4 เคล็ดลับ ปลูกโรสแมรี่ ให้รอด
เชื่อว่าผู้ชื่นชอบต้นไม้ต่างตกหลุมรักและต้องการรู้ วิธีปลูกโรสแมรี่ สมุนไพรฝรั่งซึ่งมีพุ่มเตี้ยทรงสวย ใบเรียวยาวและกลิ่นหอมเป็นเอกลักษณ์
ซึ่ง วิธีปลูกโรสแมรี่ ไม่เพียงปลูกในกระถางเดี่ยวประดับตามมุมบ้าน ริมกำแพงหรือรั้วบ้านเท่านั้น แต่ยังนิยมปลูกแทรกผสมผสานกับไม้ดอกไม้ประดับอื่น ๆ ในสวนสวยหลายสไตล์ โดยเฉพาะสวนอังกฤษที่ให้กลิ่นอายสวนชนบทยุโรป
แต่หลายคนกลับไม่ประสบความสำเร็จในการปลูกเลี้ยงเท่าที่ควร ทั้งที่ดูแลเอาใจใส่อย่างสม่ำเสมอ ส่วนใหญ่พบปัญหาว่าซื้อมาปลูกได้สักพักต้นก็ค่อย ๆ เหี่ยวโทรม เลี้ยงไม่ค่อยรอด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงฤดูฝนที่ผ่านมา วิธีปลูกโรสแมรี่
บ้านและสวนมีเคล็ดไม่ลับ จาก คุณศุภกิจ มีลาภ นักจัดสวนเจ้าของสุขเย็น การ์เด้นท์ ผู้เขียนหนังสือ My Little Farm Vol.9 สมุนไพรฝรั่ง มาฝาก ซึ่งจะช่วยเพิ่มเปอร์เซ็นต์การปลูกเลี้ยงโรสแมรี่ของผู้ปลูกมือใหม่ให้สำเร็จมากขึ้น
ทำความรู้จักโรสแมรี่
ไม่ว่าจะปลูกพืชชนิดไหน สิ่งสำคัญอันดับแรกที่ละเลยไม่ได้คือต้องรู้จักพืชชนิดนั้นก่อนว่ามีลักษณะการเจริญเติบโตอย่างไร ชอบดินปลูก แสงแดด และน้ำแบบไหน เพื่อจะได้ดูแลตรงตามความต้องการของพืช สำหรับโรสแมรี่เป็นไม้พุ่ม อายุหลายปี ใบรูปแถบปลายแหลม สีเขียวสดหรือสีเขียวอมเทา มีกลิ่นหอม รสเผ็ดร้อน สามารถปลูกได้ตลอดปี ชอบดินปลูกระบายน้ำดี ไม่ขังแฉะ แสงแดดเต็มวัน แต่ไม่ควรโดนแสงแดดโดยตรง
โรสแมรี่เป็นสมุนไพรฝรั่งที่เลี้ยงง่ายเหมาะกับมือใหม่ ในตลาดมีให้เลือกซื้อไปปลูกเลี้ยงหลายสายพันธุ์ เช่น คอมมอนโรสแมรี่หรืออิตาเลียนโรสแมรี่ เฟรนช์โรสแมรี่ โรสแมรี่เลื้อย และโรสแมรี่ขนนก ซึ่งแต่ละสายพันธุ์มีลักษณะคล้ายคลึงกัน
ปรุงดินดี วิธีปลูกโรสแมรี่ แบบนี้งามแน่
ดินปลูกที่เหมาะสำหรับโรสแมรี่คือดินที่มีความโปร่ง ร่วนซุย ระบายน้ำและอากาศได้ดี ไม่เปียกและอุ้มน้ำอยู่ตลอดเวลา แต่สามารถกักเก็บความชื้นไว้ได้พอสมควร สิ่งสำคัญคือต้องไม่เป็นแหล่งสะสมโรคและแมลง
