บ้านชั้นเดียวกลางทุ่งที่เปิดรับธรรมชาติอย่างเต็มที่
บ้านชั้นเดียวที่ใช้โครงสร้างคอนกรีตเสริมเหล็ก หลังคาแบบเพิงหมาแหงน เพื่อลดความยุ่งยากในการก่อสร้าง ออกแบบบ้านให้เปิดโล่งเพื่อรับแสงแดดในตอนกลางวัน รับแสงจันทร์ในตอนกลางคืน ทำให้ได้อยู่ใกล้ชิดกับธรรมชาติมากขึ้น บ้านชั้นเดียวกลางทุ่ง
เรื่องของเรื่องมีอยู่ว่า คุณทวยเทพ พัฑฒนะ ตกปากรับคำเพื่อนสนิทว่าจะมาออกแบบโรงแรมขนาดเล็กๆซึ่งตั้งอยู่ในเมืองเชียงใหม่ให้ เป็นเหตุให้เขาต้องเดินทางไปมาระหว่างกรุงเทพฯ-เชียงใหม่บ่อยๆ และเพราะหลายครั้งที่เพื่อนคนนั้นได้เชิญให้มานอนพักที่บ้านในอำเภอแม่ออน ซึ่งอยู่นอกเมืองเชียงใหม่ออกไปประมาณ 30 กิโลเมตร ก็ทำให้เขาเริ่มตกหลุมรักอำเภอแห่งนี้อย่างเต็มหัวใจ
“เพื่อนที่ว่านี้ก็คือ คุณสุกัญญา โชติสุกานต์ เจ้าของบ้านที่เคยลงใน ‘บ้านและสวน’ ฉบับเดือนกันยายน 2551 (คลิกชมบ้านคุณสุกัญญา) เขาชวนให้มาซื้อที่ดินติดกัน แต่ตอนนั้นไม่ได้ตัดสินใจว่าจะซื้อ เพราะว่ามีสำนักงานสถาปนิกและงานออกแบบทั้งหมดก็อยู่ที่กรุงเทพฯ ไม่รู้จะซื้อไว้ทำไม แต่พอได้มาออกแบบโรงแรมที่เชียงใหม่ และมานอนพักที่บ้านของเขาก็ชักจะติดใจ เลยคิดว่าวันข้างหน้าอาจจะได้มาอยู่จริงๆก็ได้ จึงซื้อที่ดินแล้วก็สร้างบ้านเลยครับ เป็นการเตรียมตัวก่อนเกษียณ”
ในระหว่างที่ก่อสร้างบ้าน คุณทวยเทพไม่ค่อยมีเวลามาดูแลเองมากนัก ตัวบ้านจึงออกแบบไว้ค่อนข้างเรียบ เป็นบ้านชั้นเดียวที่ใช้โครงสร้างคอนกรีตเสริมเหล็ก หลังคาแบบเพิงหมาแหงน เพื่อลดความยุ่งยากในการก่อสร้าง นอกจากนี้ก็ยกตัวบ้านสูงด้วยเหตุผลสองประการ ประการแรก คือ ระดับพื้นดินที่สร้างบ้านมีความลาดเอียงไม่เท่ากัน หากจะถมที่ก็ต้องใช้ดินมากพอสมควร อีกประการ คือ เพื่อความปลอดภัยจากปัญหาเรื่องปลวก
จากโรงรถจะมีสะพานไม้ปูเป็นทางเดินไปสู่ชานไม้ขนาดปานกลางซึ่งอยู่ติดกับตัวบ้าน เมื่อเข้าไปภายในก็จะพบห้องที่ค่อนข้างโปร่ง เพราะมีเพดานสูง และด้านปลายสุดของห้องทำเป็นผนังและประตูบานเลื่อนกระจกใสเปิดมุมมองเห็นวิวภายนอกซึ่งเป็นบ่อน้ำรูปสี่เหลี่ยมล้อรับกับตัวบ้านและผืนทุ่งนากว้างไกลไปสิ้นสุดที่แนวเทือกเขา ในห้องโล่งนี้เป็นส่วนของครัวขนาดเล็กรูปตัวแอล (L) ตั้งชิดผนังติดกับประตูทางเข้าบ้าน