Figureground.cafe คาเฟ่ที่เป็นทั้ง Co-working Space และแกลเลอรี่จัดแสดงผลงานศิลปะ
ในระยะหลังที่ใครหลายคน ปรับการทำงานมาเป็นการ Work From Home แต่การทำงานที่บ้านอย่างเดียวอาจรู้สึกน่าเบื่อและจำเจ ดังนั้นคาเฟ่ หรือร้านกาแฟ จึงเป็นจุดหมายปลายทาง ที่ใครหลายคนเลือกเปลี่ยนบรรยากาศในการทำงาน วันนี้ บ้านและสวน พามารู้จักกับ Figureground Cafe ย่านสุทธิสาร ที่หากใครได้เห็นรูปของร้านมาก่อน คงนึกถึงบรรยากาศและการตกแต่งของร้านที่เป็นเอกลักษณ์ได้ทันที นั่นเป็นเพราะที่นี่ ตั้งใจออกแบบมาให้ลูกค้าสามารถจดจำภาพและบรรยากาศในร้านเป็นอันดับแรก
ร้านที่อยากสร้างภาพจำในความรู้สึก Figureground Cafe
จุดเริ่มต้นของคาเฟ่นี้คือ คุณป๊อป – มานพ ปฐมวรกุล เจ้าของร้าน Figureground Cafe มีความสนใจและชื่นชอบในการดื่มกาแฟ และงานศิลปะ รวมกับประสบการณ์ที่คุณป๊อปได้ไปมาหลายๆ ร้าน
ทำให้คุณป๊อปค้นพบแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์คาเฟ่ของตัวเองโดยเริ่มต้นจากคิดคอนเซ็ปต์และวาง อัตลักษณ์แบรนด์ (Corporate Identity) ของร้านเพื่อให้มีเอกลักษณ์ที่ชัดเจน
ที่มาของชื่อร้าน คำว่า Figure หมายถึง ภาพจำ ส่วน Ground คือสถานที่ เมื่อรวมกันแล้ว Figureground จึงหมายถึงสถานที่ที่มาแล้วได้จดจำสิ่งที่ประทับใจกลับไป
“เวลาที่เราเองไปชมอะไรที่ไหน เรามักจะจำภาพและความรู้สึกได้แม่นยำกว่าการพูด ที่ร้านของเราเองจึงเน้นออกแบบให้สร้างภาพจำ ทำให้คนที่เห็นโลโก้แบบนี้ ลักษณะดีไซน์แบบนี้ เห็นแล้วจำได้ทันทีว่าเป็นร้าน Figureground เท่านั้น” –คุณป๊อป
ที่นี่จึงเป็นคาเฟ่ที่เน้นความสวยงาม มีเอกลักษณ์ และเรื่องรสชาติของกาแฟที่อร่อย หลากหลาย ไปจนถึงเครื่องดื่มและอาหารเมนูอื่น ๆ ซึ่งเมนูเบเกอรี่ของที่ร้านจะเป็นเมนู Homemade จึงสามารถคัดสรรวัตถุดิบทั้งหมดให้มีคุณภาพดีที่สุดอย่างคงที่ได้
Coffee Space Relationship
คอนเซ็ปต์ Coffee Space Relationship ของร้าน คิดมาจากความต้องการให้ทุกคนที่เข้ามาสามารถใช้ที่นี่เป็นจุดพบปะ เพื่อพูดคุย สร้างบทสนทนา แลกเปลี่ยนความคิดกัน รวมถึงสามารถมานั่งทำงาน มีตติ้ง พร้อมดื่มด่ำกับรสชาติกาแฟคุณภาพดี หรือจะมาถ่ายรูปลงโซเชียลมีเดียแบบชิค ๆ ก็ได้มุมที่สวยไม่ซ้ำใคร
