บ้าน ดร. สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ ที่ได้แรงบันดาลใจ มาจากไอรอนแมน
บ้านที่มีความท้าทายในด้านการออกแบบหลังนี้ มีทั้งผนังที่เป็นเสมือนบังเกอร์ยักษ์ สระว่ายน้ำยกลอย ช่องเปิดไร้เสาซ่อนคานขนาดใหญ่ไว้กับโครงสร้าง มีห้องลับใช้สะสมโมเดลและนั่งทำงาน โดยมีบางส่วนได้แรงบันดาลใจมาจากไอรอนแมน แต่ทั้งบ้านก็อยู่สบาย อากาศไหลผ่านได้ดี และดูอบอุ่น จุดเริ่มต้นมาจากบุคลิกเฉพาะตัวของเจ้าของบ้านที่ชอบความท้าทายทางวิศวกรรม
สถาปนิก: IDIN Architects
เจ้าของ: ดร. สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ และครอบครัว
บ้านต้องไม่เหมือนใคร
ความท้าทายของบ้านหลังนี้มาพร้อมกับภาพความต้องการที่ชัดเจนของเจ้าของบ้าน ดร. สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ อาจารย์และวิศวกร ซึ่งต้องการให้ภายนอกดูเหมือนบังเกอร์ ขณะที่การใช้ชีวิตภายในเป็นแบบพูลวิลล่า และยังต้องรองรับผู้อยู่อาศัยทั้งสามรุ่น คุณเอ้บอกเล่าถึงภาพภายนอกของบ้านที่อยากให้เป็นว่า ได้แรงบันดาลใจมาจากสถาปัตยกรรมสมัยเมโสโปเตเมียที่เรียกว่า “ซิกกูรัต” (Ziggurat) คล้ายกับพีระมิดขั้นบันไดที่ดูทึบ และเมื่อได้พบสถาปนิก คุณเป้-จีรเวช หงสกุล แห่ง Idin Architects โจทย์แห่งความท้าทายนี้ก็ได้คลี่คลายไปสู่แบบบ้านจริง กับโจทย์ที่ว่า “บ้านต้องไม่เหมือนใคร ให้รู้สึกว่า ‘เฮ้ย ทำแบบนี้ได้ยังไง’”
ความต้องการต้องชัดเจน
ด้วยความที่เจ้าของบ้านเป็นวิศวกรและมีความชอบในเรื่องของงานดีไซน์ จึงเป็นเหตุให้บ้านหลังนี้เป็นส่วนผสมซึ่งไม่อยู่ในกรอบการทำงานปกติ ประกอบกับแนวคิดของสถาปนิกที่ต้องการให้สถาปัตยกรรมมีเนื้อหาที่ชัดแจ้ง บริบทต้องชัดเจน และสะท้อนบุคลิกของเจ้าของออกมาอย่างเต็มที่ การทำงานกับทั้งผู้รับเหมา บริษัทวัสดุแต่ละส่วน จึงต้องสอดรับกันไป พร้อมกับการแก้ปัญหาที่อาจเกิดขึ้นได้ในระหว่างทาง แต่ทั้งหมดต้องมีความต้องการที่ชัดเจน คอนเซ็ปต์ที่ไม่เปลี่ยน แต่หาวิธีทำให้ได้ในระดับที่เสมือนบ้านหลังนี้เป็นโชว์เคสที่ใช้อยู่อาศัยอย่างมีความสุขได้ทุกเวลา
ผนังเหล็กเปรียบเสมือน “บ้านไอรอนแมน”
เนื่องจากต้องการให้บ้านเย็น คุณเอ้จึงกำหนดว่าผนังควรเป็นอิฐมอญ 2 ชั้น และด้านหน้าที่เป็นผนังทึบจะเว้นช่องว่างไว้เพื่อเป็น Air Gap ในการช่วยระบายความร้อน ในตอนแรกมีแนวคิดที่จะใช้หินภูเขาไฟแต่ก็พบว่ามีน้ำหนักมากเกินไป จึงเปลี่ยนเป็นการนำแผ่นเหล็กที่มีความบางมาพับขึ้นรูป (แบบ C Line) และมาประกอบหน้างานแทน โดยเหตุผลที่เจ้าของบ้านเลือกใช้เหล็กแทนก็เพราะชื่นชอบไอรอนแมน ซึ่งภายในบ้านยังได้ออกแบบห้องทำงานส่วนตัวให้มีลักษณะคล้ายห้องลับ เพื่อไว้ใช้ในเวลาที่คุณเอ้ต้องการทำงาน อ่านหนังสือ หรือเขียนหนังสือในบรรยากาศเงียบๆ พร้อมกับเป็นที่เก็บโมเดลไอรอนแมนอันเป็นของสะสมส่วนตัว
เบื้องหลังความโปร่งคืองานแก้ปัญหา
