บ้านชนบทชั้นเดียว สไตล์ไทยผสมญี่ปุ่น
บ้านชนบทชั้นเดียว ที่มีกลิ่นอายแบบชนบทไทยและใส่รายละเอียดบางอย่างแบบบ้านญี่ปุ่นแบบที่เจ้าของบ้านชอบเอาไว้ โดยนำเอาระบบโมดูลาร์มาใช้ เพื่อให้สามารถก่อสร้างได้รวดเร็วและเหลือเศษวัสดุน้อยที่สุด
บ้านชนบทชั้นเดียว หลังนี้ตั้งอยู่ในทำเลที่มีระยะทางไม่ไกลจากตัวเมืองเชียงใหม่ ขับรถเลียบเลาะแม่น้ำปิงใช้เวลา 20 นาทีเศษมายังตำบลสันผีเสื้อ เข้าซอยมาในชุมชนเล็กๆ ที่มีบ้านเรือนตั้งอยู่อยู่ประปราย จากปากทางเข้าบ้านขนาดพอดีจอดรถได้ 1 คัน เมื่อเดินลอดซุ้มประตูไม้เข้ามาจะพบกับที่ดินกว้างๆ พื้นที่ราว 96 ตารางวา มีบ้านหลังคาจั่วขนาดกะทัดรัดซ่อนตัวอยู่ในทิวไผ่ หลังคาบ้านที่ทอดยาวลงมาให้เห็นเพียงตัวบ้านและชานยื่นออกมารำไร รอบๆเป็นลานดิน มีกองไฟ ไม้ยืนต้น และพืชผักสวนครัวปลูกไว้ประปรายให้บรรยากาศแบบบ้านชนบทแสนสงบเงียบและเป็นธรรมชาติ
คุณเต้ย-ทรงชัย ทองผาสุข เจ้าของบ้านเป็นคนพังงา หลังจากทำงานในกรุงเทพฯได้ระยะหนึ่งก็ย้ายถิ่นฐานอีกครั้งมาอยู่จังหวัดเชียงใหม่เข้าสู่ปีที่ 8 แล้ว โดยทำอาชีพเป็นสถาปนิกดูแลงานแบบก่อสร้างให้ “ใจบ้านสตูดิโอ” บ้านชนบทชั้นเดียว หลังนี้สร้างมาราวปีกว่า คุณเต้ยทั้งออกแบบและลงมือทำบ้านเองบางส่วน เป็นบ้านที่มีกลิ่นอายแบบชนบทไทยและใส่รายละเอียดบางอย่างแบบบ้านญี่ปุ่นแบบที่ชอบเอาไว้
“ตอนแรกผมเล็งที่ดินไว้หลายที่เหมือนกัน แต่ยังไม่ได้สักที ระหว่างนั้นก็มีแปลนบ้านในหัวเรียบร้อย จนมาเจอที่ดินแปลงนี้ซึ่งทางเข้ามันแคบหน่อย คนส่วนใหญ่อาจจะไม่อยากได้ที่ดินแบบนี้ แต่ผมมองแล้วรถผมเข้าได้เลยตัดสินใจไม่ยาก ผมอยากสร้างบ้านเร็วและประหยัดที่สุด จึงนำเอาระบบโมดูลาร์มาใช้ กำหนดระยะและขนาดให้พอดีกับวัสดุที่นำมาใช้ เช่น พื้นใช้แผ่นซีเมนต์บอร์ดขนาด 1.20 x 2.40 เมตร ตัวบ้านโครงเหล็กซึ่งขนาดเหล็กยาว 6 เมตร หรือหลังคาเฉียงทำมุม 45 องศา เส้นตั้งตัดเส้นนอนมันจะพอดี คิดทุกอย่างให้ลงตัวและตัดวัสดุให้น้อยที่สุด เพราะผมตั้งใจว่าจะทำเองบางส่วนด้วย จึงไม่อยากยุ่งยากหากต้องมาตัดเอง บ้านหลังนี้ผมออกแบบแล้วก็ตัดโมเดลให้ช่างดูเลยจะได้เห็นภาพตรงกัน คิดวิธีให้ช่างทำงานง่ายสุด และเหนื่อยน้อยที่สุด ใช้งบประมาณสร้างบ้านประมาณ 450,000 บาท ช่างที่มาทำบ้านก็รู้จักกันตอนทำงาน บางอย่างผมก็ลงมือทำเองและมีเพื่อน ๆมาช่วยทำด้วย ใช้เวลาสร้างอยู่ 6-7 เดือน”
