KAO.PIAK.SEN BKK ร้านดังจากจังหวัดอุดรธานี สู่ร้านข้าวเปียกเส้นโฉมใหม่ สไตล์โมเดิร์น ใจกลางเมือง ที่ Gaysorn Amarin
KAO.PIAK.SEN BKK คือ ร้านข้าวเปียกเส้นสไตล์โมเดิร์น ผสมผสานกลิ่นอายความอบอุ่นแบบเวียดนามแห่งนี้ เริ่มต้นจากร้านเก่าแก่ดั้งเดิมในเมืองอุดรธานี ที่เปิดมาแล้วกว่า 45 ปี และเปลี่ยนผ่านมาถึงในปัจจุบัน ที่ทายาทรุ่นที่ 3 ได้เข้ามาดูแล และรีโนเวต ‘ร้านข้าวเปียกอุดร’ ให้ร่วมสมัยมากขึ้น และเติบโตไปอีกขั้น
“เราใช้เวลาเตรียมในการรีโนเวตร้านและรีแบรนด์ดิ้งรวมประมาณ 4 ปี เพื่อให้แนวคิดของคนรุ่นก่อตั้งและคนรุ่นใหม่ที่เข้ามารับช่วงเห็นพ้องต้องกันว่าร้านต้องไปต่อ ไม่หยุดอยู่แค่ร้านดั้งเดิมเลยอยากต่อยอดแบรนด์ เราอยากลองดูว่า สุดท้ายแล้ว ร้านข้าวเปียกเส้น จะไปได้ไกลสุดแค่ไหน” คุณอร – อรธิรา ฤกษ์รุ่งเรือง หนึ่งในทีม Owner KAO.PIAK.SEN (Udonthani & BKK) และตัวแทนบริษัทออกแบบ Please Feel Invited กล่าวกับเราถึงความเป็นมาและจุดเปลี่ยนในการทำร้านข้าวเปียกเส้นโฉมใหม่
จากอุดรธานี มาถึง KAO.PIAK.SEN BKK กลางกรุง ‘เกษรอัมรินทร์’
จากการรีแบรนด์ดิ้ง ปรับภาพลักษณ์และพัฒนาระบบหลังบ้านของการทำร้าน KAO.PIAK.SEN อุดรธานี ทำให้ร้านมีความแข็งแรง มีภาพจำที่ชัดเจน ประกอบกับขณะนั้น คุณแต้ว – ณฐพร เตมีรักษ์ และ คุณณัย – ประณัย พรประภา ได้เข้ามารับประทานอาหารที่สาขาอุดรธานี เกิดเป็นความชื่นชอบทั้งอาหารและบรรยากาศ จึงได้มีโอกาสขยับขยายร้านร่วมกันเป็นพาร์ทเนอร์ที่สาขาใหม่อย่าง กรุงเทพมหานคร
ด้วยความตั้งใจจะนำ KAO.PIAK.SEN มาเปิดร้านในกรุงเทพมหานคร ทางทีม KAO.PIAK.SEN จึงอยากให้ทำเลของร้านเป็นสถานที่ที่ทุกคนสามารถเข้าถึงได้ง่ายที่สุด จึงเลือกเปิดสาขาใหม่ ณ ใจกลางเมืองที่ เกษรอัมรินทร์ (Gaysorn Amarin) อาคารที่เป็นแหล่งรวมไลฟ์สไตล์ ร้านค้า ร้านอาหารระดับมิชลินสตาร์ และคาเฟ่ในสไตล์ Casual Fine-Dining กลางย่านราชประสงค์
อีกทั้งที่นี่ยังรีโนเวตมาจากอาคารเดิมอย่าง อัมรินทร์พลาซ่า ให้คงความงามอันเป็นตำนานของสถาปัตยกรรมแบบ Postmodern แต่งเติมด้วยความทันสมัย และเต็มไปด้วยเรื่องราวให้เล่าขาน เฉกเช่นเดียวกับร้าน KAO.PIAK.SEN ที่เป็นมรดกตกทอดจากรุ่นสู่รุ่น
แนวคิด Raw And Refined ความดิบที่อบอุ่น ของวัสดุและการตกแต่ง
จุดเด่นของร้านคือ ข้าวเปียกเส้น อาหารประจำท้องถิ่นของเวียดนาม การตกแต่งภายในจึงมีพื้นฐานจากการสร้างบรรยากาศที่สะท้อนวัฒนธรรมท้องถิ่นที่ผสมผสานความเป็นจีนและฝรั่งเศส รวมถึงจุดกำเนิดที่มาจากภาคอีสานอย่างอุดรธานี งานออกแบบจึงอยากให้รีเลทกับวิถีชีวิตของผู้คน โดยใช้คอนเซ็ปต์ “Raw and Refined” ซึ่งสื่อถึงแนวคิดที่ชัดเจน มีความเป็นทางการและตรงไปตรงมา ผ่านทางวัสดุและการตกแต่ง