แปลนชั้นล่างของบ้านหลังนี้มีคอร์ตขนาดใหญ่และคอร์ตขนาดเล็ก แบ่งการใช้งานให้เป็นเสมือนตัวแอล (L) สองตัวที่ประกบกัน คอร์ตทำหน้าที่นำแสงเข้ามายังตัวอาคาร เมื่อเปิดคอร์ตใหญ่ก็จะได้บรรยากาศแบบเอ๊าต์ดอร์เป็นวิวภายใน จัดเป็นสวนหินกลิ่นอายญี่ปุ่น ด้วยข้อจำกัดของการปลูกหญ้าภายใน และยังจัดวางประติมากรรมที่เป็นพระเอกของโถงส่วนนี้ไว้ให้รับกับช่องประตูทางเข้า
ส่วนงานโครงสร้างของคอร์ตใหญ่นี้ยังได้ออกแบบให้ตัดเสารับหน้ำหนักตรงมุมออกไปเพื่อความโปร่งโล่ง แต่ก็ทดแทนด้วยการซ่อนคานขนาดใหญ่ 1.60 เมตรไว้แทน ทั้งยังเป็นส่วนหนึ่งของสระว่ายน้ำแบบลอยตัวที่อยู่เหนือขึ้นไปอีกชั้นด้วย นับเป็นความท้าทายอีกจุดหนึ่งของการสร้างบ้านหลังนี้
ภายในคือความสุข และชีวิตส่วนตัว
ห้องของคุณปู่คุณย่าก็แบ่งเป็นสัดส่วนรับวิวคอร์ตขนาดเล็กที่เชื่อมต่อกับครัว เป็นห้องนั่งเล่นที่มีความเป็นส่วนตัว แม้จะมีขนาดไม่ใหญ่แต่กลายเป็นว่าในช่วงเย็นสมาชิกของบ้าน ทั้งคุณเอ้ ภรรยา และลูกๆ กลับชอบมานั่งคุยเล่นกันในห้องคุณปู่คุณย่าเป็นประจำ
ตลอดแนวทิศที่ติดกับสนามกอล์ฟและทะเลสาบด้านทิศตะวันตกก็ออกแบบเป็นระเบียงยาว สามารถนั่งเล่นรับวิวได้เหมือนร้านอาหารในรีสอร์ตที่รับวิวดวงอาทิตย์ตก แต่สถาปนิกต้องเลือกใช้พื้นไม้เทียมรุ่นที่มีความทนทานเป็นพิเศษเพื่อรับกับแดดแรงๆ ที่สาดเข้ามาในช่วงบ่าย สนามหญ้าด้านนี้ก็ปล่อยเป็นทางลาดลงน้ำ เพื่อไม่ให้ตลิ่งชันเกินไป สร้างความปลอดภัยและไม่ต้องลงทุนสร้างแนวปูนกั้นด้วย ทั้งหมดต่างจากภาพกำแพงเหล็กที่ดูเคร่งขรึม เมื่อพื้นที่ภายในเต็มไปด้วยบรรยากาศความอบอุ่นที่สมาชิกทุกคนใช้งานร่วมกันได้
พูลวิลล่าบนชั้น 2
จากความต้องการที่จะให้การใช้ชีวิตในบ้านได้บรรยากาศพักผ่อนสไตล์พูลวิลล่าที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน จึงเป็นเหตุให้เกิดความท้าทายอีกอย่าง นั่นคือการยกสระว่ายน้ำขึ้นไปชั้น 2 โดยเป็นส่วนที่ยื่นออกไปจากตัวบ้านด้วย ในชั้นนี้บ้านจึงเหมือนมีการทำสเต็ปยกระดับขึ้นไปเพื่อรองรับสระว่ายน้ำ ใช้ประโยชน์เป็นพื้นที่ซ่อนงานระบบในบางส่วนด้วย โดยวางแปลนให้มีครัว พื้นที่นั่งเล่น เชื่อมต่อกับสระว่ายน้ำผ่านบานเลื่อนกระจก จัดการทำม่านขนาดใหญ่เพื่อช่วยบังแดดและสร้างความเป็นส่วนตัวไปพร้อมกัน ด้วยการนำแผ่นเหล็กบางแบบเดียวกับที่ทำกำแพงด้านทางเข้ามาพับและเจาะเป็นลวดลายเพื่อให้ลมยังคงไหลผ่านและได้วิวบางส่วน
แม้จะแข็งกร้าว แต่มีความ “คราฟต์” มากกว่าที่คิด
คุณเอ้พูดถึงการสร้างบ้านหลังนี้ว่า แม้ว่าบ้านจะดูเคร่งขรึม แต่เมื่อลงรายละเอียดในทุกจุดเพื่อให้บ้านออกมาดีนั้น การทำงานมีความคราฟต์มากกว่าที่คิด ตั้งแต่รั้ว ผนังเหล็กที่ต้องพับเรียงสลับแบบอิฐ พื้นภายนอก วีเนียร์หินของผนังห้องลับ การเรียงไม้และกระเบื้องที่ต้องสื่อสารไปกับการจัดวางของต่างๆ ในบ้าน การแก้ปัญหาผนังบ้านร้าวจากการที่ผู้รับเหมาฉาบผนังภายนอกหนาเพื่อต้องการความเนี้ยบ แต่หลังจากที่ได้เดินชมบ้านหลังนี้ ก็พบว่าผลลัพธ์ที่ได้มีความคุ้มค่ากับความใส่ใจของทีมงานจริงๆ
เรื่อง: สมัชชา วิราพร
ภาพ: ศุภกร ศรีสกุล
สไตล์: วรวัฒน์ ตุลยทิพย์