วัสดุบ้านบ้าน หาได้ในท้องถิ่น
ตัวบ้านขนาด 6 x11เมตร (รวมระเบียง) เมื่อกำหนดขนาดและระยะพอดีกับวัสดุที่นำมาใช้ทำให้สามารถก่อสร้างได้รวดเร็วและเหลือเศษวัสดุน้อย โครงสร้างฐานรากใช้ตอม่อสำเร็จรูป ยกพื้นสูงจากดิน 50 เซนติเมตร เหนือตอม่อวางโครงเหล็กทั้งหมด ผนังทำโครงคร่าวประกบเหล็กแล้วจึงกรุฝาไม้เก่า ส่วนหลังคาใช้กระเบื้องลอนคู่สีขาว องค์ประกอบหลาย ๆอย่างในบ้าน เจ้าของบ้านลงมือทำเองโดยเฉพาะงานไม้ต่าง ๆ ทั้งฝาผนังไม้ ฝ้าไม้ไผ่ในบ้าน ชั้นไม้ที่ใช้เก็บของจิปาถะต่าง ๆ ซึ่งเขาย้ำว่างานไม้เหล่านี้ไม่ได้เนี้ยบถูกหลักการ แต่เน้นความแข็งแรงและใช้งานได้
“ผมจะเลือกวัสดุราคาประหยัดมาใช้ อย่างพื้นภายในบ้านและระเบียงปูแผ่นซีเมนต์บอร์ด ส่วนผนังใช้ไม้เก่าหามาจากในเชียงใหม่ มีทั้งไม้อาคารเก่า โรงเรียน และบ้านผสมๆกัน เอามาล้างทำความสะอาด ไม้พวกนี้จะคละกันมา มีทั้งไม้สัก ไม้แดง และไม้เนื้อแข็งอื่น ๆ ส่วนใหญ่ไม้ฝาจะมาที่ความยาว 2.50 เมตร ผมจะมาดูว่าผนังแต่ละจุดใช้ไม้ประมาณเท่าไหร่แล้วคัดไม้เฉดสีเดียวกันมาติดตั้งบริเวณเดียวกัน ทำเองกับน้องๆ ที่ออฟฟิศ ช่วยคนละแผงสองแผง ใช้ตะปูลมยึดง่าย ๆ ประตูฝั่งระเบียงที่หันออก ผมใช้ประตูไม้ลูกฟักกระจก แต่อีกฝั่งที่มองไม่เห็นจากด้านนอกผมใช้บานเลื่อนอะลูมิเนียมง่าย ๆเลย เอาแบบราคาถูก ของถูกใส่ไปเลย
“พื้นในบ้านจะปูเสื่อทับอีกทีเป็นเสื่อแหย่ง (ทำมาจากต้นคล้าน้ำ) ผิวจะเงาและนุ่มกว่าเสื่อไม้ไผ่ ปกติเสื่อแบบนี้นิยมใช้กันในวัดทางภาคเหนือ เท่าที่ใช้มาไม่มีปัญหาอับชื้นหรือเชื้อรานะ อาจเพราะในบ้านเราแห้งด้วย ซึ่งผมสั่งมาจากเพจที่มีแหล่งผลิตอยู่ในเชียงใหม่นี่เอง ตอนนั้นไม่มีไอเดียปูพื้น แล้วมีน้องทักมาว่าน่าปูอันนี้เลยได้ไอเดีย พอเราติดต่อไปเขาจะมาวัดขนาดหน้างานเอาไปทอที่บ้าน จากนั้นค่อยมาปูและเก็บขอบตามเสา เป็นขนาดเฉพาะบ้านใครบ้านมัน สั่งทำตารางเมตรละ 250 บาท ส่วนฝ้าในบ้านใช้ไม้ไผ่ลำตีเป็นโครงจันทันหลอกแล้วซ้อนฟากไม้ไผ่ ผมทำง่ายๆเอาแค่ครึ่งเดียวของหลังคา ไม่ได้ทำทั้งหมด”