“การรีโนเวทร้านของเราจึงต้องมีบรรยากาศของความเป็นแบบความอบอุ่น โฮมมี่ เข้าถึงง่าย
ไม่ได้ดูเป็นแบบภัตตาคารจนเกินไป จนทำให้คนรู้สึกว่าไม่ comfort ที่จะเข้ามา” – คุณอร
คุณอรอธิบายเพิ่มเติมถึงคำว่า Raw And Refined ว่าอยากให้เป็นเรื่องเกี่ยวกับการใช้ Material ที่มีความดิบ เช่น อิฐ หรือทองแดง เข้ามาจัดเรียงกันอย่างประณีต งดงาม ผสมผสานระหว่างเฟอร์นิเจอร์ไม้และเก้าอี้หวายที่มีความอบอุ่น เป็นกันเอง และเลือกใช้โทนสีที่มีกิมมิค ที่ทำให้คิดถึงความเป็นเวียดนาม อย่างสีเขียว สีน้ำตาล ทำให้ทีมได้เลือกใช้วัสดุธรรมชาติในโทนสีเขียว เป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ โดยใช้กระเบื้องดินเผา หินอ่อนไลม์สโตน และอิฐสีเขียวเข้ามาใช้เป็นวัสดุตกแต่ง
รวมไปถึงการใช้ ทองแดง เข้ามาตกแต่งในจุดต่าง ๆ เช่น กรอบบานประตูและหน้าต่างทรงมน และโคมไฟดวงกลมซึ่งสั่งทำจากแผ่นทองแดงที่ให้ผิวสัมผัสและความรู้สึกที่แตกต่างกัน เพิ่มมิติและความน่าสนใจให้กับผนัง ซึ่งทางทีมออกแบบได้ใช้ความกลมโค้งมนมาผสานกับพื้นที่ผ่านจุดต่าง ๆ เช่นการเจาะฝ้าทางเดิน ขอบไม้มุมโต๊ะและที่นั่ง หน้าบาน โคมไฟ เพื่อเสริมความอบอุ่น เฟรนด์ลี่ ให้กับพื้นที่
โดยความโค้งมนในจุดต่าง ๆ ได้รับการดัดแปลงมาจากกิมมิคความเป็นดอกไม้ของเวียดนาม เพิ่มความอ่อนหวานให้กับวัสดุที่ดูดิบและแข็งแกร่งอย่างอิฐ ไม้ หรือโลหะให้อ่อนช้อยขึ้น หากสังเกตในบางมุม ก็จะมีการแต่งเติมลวดลายดอกไม้เข้ามา เพื่อที่จะให้บรรยากาศดูละมุน นวลตามากยิ่งขึ้น
“พื้นที่ภายในร้านเราถูกกำหนดโดยเสาที่มีอยู่ของโครงการ เราตัดสินใจจัดวางที่นั่งแบบเคาน์เตอร์ให้กลมกลืนไปกับเสา พร้อมทั้งประดับลวดลายดอกไม้ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของความงามในวัฒนธรรมเวียดนาม โดยได้รับแรงบันดาลใจจากงานฝังไม้ศิลปะชั้นสูงของงานไม้ตะวันตก
อีกจุดเด่นของร้านคือโต๊ะยาวกลางร้านที่สะท้อนถึงเอกลักษณ์ของการรับประทานอาหารแบบเวียดนาม ใช้เก้าอี้ลอยตัวและม้านั่งยาวที่ออกแบบขาจากรูปทรงดอกไม้ ทำให้ทุกคนรู้สึกเหมือนได้รับประสบการณ์การรับประทานอาหารที่น่าจดจำร่วมกัน
นอกจากนี้เรายังแบ่งสัดส่วนของพื้นที่ด้วยฝ้าแบบเรียบซ่อนไฟ และฝ้าโค้งที่มีความเป็นลูกคลื่นหรือรูปทรงคล้ายดอกไม้ เพื่อช่วยเพิ่มความรู้สึกอ่อนโยนและละเอียดอ่อน โดยไม่ทิ้งความเป็นเอกลักษณ์ของวัฒนธรรมเวียดนาม ซึ่งสร้างบรรยากาศที่อบอุ่นและมีเสน่ห์ในพื้นที่” – คุณอร
