มาริสา อานิต้า ครูฝึกสุนัข ผู้เชื่อมความสุขของเจ้าตูบกับเจ้าของ
เราคุ้นชื่อของ คุณสา – มาริสา อานิต้า ในฐานะนักแสดงและนางแบบ แต่หลายคนอาจยังไม่ทราบว่าเธอคือ “คนรักสุนัข” ถึงขนาดเข้าคอร์สฝึกอบรมหลายอย่าง จนวันนี้เธอเป็น ครูฝึกสุนัข ที่มีเทคนิคการสอนน้องหมาให้เป็นสุนัขที่ดี เชื่อฟังเจ้าของ
จุดเริ่มต้นในการเป็น ครูฝึกสุนัข
“สาเป็นคนรักสัตว์ รักหมามาก และสาเป็นคนที่ใฝ่หาความรู้ใส่หัวตัวเองค่อนข้างเยอะ ชอบดูยูทูป ชอบเข้าคอร์สเทรนด์นิ่ง อะไรที่เป็นคอร์สฟรีที่เขามีสอนเกี่ยวกับน้องหมา สาไปหมดเลย เช่น การสอน Emergency ผายปอดน้องหมา วิธีกายภาพบำบัด เสร็จแล้วเอามาประยุกต์กับหมาตัวเอง คือ ซันเดย์ ซึ่งเป็นสุนัขสายพันธุ์บอเดอร์ คอลลี่ (Border Collie) เขาฉลาดมาก ฝึกอะไรก็เข้าใจ เราก็สนุกเมื่อน้องเริ่มทำได้หลายอย่าง
“นอกจากการเดินอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย น้องยังทำทริกต่างๆ ได้เยอะ ทั้งหมุนตัว เดินซิกแซก เพื่อนเห็นก็เลยบอกว่าให้สอนหมาเขาหน่อย เพื่อนบอกดูที่อื่นมา มันดูยาก ทำไมเราสอนแล้วดูเข้าใจง่าย เราก็เลยสอน จากนั้นก็เป็นระบบปากต่อปากไปเรื่อยๆ เพราะเราไม่ได้โพสต์หาลูกค้า
“แรกๆ เป็นแค่จากหนึ่งไปสอง เพื่อนของเพื่อน แล้วค่อยๆ ขยายไปเรื่อยๆ ถามว่ามั่นใจไหมเวลาไปสอน ก็ไม่ได้มั่นใจทุกครั้ง แต่ละเคสก็ไม่เหมือนกันเลย แต่ถ้าเราไม่กล้าที่จะลงมือทำ ไม่กล้าลองเสี่ยง งานก็จะไม่เดิน ดังนั้น เราต้องเสี่ยงลงไปก่อน ได้ก็คือได้ อันไหนที่ไม่ได้ เราก็พูด จริงใจกับลูกค้าเลยว่า สาทำไม่ได้ แล้วก็คืนเงินให้เขาเต็มจำนวนทุกครั้ง”
Spark Joy ความสุขที่ได้รับ
“มายเซ็ตแรกสุดของสาที่ไปฝึกให้คนอื่นคือ สาแค่อยากช่วยให้เจ้าของน้องหมามีความสุขที่จะเลี้ยงน้องหมาของตัวเอง โดยไม่รู้สึกกดดันว่าทำไมฉันฝึกเขาไม่ได้ ส่วนเรื่องเงินที่เราได้ตอบแทนมาไม่ใช่เรื่องหลัก สาแค่อยากช่วยให้เจ้าของเข้าใจลูกของตัวเองให้มากที่สุด โดยที่ไม่ต้องรู้สึกกดดัน”
มุมโปรดกับน้องหมา
“จริงๆ ตรงไหนที่มีน้องหมาก็เป็นมุมโปรดได้ทั้งหมด แต่ว่ามุมที่ชอบที่สุดน่าจะเป็นมุมหน้าทีวี เพราะเป็นมุมที่ค่อนข้างกว้าง เราทำกิจกรรมได้หลายอย่าง ไม่ว่าจะดูทีวี เล่นกับน้องหมาไป มุ้งมิ้งกันไป หรือว่าจะเป็นช่วงโมเมนต์ที่เราได้หวีขน แปรงฟัน หรือเอาของเล่นต่างๆ ออกมาเล่น ก็จะอยู่ในมุมนี้เป็นส่วนใหญ่ เป็นพื้นที่ใหญ่ที่สุดในบ้านและอยู่รวมกันง่ายที่สุด