รายละเอียดต่าง ๆที่คุณเต้ยลงมือทำอาจจะไม่สมบูรณ์แบบทั้งหมด แต่ก็มีเรื่องราวและความทรงจำอยู่ในนั้นระหว่างที่ได้ลงมือทำแต่ละขั้นตอน จากตัวบ้านโครงเหล็กเมื่อแรกเริ่มเมื่อเติมวัสดุธรรมชาติในองค์ประกอบต่าง ๆ ทั้งพื้น ผนัง ฝ้าเพดาน ก็เปลี่ยนบรรยากาศให้กลายเป็นบ้านไม้แสนอบอุ่นได้
บ้านขนาดพอดีกับชีวิต
สำหรับภายในบ้านมีพื้นที่ใช้สอยตามการใช้ชีวิตจริง ๆ ลักษณะตัวบ้านเป็นโถงยาวมี “แม่เตาไฟ” อยู่ตรงกลาง ส่วนหนึ่งเป็นมุมนั่งเล่น ฟูกที่นอนวางกับพื้นง่าย ๆ ถัดเข้าไปคือโต๊ะทำงาน ครัวอยู่ต่อเนื่องกัน และห้องน้ำ รอบบ้านมีระเบียงยาวกลิ่นอายแบบบ้านญี่ปุ่นในชนบท คุณเต้ยเรียกมุมนี้ว่า “ระเบียงชา” ที่ออกมานั่งห้อยขาเล่นกับแมวที่เลี้ยงไว้ รวมทั้งยังมีสุนัขเพื่อนบ้านแวะมานอนอยู่บ่อยๆ นอกจากนี้ยังซ่อนบันไดไว้แนบเนียนสำหรับปีนขึ้นไปบนชั้นลอยที่มีลักษณะเป็นห้องใต้หลังคา ใช้เป็นห้องนอนในบางวันหรือรับรองเพื่อน ๆที่แวะมาหา บางครั้งก็แปลงเป็นมุมนั่งเล่นที่เปิดมุมมองเห็นต้นไม้รอบ ๆบ้านได้
“ตรงชั้นลอยผมเคยใช้เป็นที่นอนเหมือนกัน ช่วงย้ายมาอยู่แรก ๆ ผมนอนทุกมุมในบ้าน ทดสอบดูว่าแต่ละฤดูนอนตอนไหนเหมาะ ถ้าดูแค่แปลนบ้านนี้มันจะเหมือนสตูดิโอ ตอนแรกผมต้องการแค่ห้องนอน ห้องน้ำ ครัว โต๊ะแค่นั้น ส่วนเตาเอามาจากในหนัง เป็นฟีลลิ่งหนังซามูไร ไหนๆก็จะทำเลยเอาตามความชอบเลย หรืออย่างครัวได้ใช้งานค่อนข้างเยอะผมชอบทำอาหารเอง ติดมาจากที่บ้าน บ้านผมเป็นร้านอาหารตามสั่ง ผมเป็นเด็กช่วยที่บ้านหน้าเตาเลยคุ้นมือว่าจะต้องใส่อะไรก่อนหลังในอาหารบ้าง”
ภายในครัวแม้จะมีขนาดเล็ก วางโต๊ะวางเตาง่าย ๆแต่มีชั้นไม้วางอุปกรณ์เครื่องครัวและเครื่องปรุงกระจุกกระจิกมากมาย รวมทั้งชั้นลอยแขวนเครื่องปรุงโยงเชือกยึดโครงหลังคา ไอเดียที่เพิ่มพื้นที่จัดเก็บได้โดยไม่ต้องยึดชั้นเข้ากับผนัง
รายละเอียดจากสิ่งที่อยากให้เป็น
ศูนย์กลางของบ้านคงหนีไม่พ้นแม่เตาไฟกลางบ้านกลิ่นอายแบบบ้านญี่ปุ่นโบราณ มีบรรยากาศชวนให้นั่งล้อมวงคุยกัน ตรงกลางโยงยึดไม้ไผ่ลอยไว้สำหรับแขวนภาชนะตั้งบนเตา มีการใส่รายละเอียดช่องเก็บของซ่อนไว้ใต้พื้นไม้รอบเตา
