทศที่เห็นตามท้องตลาด บางประเภทก็ปลูกได้ดีในประเทศที่อากาศร้อนแบบบ้านเรา ผ่านไป 2-3 เดือนก็ยังออกดอกออกผลได้ ดูแข็งแรง ส่วนมากจะเป็นไม้แดดที่มาจากประเทศในทวีปออสเตรเลีย อเมริกาใต้ และแอฟริกา บางชนิดก็นำเข้ามานานจนหลายคนคิดว่าเป็นต้นไม้พื้นถิ่นของบ้านเราไปแล้ว อย่างเช่น จามจุรี มะละกอ หางนกยูงฝรั่ง ชมพูพันธุ์ทิพย์ เป็นต้น ซึ่งปัจจุบันก็มีต้นไม้นำเข้าชนิดใหม่ๆที่กำลังนิยมใช้จัดสวนกันอยู่ในขณะนี้ บางชนิดปลูกได้ดีในประเทศไทยอยู่แล้ว บางชนิดอยู่ได้แค่บางสถานที่ เช่น ในภาคเหนือที่อากาศหนาวเย็น บางชนิดถูกปรับปรุงสายพันธุ์ให้ปลูกได้ดีในบ้านเราได้มากขึ้น
งานฮาร์ดสเคปและของตกแต่ง
สวนส่วนใหญ่ที่ใช้ต้นไม้นำเข้าหรือต้นไม้ต่างถิ่นก็เพื่อสร้างบรรยากาศของสไตล์สวนให้ชัดเจน เช่น สวนที่ปลูกโอลีฟจะให้ความรู้สึกเหมือนอยู่ในประเทศยุโรปแถบเมดิเตอร์เรเนียน ดังนั้นการออกแบบงานฮาร์ดสเคป วางผัง หรือใช้ของประดับจึงควรใช้ของที่สื่อถึงสไตล์สวนยุโรปทั้งแบบดั้งเดิมและสวนยุโรปแบบร่วมสมัย ซึ่งส่วนมากจะตกแต่งด้วยของเก่าและงานฝีมือสไตล์ยุโรป เช่น กระถาง กระบะปลูก เฟอร์นิเจอร์ที่ทำจากไม้สาน หรือตุ๊กตาปูนปั้นรูปทรงต่างๆที่ดูผ่านการใช้งานมานาน
เรื่อง : ปัญชัช
ภาพ : ฤทธิรงค์ จันทองสุข
นิตยสารบ้านและสวน เดือนพฤษภาคม 2564
สามารถอ่านและสั่งซื้อนิตยสารบ้านและสวน เดือนพฤษภาคม 2564 ที่นี่