“ที่ใช้ประจำอีกมุมคือห้องรับแขก สิ่งสำคัญที่ต้องมีเลยคือเบาะของน้องหมา ทั้งซันเดย์และมันเดย์จะมีของใครของมันเลย บางทีที่เราจะฝึกซันเดย์ ก็จะให้มันเดย์ไปนอนเพื่อรอคิวของตัวเอง หรือระหว่างที่น้องทั้งสองตัวมีขนมแทะ เพื่อไม่ให้ทะเลาะกัน ต่างก็ต้องมีเบาะของตัวเอง เหมือนทุกคนมีพื้นที่ส่วนตัว บางทีน้องเหนื่อยมากไม่อยากเล่น วิ่งหนีเข้าเบาะ สาก็จะรู้แล้วว่าน้องเหนื่อย ไม่ไปกวนน้อง เพราะฉะนั้นเวลาไปไหน สาก็จะเอาเบาะนี้ไปด้วยเสมอ
“ดังนั้นจึงไม่เกี่ยวว่าบ้านคุณต้องมีพื้นที่กว้าง คุณอาจมีแค่ห้องคอนโดเล็กๆ ก็ได้เหมือนกัน ขอแค่คุณมีพื้นที่ที่เป็นเซฟโซนให้น้องหมาเสมอ แค่นี้น้องก็จะสบายใจ และรู้ว่าอันนี้ที่ของฉัน ถ้าเราสร้างสัมพันธ์ที่ดีระหว่างตัวเรากับน้องหมาได้ ถ้าสายใยความสัมพันธ์ของเรากับน้องหมาสูง อยู่ตรงไหนหรือไปไหนทั้งเราและน้องก็แฮปปี้หมด”
สิ่งที่ทำให้หลงรักการเป็นครูฝึกสุนัข
“น้องหมาค่ะ จริงๆ แล้วเป็นเด็กๆ ทั้งนั้นเลย เรารู้ว่าเด็กๆ ทุกตัวมีศักยภาพ แต่ว่าเจ้าของจะดึงศักยภาพเขาอย่างไรมากกว่า เราคอยให้กำลังใจเจ้าของว่าน้องทำได้นะ เชื่อสิ น้องทำได้จริงๆ เราทำให้ดูว่าน้องทำได้ พอเขาเห็นว่าลูกเขาทำได้ เจ้าของจะมีแรงที่จะทำต่อ เลยเป็นสิ่งที่เราไม่อยากทิ้งเด็กๆ เพราะเรารู้ว่าเขาทำได้ น้องทุกตัวมีศักยภาพในการฝึก ไม่มีตัวไหนที่โง่ ไม่มีตัวไหนที่ทำไม่ได้ มีแค่ทำได้ช้าหรือทำได้เร็วแค่นั้นเลย สาเชื่อในศักยภาพของน้องหมา น้องทุกตัวฝึกได้ถ้าเจ้าของเข้าใจเขานิดหนึ่ง
“อีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญ สามองว่าถ้าคนเราสปาร์กกับอะไรบางอย่าง หรือมีแรงบันดาลใจกับอะไรบางอย่างให้ลองลงมือทำ บางคนบอกว่าฉันชอบวาดรูปมากเลย แต่ไม่เคยได้ลงมือทำ สิ่งสำคัญคือ เราต้องลงมือทำด้วย แล้วเราจะรู้ว่าเราจอยกับมันแค่ไหน จริงๆ เราอาจแค่ชอบวาดรูป แต่พอทำจริงเราอาจจะชอบระบายสีก็ได้ ถ้าเราลงมือทำเราจะรู้ว่าเราเอ็นจอยกับมันแค่ไหน และสามารถพัฒนาศักยภาพของเราตรงนี้ไปได้แค่ไหน เดี๋ยวนี้โลกไปไกลมากแล้ว เราไม่จำเป็นต้องจบปริญญาก็ได้ ถ้าเราเชี่ยวชาญกับอะไรที่เรามีแพชชั่นกับมันมากๆ เราก็สามารถสร้างรายได้ให้ตัวเองได้เหมือนกัน”
เรื่อง : ธัญยธรณ์ นาราเต็มทรัพย์
ภาพ : ฤทธิรงค์ จันทองสุข, อนุพงษ์ ฉายสุขเกษม,กรานต์ชนก บุญบำรุง