Mori Natural Farm จากพนักงานออฟฟิศ สู่ชีวิตเกษตรกรสไตล์ญี่ปุ่นบนดอย
จากฝันเล็ก ๆ ในป่าใหญ่ของ คุณปอ–สิทธิโชค และ คุณเมี่ยง–สรัญภร พงศ์พฤกษา สองสามีภรรยาอดีตวิศวกรไฟฟ้าและแอร์โฮสเตสว่าอยากจะใช้ชีวิตและมีบ้านขนาดกะทัดรัดหลังสุดท้ายสำหรับเกษียณอยู่บนดอยในชนบทแห่งหนึ่ง สู่บทเริ่มต้นของชีวิตเกษตรกรที่นำเอาความชอบและประสบการณ์ต่างๆที่เรียนรู้มาทั้งชีวิตเพื่อต่อยอดพื้นดินแห่งนี้ให้งอกงามออกมาเป็น โมริ เนเชอรัล ฟาร์ม ตำบลโป่งแยง อำเภอแม่ริม จังหวัด เชียงใหม่ Mori Natural Farm
ที่ Mori Natural Farm นีปลูกแบบผสมผสานมีทั้งไม้ดอกและต้นไม้ทานได้ปลูกสลับกันให้ความรู้สึกดูเป็นธรรมชาติ ต้นอะไรขึ้นตรงไหนแล้วดูไม่เกะกะ ก็จะปล่อยให้เจริญเติบโตไปเลย
คาเฟ่เปิดมาเพื่อให้คนภายนอกที่ไม่สามารถจองบ้านพักได้ยังสามารถมาดื่มกาแฟ ทานอาหารหรือถ่ายภาพได้
บ้านเรียวคังคือบ้านญี่ปุ่นสไตล์ชนบทรีสอร์ตที่นำมาใช้เป็นโรงแรมหรือที่พักของญี่ปุ่นแบบดั้งเดิม ผู้ที่เข้ามาพักก็เสมือนได้เรียนรู้และใช้ชีวิตเฉกเช่นเจ้าของบ้านไปด้วย
ชีวิตที่วางแผนมานาน
“ ผมเกิดที่ชุมพร และแฟนผมเป็นคนกรุงเทพฯ ส่วนใหญ่ผมก็ทำงานไม่อยู่กับที่แล้วก็ได้มาทำงานร่วมกับบริษัทญี่ปุ่นแห่งหนึ่ง ทำได้ 20 กว่าปี ทั้งหลายก็เพื่อเก็บเงินมาลงทุนกับที่นี่ ผมเก็บเงินจากเงินเดือนผมซื้อที่ดินแปลงนี้ไว้เมื่อสิบปีที่แล้ว แล้วผมย้ายมาอยู่ที่นี่ได้เมื่อสองปีก่อน และพึ่งมาเปิดโฮมสเตย์ได้ปีครึ่ง ” คุณปอเล่า
หลังจากลาออกจากงานและตัดสินใจมาอยู่ที่นี่ในที่สุด คุณปอก็สร้างบ้านหลังแรกคือโรงเรือนสังกะสีที่เดิมใช้เป็นทั้งที่อยู่อาศัยไปด้วยในตัวและโรงเรือนเพาะชำสำหรับอนุบาลต้นไม้ เพราะพื้นที่สำหรับทำการเกษตรทั้งหมดค่อนข้างใหญ่ การจะซื้อต้นไม้มาปลูกทั้งหมดในคราวเดียวถือว่าเป็นภาระรายจ่ายที่หนัก จำเป็นต้องเพาะต้นกล้าจากเมล็ดเพื่อมาลงแปลงปลูกแทนการซื้อกล้าที่จะมีราคาที่สูงกว่า หลังจากเริ่มเก็บผลผลิตจนมีทุนพอสมควร จากนั้นจึงสร้างเรียวกังและหลองข้าวขึ้นมาเพื่อปล่อยเช่าและเป็นจุดที่สร้างรายได้เข้ามาอีกทาง พอเริ่มมีเงินหมุนเวียนอีกก็มาสร้างหลังที่สามต่อ ก่อนมาเป็นบ้านหลังใหม่ที่เป็นทั้งคาเฟ่และที่อยู่อาศัยของคุณปอและคุณเมี่ยงด้วยในปัจจุบัน จากนั้นจึงย้อนไปดัดแปลงโรงเรือนสังกะสี เพื่อเป็นโฮมสเตย์หลังต่อไป
“ เรามีแผนว่าจะมาอยู่ที่นี่ แต่ด้วยความที่เราเป็นวิศวกรไม่ใช่สายเกษตรกร ดังนั้นจะให้ผมไปปลูกโน่นนี่แข่งกับชาวบ้านคงไม่ได้ เราจึงเกิดไอเดียว่าเราน่าจะทำเป็นฟาร์มสเตย์ ”
หมู่บ้านโมริในป่าใหญ่
จากประสบการณ์ที่เคยไปอยู่อาศัย ทำงานและหลงใหลในความเป็นประเทศญี่ปุ่นโดยเฉพาะในหมู่บ้านแถบชนบททำให้ทั้งคุณปอและคุณเมี่ยงได้ซึมซับนำเอาความชอบเหล่านั้นติดตัวมาด้วย นำไปสู่การออกแบบไอเดียของอาคาร บ้าน หรือส่วนต่างๆในสวนให้เกิดกลิ่นอายแบบชนบทของประเทศญี่ปุ่นเข้าไปด้วยอย่างจงใจ