เพราะภายในร้านได้ตกแต่งพื้นที่ให้เป็นกึ่ง Co-working Space กึ่งแกลเลอรี่จัดแสดงผลงานศิลปะที่มีเอกลักษณ์ โดยสถาปนิกได้ออกแบบแปลนและจัดวางเฟอร์นิเจอร์ให้มีความโค้ง ลื่นไหลไปตามพื้นที่แบบฟรีฟอร์ม เกิดเป็นมุมหลากหลายในพื้นที่ร้าน ช่วยเพิ่มลูกเล่นให้งานดีไซน์และยังช่วยเพิ่มความเป็นส่วนตัวให้กับลูกค้าแม้อยู่ในพื้นที่เปิด นอกจากนี้แต่ละมุมยังเปิดรับแสงธรรมชาติ เสริมความสดชื่นด้วยสีเขียวของสวนภายนอก
ที่น่าสนใจ คือ เพียงแค่นั่งต่างมุมกัน ก็จะเปลี่ยนวิวและสร้างความรู้สึกได้ไม่ซ้ำแบบ แม้มานั่งทุกวันก็จะไม่รู้สึกจำเจ
เดินผ่านแคทวอร์ค มานั่งในอาร์ตแกลเลอรี่
การวางแปลนที่ตั้งของร้านไม่ได้หันหน้าออกไปยังถนน และไม่ได้มีภาพที่บอกอย่างตรงไปตรงมาว่าเป็นคาเฟ่ เพราะตัวอาคารหันทางเข้ามาด้านใน สร้างความลึกลับ น่าสนใจ ทำให้คนที่เข้ามาที่ร้านเป็นคนที่ตั้งใจเข้ามาจริง ๆ มาค้นหา และทำความรู้จักกับร้าน
มุมบันไดทางขึ้นร้าน คุณป๊อปตั้งใจออกแบบให้เป็นเหมือนแคทวอร์คเล็ก ๆ เพื่อโชว์ความน่าสนใจเมื่อได้เดินผ่านหน้าบาร์ โดยบาร์จะแยกเป็น Stand Alone ที่สามารถนั่งรอบบาร์เพื่อชมบาริสต้าชงกาแฟ ทั้งจากวิธีดริป หรือใช้เครื่องชงเอสเพรสโซ่
หลาย ๆ องค์ประกอบภายในร้าน ไม่ว่าจะโครงสร้างของร้านรวมไปถึงเฟรมภาพตกแต่งได้แตกไอเดียดีไซน์ล้อไปกับโลโก้ที่มีความโค้งมน ตัดกับเส้นแนวตั้งที่เพิ่มมิติมากขึ้น และสอดคล้องกับอัตลักษณ์แบรนด์ที่ได้วางไว้อย่างแข็งแรง ให้มีสีเขียว สีเทา และสีดำที่มีความเท่ น่าค้นหา ตัดกับเฟอร์นิเจอร์ของตกแต่งสีแสดเพิ่มความป๊อป
เมื่อเราเดินเข้ามาถึงโซนที่นั่งด้านในจะรู้สึกเหมือนได้อยู่ในอาร์ตแกลเลอรี่ ซึ่งคุณป๊อปเป็นคนกำหนดกับดีไซน์เนอร์ว่าต้องการดีไซน์อย่างไร ด้วยโครงสร้าง วิธีการ สี และวัสดุแบบใด ให้ออกมาเป็นพื้นที่ร้านสวย ๆ ในสไตล์ที่คุณป๊อปชื่นชอบ
นอกจากนี้ยังเลือกเสริมความโมเดิร์นให้มุมต่าง ๆ ด้วยการใช้เทคนิคงานเทอร์ราซโซ (Terrazzo) ที่สามารถประยุกต์ให้เข้ากับวัสดุอื่นๆ ได้อย่างลงตัว เช่น การตกแต่งพื้น จะเลือกใช้เป็นเกล็ดหินเม็ดเล็กสีเทาผสมดำ และมีการแบ่ง Section ด้วยพื้นสีเทาและสีขาว ตัดกันเป็นเส้นโค้งล้อกันกับที่นั่ง เป็นต้น
ส่วนมุมที่ใครเข้ามาก็ต้องเจอก่อนอย่าง เคาน์เตอร์หน้าบาร์ที่ตั้งใจออกแบบด้วยเทอร์ราซโซเช่นกัน แต่เพิ่มความสะดุดตาด้วยการฝังแก้วสีเขียวซึ่งเป็นสีที่มองแล้วผ่อนคลาย ร่มรื่น เข้าถึงได้ง่าย และเป็นสีที่คุณป๊อปโปรดปราน โดยมุมนี้จะใช้เศษแก้วขนาดใหญ่ที่มีรูปทรงต่าง ๆ กัน นอกจากจะสะท้อนเล่นกับแสงที่ไปกระทบ มองได้ไม่เบื่อแล้ว ยังเป็นงานศิลปะที่รังสรรค์มาแต่งแต้มภายในร้านอีกด้วย