“แรก ๆที่ผมยังทำครัวไม่เสร็จผมทำอาหารตรงนี้เลย หุงข้าว ย่างไก่ ทำผัดกะเพรา ตรงกลางเตาที่เป็นดินทำต่อขึ้นมาจากพื้นดินใต้ถุนบ้าน ใต้พื้นไม้รอบเตาผมก่ออิฐกั้นเป็นช่องขึ้นมาจากพื้นเอาไว้เก็บของ ได้ไอเดียมาจากภาพยนตร์เรื่อง Mortal Kombat (2021) ที่มีตัวละครหนึ่งเอาลูกไปซ่อนใต้พื้นไม้ พื้นไม้สี่ชิ้นคือช่องเก็บของสี่ช่อง ขนาดช่อง 0.60 x 1.80 เมตร ผมเทปูนไว้สองช่องเอาไว้เก็บเครื่องมือช่าง อีกสองช่องผมเติมดินขึ้นมาเอาไว้ใส่ไหหมักเหล้าบ๊วย ตอนแรกกะว่าจะทำตู้เย็นดินที่ฝังภาชนะดินเผาลงไป แต่ลองแล้วยังไม่สำเร็จ ตอนนี้เพิ่งคิดจะเอาไว้เก็บมะนาว ลองทดสอบแล้วได้ผลดีนะครับ อุณหภูมิประมาณ 15-20 องศาเซลซียส เก็บได้นานประมาณหนึ่งเลย
“ภาพยนตร์อีกเรื่องที่ผมชอบคือ Little Forest: Summer & Autumn (2014) และ Little Forest: Winter & Spring (2015) ผมชอบเตาในบ้าน ปกติคนญี่ปุ่นจะใช้เตานี้เป็นฮีตเตอร์ช่วงหน้าหนาว ผมอยากได้เลยลองแกะสัดส่วนเอง ดูแล้วกดพอสซ้ำๆ ทำแบบ ถอดชิ้นส่วนหลัก แล้วไปสั่งดัดเหล็กมาเชื่อมเอง ช่วงหน้าหนาวผมก็ใช้เป็นฮีตเตอร์ นอนใกล้ๆเหมือนผิงไฟ แล้วพอดีมันว่าต้มน้ำข้างบนได้ ใช้อบขนมปังแบบในหนังก็ได้”
แม้บ้านหลังนี้จะไม่มีมุ้งลวดเลย เพราะเจ้าของบ้านชอบให้บ้านโล่ง ๆ อาจจะมียุงและแมลงบ้าง แต่ก็นอนมุ้งได้ไม่มีปัญหา ยามเย็นที่ดวงอาทิตย์เริ่มคล้อยต่ำพร้อม ๆกับอุณหภูมิอากาศที่ลดลงจนเหลือเพียง 15 องศาเซลเซียส กาน้ำในเตากลางบ้านส่งไอร้อนลอยออกมา ถ้วยชาอุ่น ๆ ในมือคลายความเย็นจากอากาศรอบ ๆได้เป็นอย่างดี
“ช่วงหน้าหนาวบางทีอุณหภูมิอากาศเหลือเลขตัวเดียวก็มี” คุณเต้ยเล่าว่าอยู่เชียงใหม่มานานจนกลายเป็นคนที่นี่ไปแล้ว ส่วนบ้านที่พังงานานๆจึงกลับไปสักครั้ง จากความตั้งใจเมื่อแรกเริ่มสร้างบ้านคือใช้งบประมาณให้น้อยที่สุด ลงมือทำเองให้มากที่สุด แต่ระหว่างนั้นเขากลับได้เรียนรู้อะไรหลายอย่าง ทั้งรายละเอียดการก่อสร้าง ความเข้าใจตัวเอง ปฏิสัมพันธ์กับธรรมชาติ นำมาสู่บ้านที่เรียบง่ายพอดีตัวหลังนี้
เจ้าของ-ออกแบบ : คุณทรงชัย ทองผาสุข
เรื่อง : วรัปศร
ภาพ : สิทธิศักดิ์ น้ำคำ