ทางทีมออกแบบยังแทรกกิมมิคความเป็นเวียดนามลงไปในการออกแบบพื้นที่ จากวัฒนธรรมเวียดนามที่จะรับประทานอาหารร่วมกันแบบอย่างครอบครัว หรือในหมู่คณะที่เป็นคนรู้จักหรือเป็นเพื่อนบ้านกัน ทำให้มีการมาร่วมวง ร่วมโต๊ะอาหารกันคล้ายคลึงกับวัฒนธรรมไทย เกิดเป็นการแบ่งโซนที่หลากหลาย เพื่อให้ตอบสนองลูกค้าได้หลายกลุ่ม ได้แก่ โซนโซฟา สำหรับมุมรับประทานอาหารกันแบบครอบครัว โซนกลางร้านที่เป็นโต๊ะกลม โซนหน้าบาร์ และโซนไพรเวท ที่มีความเป็นส่วนตัวสูง และโซนโต๊ะยาวกลางร้านที่เปิดให้ผู้คนที่มารับประทานได้มาสังสรรค์ เอ็นจอยร่วมกัน
ตัวอย่างมุมโซฟาที่มีการออกแบบ Feature Wall ที่สะดุดตา ที่นี่เลือกใช้กระเบื้องสีขาวที่มีลักษณะ Organic แบ่งสัดส่วนกับหินไลม์สโตนเซาะร่องกลม หินอ่อนสีเขียวลวดลายเด่นและผนังฟันปลาที่จัดเรียงเส้นเฉียงให้เกิดลวดลายซิกแซ็ก นำเสนอความงามที่ไม่ซ้ำใคร เมื่อนำมาจัดวางรวมกันแล้วจะได้รูปแบบที่มีความหลากหลายแต่ยังคงความเรียบง่ายและสบายตา
ในมุมของการตกแต่งที่ดูโมเดิร์น ร่วมสมัย KAO.PIAK.SEN เลือกที่จะคงความวินเทจ ผ่านการปูพื้นของร้านทั้งสองสาขาด้วย งานเทอร์ราซโซ ที่ให้บรรยากาศอบอุ่นแบบบ้านยุคเก่า เพื่อให้คนที่เข้ามา ได้รับความรู้สึกว่าการเดินเข้าร้านนี้ เหมือนกับการเดินเข้าบ้าน โดยจะเลือกเป็นพื้นโทนสีสว่าง อย่างสีขาวครีม และใช้เกล็ดกินขนาดเล็กสีอ่อนเช่นกัน เพื่อ ให้ไม่โดดเด่นจนไปแย่งสายตาจากเฟอร์นิเจอร์และงานตกแต่งภายในร้านจนเกินไป แถมยังเสริมความมีเสน่ห์ให้กับพื้นที่ภายในร้าน
“ถ้าพูดกันตรง ๆ ที่เราเลือกใช้งานหินขัดหรือ เทอร์ราซโซ เพราะนอกจากความสวยงามแล้วยังโดดเด่นเรื่องของความคงทน ยิ่งเราเลือกใช้ เสือ เดคอร์ ปูนซีเมนต์ขาวปอร์ตแลนด์ งานเทอร์ราซโซ มาออกแบบงานเทอร์ราซโซก็ยิ่งมั่นใจเรื่องของคุณภาพและความคงทน งานออกมาตรงตามสเปคที่อยากได้
ซึ่งงานเทอร์ราซโซนี้เป็นกิมมิคดีไซน์ของทางร้านที่อุดรด้วย และด้วยความที่เฟอร์นิเจอร์ในร้านเรา ค่อนข้างเยอะ การเลือกเกล็ดหินใหญ่ ก็จะไปชนกัน เราเลยเลือกเป็นสีอ่อนและเกล็ดเล็กทำให้ภาพรวมของร้านมันดูสมูท สมบูรณ์ขึ้น ออกมาตรงตามแบบเราวางไว้เลย”
เมนูเช้าจรดเย็น ที่ฟิวชันให้เข้ากับพื้นที่
ไม่เพียงแต่การปรับแต่งร้าน แต่ KAO.PIAK.SEN BKK ยังมีการปรับแต่งเมนูให้ฟิวชันมากขึ้น จากเดิมที่สาขาอุดรธานี จะมีความออริจินัลกว่า ทั้งเมนูและบรรยากาศ แต่เมื่อมาตั้งอยู่ในต่างที่ในกลางเมือง ทางทีม KAO.PIAK.SEN จึงปรับเมนูให้เข้ากับสังคมมากขึ้น เพิ่มเกรดวัตถุดิบและเมนูพรีเมียมขึ้นมา เพื่อที่จะตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าใหม่ ๆ ที่มักจะเป็นคนที่ทำงานในพื้นที่ หรือ กลุ่มครอบครัวที่มารับประทานในโอกาสต่าง ๆ