คุณป๊อปเลือกสีของงานเทอร์ราซโซและวัสดุตกแต่งที่หลากหลาย เพื่อสื่อสารความรู้สึกให้ต่างกันในแต่ละจุด เช่น กระถางต้นไม้ จะเลือกใช้เทอร์ราซโซสีขาว และใส่เกล็ดหินสีอ่อน เพื่อล้อกับมุมต้นไม้แห้งและพื้นหิน ส่วนโต๊ะในแต่ละมุมก็จะเลือกใช้เกล็ดที่สร้างภาพจำต่างกัน เช่น โต๊ะทรงมนสีเขียวเข้มที่ฝังด้วยชื่อร้าน ไม่ว่าใครเดินเข้าไปเห็นจะต้องสะดุดตา น่าเข้าไปนั่งหากโต๊ะตัวนั้นยังว่างอยู่
หรือที่นั่งสีเขียวขนาดใหญ่ รูปทรงเว้าโค้งตัดกับเส้นตรง ก็สามารถเป็นมุมนั่งจิบกาแฟ ยกแล็ปท็อปขึ้นมานั่งทำงาน หรือเอาโทรศัพท์มาสแนปก็ได้ภาพเท่ ๆ เหมือนไปเที่ยวแกลเลอรี่
ด้วยความละเอียดและใส่ใจในการเลือกสเปกของต่าง ๆ พยายามเลือกสิ่งที่คุณภาพดีที่สุด คุณป๊อปจึงได้เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ เสือ เดคอร์ ปูนซีเมนต์ปอร์ตแลนด์ขาว งานเทอร์ราซโซ มาใช้ในงานเทอร์ราซโซทุกจุด เพราะตอบโจทย์เรื่องคุณภาพและความสวยงามให้ออกมาได้ดี ออกแบบได้สนุก สามารถผสมวัสดุที่มีเอกลักษ์และสร้างสรรค์ลวดลายภายในได้หลากหลายอีกด้วย
เมนูที่รังสรรค์มาอย่างดี ควบคู่กับงานออกแบบ
นอกจากการออกแบบร้านอันสร้างภาพจำได้สมดั่งชื่อ Figuregrond ที่นี่ยังมีเมนูที่น่าสนใจและอร่อย คอยต้อนรับลูกค้าอยู่เสมอ ทั้งเมนูกาแฟ น้ำดื่ม และขนม โดยทางร้านจะคัดสรรตั้งแต่วัตถุดิบต้นทางที่ดีที่สุด และใส่ใจรายละเอียดในกระบวนการปรุง เช่น น้ำผลไม้ปั่น จะใช้เป็นผลไม้สดตามฤดูกาล หรือขนมปัง Sourdough ที่นี่จะใช้ยีสต์ธรรมชาติที่บ่มเลี้ยงเอง เพื่อส่งมอบเมนูต่าง ๆ ที่รับประทานแล้วจะต้องได้รับรสชาติที่ดี
ใครที่อยากไปลองสัมผัสความใส่ใจที่ FigureGround Cafe คัดสรรออกแบบไว้ให้มารับชมและลิ้มชิม สามารถเดินทางเข้าไปได้ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 7.00 – 17.00 น. และสำหรับเพื่อน ๆ ที่มีสัตว์เลี้ยง ที่นี่ก็เปิดพื้นที่ Outdoor ไว้รองรับให้สามารถนั่งร่วมกันกับน้อง ๆ ได้ ใครที่สนใจ แวะมาได้ที่
ที่อยู่ร้าน : https://maps.app.goo.gl/cLqR4qhvZRv7eM2N7 หรือติดต่อได้ที่ Fanpage และ Instagram โทร : 094 516 9456 และสำหรับใครที่สนใจผลิตภัณฑ์งาน Terrazzo และผลิตภัณฑ์ทางเลือกในการตกแต่ง สามารถอ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
FB : https://www.facebook.com/TigerBrandTH
Website : https://tigerbrandth.com/
CPAC Contact Center : 02-555-5555