ถัดมาวางโต๊ะไม้ตัวเก่ากับเก้าอี้ 2 ตัว จัดเป็นส่วนรับประทานอาหาร เว้นพื้นที่ว่างเล็กๆก่อนที่จะต่อด้วยส่วนนั่งเล่น นอกจากนี้ภายในบ้านยังประกอบด้วยห้องนอน1 ห้อง สำหรับตัวเขาเองซึ่งมีห้องน้ำรวมอยู่ภายในด้วย และห้องทำงานที่จัดวางฟูกไว้ด้วย จะจัดเป็นส่วนพักผ่อน หรือจะปรับเป็นเตียงนอนแขกก็ได้ หน้าห้องนี้ก็มีห้องน้ำอีกหนึ่งห้อง
ตอนที่กำลังสร้างบ้านหลังนี้ เพื่อนคุณทวยเทพให้ความเห็นว่า หากมีคนในครอบครัวหรือเพื่อนมาพักด้วยจะนอนกันอย่างไร คุณทวยเทพจึงได้เพิ่มชั้นลอยไว้เหนือส่วนครัว ทำเป็นห้องโล่งๆ หากมีแขกมากันหลายๆคนก็สามารถปูที่นอนนอนกับพื้นห้องได้เลย
“สำหรับการตกแต่งภายในไม่ค่อยมีอะไรพิเศษนัก เพราะอยากได้บ้านที่เปิดโล่ง มองเห็นวิวภายนอกชัดๆในทุกส่วนของบ้าน เฟอร์นิเจอร์ที่มีส่วนใหญ่ใช้แบบลอยตัวซึ่งมีทั้งของเก่าผสมของใหม่ ที่เน้นมากหน่อยคือชั้นวางหนังสือในส่วนนั่งเล่น เพราะเป็นคนเก็บหนังสือไว้เยอะ ส่วนครัวก็มีแค่เคาน์เตอร์ปูนก่อเรียบๆเท่านั้น ในห้องนอนก็ไม่ได้ทำตู้เสื้อผ้าหรือราวแขวน เพราะเสื้อผ้าทั้งหมดจะพับแล้ววางบนชั้นไม้ติดผนังแบบธรรมดา
“การที่ออกแบบบ้านให้เปิดโล่งอย่างนี้ ย่อมทำให้แสงแดดส่องเข้ามาภายในบ้านได้เต็มๆ แต่เป็นคนไม่กลัวแดด อยากจะเข้าก็เข้า เพราะถ้าปิดหมดก็มองไม่เห็นวิว ที่พิเศษคือตอนกลางคืนจะมีแสงจันทร์ส่องเข้ามาเต็มๆเลยนะครับ เรียกว่านอนอาบแสงจันทร์ได้อย่างสบายใจ”
แม้ตอนนี้บ้านหลังนี้อาจไม่ใช่บ้านอยู่อาศัยที่สะดวกสบายเช่นบ้านในกรุงเทพฯ แต่การที่คุณทวยเทพต้องเดินทางมาดูงานก่อสร้างที่ได้ออกแบบไว้ทุกเดือนๆ ก็ได้ใช้บ้านหลังนี้เป็นที่พักอาศัยได้อย่างสุขกายสบายใจ
“การมาอยู่ที่นี่ก็เป็นการใช้ชีวิตที่แตกต่างจากที่กรุงเทพฯ การอยู่ที่นี่ทำให้ได้อยู่กับตัวเองมากขึ้น ต้องทำอะไรเอง อย่างกวาดบ้าน ถูบ้าน ล้างจาน ทำกับข้าว แต่ข้อดีก็คือได้อยู่ใกล้ชิดกับธรรมชาติ ต่างจากบ้านที่กรุงเทพฯ ได้อยู่แต่ในห้องที่ปิดม่านหมด ไม่เคยได้เห็นดวงอาทิตย์ตกดิน หรือเห็นดวงจันทร์จากในห้องใดเลย แม้หลังนี้จะเป็นบ้านที่ดูธรรมดา แต่อยู่แล้วสบายใจดีครับ”
เจ้าของ-ออกแบบ : คุณทวยเทพ พัฑฒนะ White Atelier Co.,Ltd.
เรื่อง : จัตตริน
ภาพ : ราสิเกติ์ สุขกาล