“ โมริ ในภาษาญี่ปุ่นแปลว่าป่า ผมมาอยู่ที่นี่ด้วยความเคารพในผืนดินและผืนป่า การเข้ามาอยู่ที่นี่ผมอยากใช้สิ่งเดิมในพื้นที่ให้มากที่สุด เรามาอยู่แค่นำเอาความชอบของเราเข้ามาด้วย แต่เรายังใช้วัตถุดิบจากบ้านเก่าและความเป็นธรรมชาติเดิมเป็นสำคัญ จนเกิดเป็นหมู่ป่าโมริในป่าใหญ่ ” คุณปอเล่า
เกษตรออร์แกนิกง่าย ๆ แต่ทำจริงได้
สวนแบบไร่เลาะไปตามความชันของภูเขาเป็นเสมือนหัวใจของโมริ เนเชอรัล ฟาร์ม ที่ต้นไม้ทุกต้นปลูกผสมกันให้ความรู้สึกเหมือนเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ ประกอบไปด้วยต้นไม้ทานได้อย่างมะนาว เลม่อน มันญี่ปุ่น และโรสแมรี่ ซึ่งสามารถนำวัตถุดิบไปทำอาหารให้กับลูกค้าได้ เพราะตั้งแต่ที่คุณปอและคุณเมี่ยงซื้อที่ดินแปลงนี้มา ผ่านมา 10 ปีได้แล้ว ดังนั้นดินที่ทับถมกันมาเป็นชั้นหนาที่นี่ปลูกอะไรก็งามโดยไม่ต้องใส่ปุ๋ยเลย คู่ไปกับไม้ดอกนานชนิด ซึ่งพระเอกของไร่แห่งนี้คงหนีไม่พ้นไม้ดอกอย่างคัสเตอร์ญี่ปุ่นสีขาวสะอาดตา
“ จากต้นคัสเตอร์สองต้นที่ได้จากโครงการหลวงนำมาขยายพันธุ์จนเต็มทั้งสวน ข้อดีคือหว่านเมล็ดขึ้นง่าย แต่ก่อนที่จะบานเป็นดอกจะใช้เวลาประมาณสามเดือน แล้วทนมาก เหยียบย้ำเท่าไหร่ก็ไม่ตาย เมื่อมันงอกชิดๆติดกันทำให้ช่วยคลุมดินได้อีก ช่วยรักษาความชื้นของหน้าดิน ตรงนี้ไส้เดือนมีอยู่ทุกที่เลย เขาเป็นคนสวนที่เราไม่ต้องจ่ายค่าแรง เข้าช่วยพรวนดิน นำออกซิเจนเข้าไปในดิน ทำให้จุลินทรีย์ที่อยู่ในดินทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น พอเขาขยายพันธุ์และโตก็ยิ่งสามารถย่อยซากพืชซากสัตว์เราได้ดีมากขึ้น ” คุณปอเล่า
ทั้งเศษอาหารและหญ้าที่นี่จะไม่นำมาเผาหรือทิ้งไปอย่างเปล่าประโยชน์ หลังตัดเสร็จแล้วก็ไปทำปุ๋ยหมักต่อ นอกจากนั้นยังมีต้นถั่วบราซิลปลูกอยู่รอบๆ ซึ่งนอกจากคลุมดินแล้วยังเป็นตัวเพิ่มไนโตรเจนให้กับดินได้ ทุกครั้งที่ทำแปลงปลูกใหม่ เมื่อโรยปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยขี้วัวกับปุ๋ยหมักที่ผสมเองแล้วพรวนดินไปครั้งหนึ่งจะสามารถเก็บผลผลิตได้สัก 3 – 4 รอบการผลิต โดยไม่ได้อาศัยปุ๋ยเคมี
คุณปอทิ้งท้ายว่า “ จะเห็นได้ว่าพอเราไม่ได้ใช้สารเคมีจะเห็นผึ้งมิ้มและผีเสื้อตามดอกไม้ในสวน พอระบบนิเวศมันกลับมาหมด ผึ้งก็จะมาสร้างรัง น้ำผึ้งสีเหลืองทองของเขาอร่อยมาก ไม่หวานจัด เขาทำรังเล็กๆอยู่ตามพุ่มไม้ เราเอาควันไปไล่ ให้เขาหนีไปทำรังใหม่ เขาจะทำรังใกล้ๆ กับบริเวณที่เราตัดหญ้าทีก็เจอ มันเป็นการอยู่ร่วมกันระหว่างวิถีชีวิตกับธรรมชาติที่เราฝันถึง ”
สถานที่ : Mori Natural Farm 88/9 หมู่ 3 ตำบลโป่งแยง อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ โทรศัพท์ 08-1787-8595
*ทั้งลูกค้าทั้งบ้านพักและคาเฟ่ กรุณาจองล่วงหน้าก่อนมาใช้บริการ
เรื่อง : ปัญชัช
ภาพ : ฤทธิรงค์ จันทองสุข
รับวิวตะวัน ที่บ้านไร่สไตล์โรงนา
5 บ้านดี มี “ฟาร์ม” สุข เพราะหาผลผลิตธรรมชาติกินได้จากในบ้านเลย
โครงการชั่งหัวมัน ตามพระราชดำริ จากผืนดินแห้งแล้ง…สู่ความเขียวชอุ่ม