ถ้าอยากให้โรสแมรี่ของคุณเติบโตอย่างแข็งแรงและสวยงาม ไม่ว่าจะปลูกในแปลงบนพื้นดินหรือในภาชนะ ผู้ปลูกจำเป็นต้องปรุงดินหรือวัสดุปลูกให้มีสภาพเหมาะสมเสียก่อน สูตรดินปลูกที่แนะนำ ได้แก่ กาบมะพร้าวสับ 3 ส่วน ดินร่วนหรือดินใบก้ามปู 1 ส่วน แกลบดิบ 1 ส่วน แกลบเผา (แกลบดำ) 1 ส่วน และปุ๋ยคอก 1 ส่วน
รดน้ำแต่พอดี
ปัญหาที่พบในผู้ปลูกมือใหม่คือ ขยันรดน้ำบ่อยจนเกินพอดี สิ่งที่ตามมาคือต้นโรสแมรี่จะค่อย ๆ เหี่ยวโทรมแล้วตายลง อาการเหี่ยวที่เกิดขึ้นไม่ใช่เพราะต้นขาดน้ำ แต่เป็นเพราะดินปลูกชุ่มน้ำอยู่ตลอดเวลาจนอาจทำให้รากเน่า เมื่อปรุงดินปลูกเหมาะสม ก็ต้องให้น้ำอย่างเหมาะสมด้วย
การรดน้ำจึงควรรดให้ชุ่มชื้นแต่ไม่แฉะ ไม่ควรปลูกในบริเวณที่รากจมน้ำ รดน้ำอย่างสม่ำเสมออย่างน้อยวันละครั้งในช่วงเช้า ถ้ามีฝนตกชุกควรงดให้น้ำ สิ่งสำคัญก็คือ ระวังอย่าให้ต้นได้รับน้ำมากหรือน้อยเกินไป เทคนิคที่แนะนำคือ ให้ดูสภาพดินเป็นหลัก รอให้แห้งแล้วค่อยรดน้ำ และรดเฉพาะบริเวณโคนต้นเพื่อลดปัญหาเรื่องโรคและเชื้อรา
เมื่อแมลงรุกราน จัดการอย่างไร
แม้ใบโรสแมรี่มีกลิ่นจากน้ำมันหอมระเหยที่ช่วยไล่แมลงได้ในตัวเอง แต่ก็ใช่ว่าจะไม่พบแมลงศัตรูเสียเลย ปัญหาแมลงที่มือใหม่พบมาก ได้แก่ เพลี้ยแป้ง เพลี้ยอ่อน และเพลี้ยไฟ แมลงเหล่านี้มีผลทำให้ใบโรสแมรี่ด่าง ไม่สวยงาม หากระบาดหนักเข้าต้นจะค่อย ๆ เหี่ยวแห้งและตายได้ วิธีจัดการเบื้องต้นแนะนำให้ใช้สมุนไพรไล่แมลง เช่น สารสกัดสะเดาและน้ำส้มควันไม้เจือจาง ประมาณ 4-5 ซีซีต่อน้ำ 20 ลิตร ฉีดพ่นตามใบและโคนต้น ในช่วงเย็นเมื่อไม่มีแสงแดด หรือใช้เชื้อแบคทีเรียบีทีในอัตราตามคำแนะนำบนบรรจุภัณฑ์
สำหรับมือใหม่ที่สนใจการปลูกเลี้ยงโรสแมรี่รวมถึงสมุนไพรฝรั่งชนิดอื่น ๆ แต่ไม่รู้จะเริ่มต้นอย่างไร แนะนำให้ลองอ่านหนังสือ My Little Farm Vol.9 สมุนไพรฝรั่ง ของสำนักพิมพ์บ้านและสวน แล้วจะรู้ว่าสมุนไพรฝรั่งไม่ใช่พืชที่ปลูกเลี้ยงยากอย่างที่คิด
Rosemary House : หอมกลิ่นโรสแมรี่
เรื่อง: อังกาบดอย
ภาพ: อภิรักษ์ สุขสัย