ซึ่งความตั้งใจจะออกแบบร้านและเมนูให้เข้าถึงผู้คนในพื้นที่ใหม่ ๆ คุณอรเล่าว่าเพื่ออยากให้คนได้รู้จักกับเมนูและแบรนด์ “ข้าวเปียกเส้น” ของแท้ดั้งเดิม ให้มากขึ้น โดยเมนูนี้จะมีความหนาของเส้นข้าวจ้าวที่หนากว่า นุ่มเหนียวสู้ฟัน ต่างกับ ก๋วยจั๊บญวน ที่จะเป็นเส้นแป้งที่เล็กกว่า นอกจากนี้น้ำซุปจะมีความหนืดข้นคล้ายกับซุปราเม็ง เกิดจากการเคี่ยวซุปกับเส้นให้เข้ากันจนความหนืดของแป้งหลอมรวมกับซุปข้นอย่างเข้าเนื้อ
“ถ้าพูดกันตามตรงคนไทยอาจจะยังไม่ค่อยรู้จักข้าวเปียกเส้น อาจรู้จักในวงแคบมาก ๆ หรือรู้จักในนาม ก๋วยจั๊บญวน ซึ่งจริง ๆ มันต่างกัน เราเลยอยากเอา ข้าวเปียกเส้น มานำเสนอให้คนรู้จักมากขึ้น จากร้านที่เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านข้าวเปียกเส้น เพราะว่าคุณย่าผู้ก่อตั้งได้อพยพเข้ามาจากเวียดนาม แล้วก็ทําข้าวเปียกเส้นขายมาตั้งแต่ยังสาว เป็นเวลากว่าสี่สิบห้าปี เส้นสด น้ำซุป เราก็ทําเองโดยตรง ของแท้เลยค่ะ” – คุณอร
นอกจากเมนูข้าวเปียกเส้น ยังมีหลายเมนูที่ทางร้านปรับให้ถูกปากคนไทยมากขึ้น เช่น ขนมเบื้องญวน หรือ บั๋นแซว ซึ่งปกติจะทำจากแป้งที่ผสมกับไข่ และเมื่อโดนกับความชื้นของไส้ผัดก็จะมีความนิ่มตรงกลาง คุณอรจึงทำการพัฒนาตัวแป้งให้มีความกรอบทั้งคำ คล้ายกับการรับประทานทาโก้ ซึ่งเป็นการแก้ปัญหาที่ตอบโจทย์ลูกค้าอีกหลาย ๆ ท่าน
อีกมุมที่คุณอรมองเห็นและนำมาพัฒนาคือมุมมองที่หลายคนอาจรู้สึกว่า อาหารเวียดนามจะเป็นเมนูมื้อใหญ่ ที่กินได้แค่บางมื้อ บางวัน ที่ KAO.PIAK.SEN BKK อธิบายตัวเองเพิ่มเติมด้วยประโยค All Day Vietnamese ที่จะสื่อว่า ที่นี่เป็นร้านอาหารเวียดนามที่สามารถมานั่งรับประทานได้ทุกมื้อตั้งแต่เช้าจรดค่ำ แม้จะมากินทุกวันก็ไม่รู้สึกเบื่อ ด้วยเมนูที่รังสรรค์มาหลากหลายเกินกว่า 50 เมนูอาหารและเครื่องดื่ม
หากใครที่ชื่นชอบอาหารเวียดนาม หรือแม้แต่ใครที่ยังไม่เคยรับประทาน รับรองได้ว่า KAO.PIAK.SEN BKK จะเป็นร้านอาหารเวียดนามอันดับต้น ๆ ที่ควรไปลิ้มลองรสชาติข้าวเปียกเส้นจากอุดรธานี และดื่มด่ำกับบรรยากาศของร้านที่ทีมงานตั้งใจออกแบบมาอย่างดี เพื่อต้อนรับทุกคนสู่ร้านที่อบอุ่นเหมือนได้กลับบ้านแห่งนี้ โดยไม่ว่าใครก็สามารถแวะเวียนมาได้ตลอดทั้งวัน สำหรับผู้ที่สนใจ สามารถเข้าไปรับประทานได้ที่
KAO PIAK SEN BKK – Gaysorn Amarin เปิดทุกวัน เวลา 9.00 – 22.00 น.
(G Floor Amarin Tower, Lumphini, Pathum Wan, Bangkok 10330)
ติดต่อได้ที่ linktr.ee/kaopiaksen.bkk หรือโทร. 096 398 5114
สำหรับใครที่สนใจผลิตภัณฑ์เทอร์ราซโซ (Terrazzo) จาก เสือ เดคอร์ ปูนซีเมนต์ขาวปอร์ตแลนด์ประเภท 1 งานเทอร์ราซโซ และผลิตภัณฑ์ทางเลือกในการตกแต่ง สามารถอ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Website : https://tigerbrandth.com/ หรือแฟนเพจ Tiger Brand ตราเสือ และเบอร์ CPAC Contact Center : 02-555-5555