มาลองขยายพันธุ์ ดอกตรุษจีน หรือที่เรารู้จักกันว่า" ดอกเฟื่องฟ้า "กัน! - บ้านและสวน

มาลองขยายพันธุ์ ดอกตรุษจีน หรือที่เรารู้จักกันว่า”เฟื่องฟ้า”กัน!

นอกจากเทศกาลวันตรุษจีน ในบ้านเรายังมีไม้ประดับที่มีชื่อว่า “ ดอกตรุษจีน ” ด้วย  หลายคนคงสงสัยว่าคือดอกไม้ชนิดไหน  คำตอบคือ ดอกตรุษจีน คือ ดอกเฟื่องฟ้า หรือมีอีกชื่อว่าดอกกระดาษนั่นเอง

สำหรับที่มาของชื่อ “ ดอกตรุษจีน ”  พระยาวินิจวนันดรได้บันทึกไว้ว่า ในสมัยรัชกาลที่ 5 ราวปี พ.ศ. 2423  มีผู้สั่งเฟื่องฟ้าจากสิงคโปร์หลายพันธุ์มาปลูก  โดยพันธุ์แรกที่นำมาปลูกให้ดอกสีม่วง และ ดอกเฟื่องฟ้า ออกช่วงเดือนกุมภาพันธ์ซึ่งอยู่ในช่วงเทศกาลตรุษจีนพอดี ต่อมาก็มีผู้นำเฟื่องฟ้าสีอิฐ เหลืองมาปลูกในเมืองไทยในภายหลัง ดอกตรุษจีน ดอกเฟื่องฟ้า
ดอกตรุษจีน หรือ ดอกเฟื่องฟ้า
กลีบประดับเฟื่องฟ้าที่มีสีสวยงามนั้น เมื่อแห้งจะดูคล้ายกระดาษ จึงมีอีกชื่อว่า ดอกกระดาษ นั่นเอง
ธรรมชาติของเฟื่องฟ้าเป็นพืชที่กลายพันธุ์ง่าย จึงเกิดต้นใหม่ที่สีดอกแตกต่างจากเดิม  และยังมีพันธุ์ใบด่างอีกมากมาย เฟื่องฟ้าจึงเป็นหนึ่งในไม้ประดับของไทยที่ปลูกกันอย่างแพร่หลายจนถึงปัจจุบัน เพราะปลูกเลี้ยงและขยายพันธุ์ง่าย ทนแล้งและให้ดอกดกตลอดปี   แต่มีหนามแหลมตามกิ่งก้านจึงไม่นิยมปลูกเป็นไม้ประดับในบ้านมากนัก ในบ้านเรานิยมปลูกเฟื่องฟ้าเป็นไม้ริมรั้ว หรือตกแต่งตามพื้นที่เกาะกลางถนน และตัดแต่งเป็นแนว เพราะธรรมชาติของไม้ประดับชนิดนี้ หากปลูกในที่แห้งแล้งจะออกดอกดกได้ตลอดปี นอกจากนี้ยังปลูกเป็นไม้กระถางและตัดแต่งเป็นรูปทรง รูปทรงเรขาคณิต ปลูกเป็นซุ้มไม้เลื้อยสำหรับประดับตกแต่งสวน  หรือปลูกเป็นบอนไซไม้กระถาง  ด้วยเหตุผลที่ปลูกเลี้ยงและดูแลง่ายและให้ดอกสีสันสดใสนั่นเอง ดอกตรุษจีน หรือ ดอกเฟื่องฟ้า
ดอกตรุษจีน หรือ ดอกเฟื่องฟ้า
บอนไซต้นเฟื่องฟ้า
เฟื่องฟ้าจึงเป็นไม้ประดับสำหรับมือใหม่ที่อยากลองปลูกและขยายพันธุ์ไม้ประดับสักต้นด้วยตัวเอง เพียงแค่ตัดกิ่งมาปักชำ 2-3 สัปดาห์ก็จะแตกรากและเติบโตต่อไปได้ ทั้งยังให้ดอกหลากสีที่สวยงามไม้ประดับอื่นๆ มาเริ่มลงมือกันค่ะ เทคนิคง่าย ๆ สำหรับปักชำกิ่งเฟื่องฟ้า 
  1. เลือกกิ่งกึ่งแก่กึ่งอ่อนที่มีสีเขียวอมน้ำตาล ตัดให้ยาวประมาณ 15-20 เซนติเมตร ริดใบออกให้เหลือ 2-3 ใบ ใช้มีดคัตเตอร์ที่คมและสะอาด ปาดโคนกิ่งใต้ข้อให้เป็นรูปปากฉลาม
  2. จุ่มโคนกิ่งลงในสารละลายเร่งราก เช่น Start B-1 ที่เจือจาง ทิ้งไว้ 5-10 นาที จึงยกขึ้นผึ่งไว้
  3. นำดินใบก้ามปู 2 ส่วนผสมกาบมะพร้าวสับละเอียด 1 ส่วน คลุกให้เข้ากัน
  4. เตรียมกระถางขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 4 นิ้ว อาจเป็นแก้วน้ำพลาสติกเจาะรูก็ได้ แต่ควรมีความลึกอย่างน้อย 15 เซนติเมตร รองก้นกระถางด้วยเศษโฟม หรือกาบมะพร้าวสับเล็กน้อย
  5. ใส่ดินที่เตรียมไว้จนเกือบเต็มภาชนะ ใช้ตะเกียบปักลงดินให้เป็นช่อง แล้วปักกิ่งเฟื่องฟ้าที่เตรียมไว้ให้ลึก 5-7 เซนติเมตร
  6. กดดินรอบกิ่งไม่ให้กิ่งขยับ แล้วรดน้ำให้ชุ่มชื้น วางในที่มีแสงแดดรำไร  ประมาณ 2-3 สัปดาห์จึงเริ่มแตกราก  เมื่อต้นแข็งแรงและแตกรากจนเต็มกระถางจึงย้ายปลูกในกระถางใหม่
Tips
  • กาบมะพร้าวควรแช่น้ำทิ้งไว้ 2-3 คืนก่อนนำมาใช้
  • อาจใช้แกลบเผา ผสมกับทรายหยาบ หรือขุยมะพร้าวอัตราส่วน 1: 1 แทนดินก้ามปูก็ได้
  • อาจนำกระถางที่ปักชำ รดสารป้องกันกำจัดเชื้อรา แล้วใส่ลงในถุงพลาสติกใส รัดปากถุงให้แน่นเพื่อควบคุมความชื้น และวางในที่มีแสงรำไร
หากใครอยากเรียนรู้วิธีขยายพันธุ์พืช อ่านเพิ่มเติมในหนังสือ เทคนิคขยายพันธุ์พืช โดย รศ. ดร.ยิ่งยง ไพสุขศานติวัฒนา กันค่ะ
บทความที่เกี่ยวข้อง

สายมูพลาดไม่ได้กับ “ 50 ต้นไม้มงคล ” ตามความเชื่อของไทย

ต้นเฟื่องฟ้า ไม้พุ่มทนแดด อายุยืน ออกดอกสวยตลอดปี

ต้นพะยอม ไม้มงคลทรงพุ่มสวย กลิ่นหอม มีสรรพคุณทางสมุนไพร

ติดตามไอเดียบ้านและสวนเพิ่มเติมได้ทาง : บ้านและสวน Baanlaesuan.com