แปลงผักสวนครัว เลือกกระบะปลูกแบบไหนให้สวนสวย

แปลงผักสวนครัว จัดอย่างไรให้สวย วิธีที่แนะนำคือสร้างแปลงผักให้เป็น Raised bed Garden หรือการทำกระบะปลูกผักในสวนที่กำลังเป็นที่นิยมของคนเมืองในปัจจุบัน ไม่ว่าจะผู้ที่อาศัยอยู่ในบ้านขนาดเล็กหรือมีพื้นที่สวนหลังบ้านที่จำกัดก็สามารถทำกระบะปลูกผัก เพื่อความสวยงามได้เช่นกัน

การทำ แปลงผักสวนครัว ในกระบะปลูกผัก คือการปลูกพืชลงในภาชนะที่มีขนาดใหญ่ตั้งไว้เหนือพื้นดิน ข้างในบรรจุไปด้วยดินและต้นพืช โดยทั่วไปวัสดุที่ใช้ทำกระบะจะเป็นไม้ หิน และคอนกรีต มีรูปร่างที่แตกต่างกันออกไป

โดยทั่วไปรูปแบบของการปลูกผักมี 2 แบบด้วยกัน

แปลงผักสวนครัว
1.การปลูกลงแปลงดิน คือการปลูกลงในพื้นที่ขนาดใหญ่
ข้อดี คือมีการลงทุนในการปลูกพืชต่ำและในแปลงมีธาตุอาหารและจุลินทรีย์ที่เป็นประโยชน์ต่อการเจริญเติบโตของพืช
ข้อเสีย คือธาตุอาหารและปุ๋ยถูกดูดซับในบริเวณกว้าง ทำให้พืชได้รับสารอาหารไม่เพียงพอและใช้พื้นที่มากไม่เหมาะกับคนเมือง จึงเหมาะกับการเป็นพื้นที่ทำการเกษตรมากกว่า

แปลงผักสวนครัว
2.การปลูกลงกระถางหรือกระบะปลูก คือการปลูกในภาชนะต่างๆ
ข้อดี คือทำได้ง่ายและสะดวกสบาย, ควบคุมปริมาณปุ๋ย ดิน หรือแม้กระทั่งวัชพืชได้ง่าย ,เหมาะกับพื้นที่ขนาดเล็ก,เคลื่อนย้ายได้ง่าย,มีดีไซน์ที่สวยงามนำมาใช้เป็นสวนโชว์ได้
ดังนั้น การปลูกในกระบะปลูกจึงเข้าถึงหลาย ๆ คนได้ง่ายกว่า ทำให้กระบะปลูกเป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับคนที่มีพื้นที่จำกัดและไม่ค่อยมีเวลา

ข้อคำนึงถึงในการทำ Raised bed Garden

1.ขนาดของพื้นที่ ควรเลือกกระบะปลูกให้สอดคล้องกับพื้นที่โดยปกติจะปลูกในรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าที่กว้าง
1-1.2 เมตร ยาว 1.8-2.4 เมตร เพื่อสามารถปลูก รดน้ำ ดูแล และกำจัดวัชพืชโดยไม่ต้องเหยียบเข้าไปและในกระบะปลูกควรมีความลึกอย่างน้อย 15-30 เซนติเมตร เพื่อให้มีพื้นที่สำหรับการเจริญเติบโตของรากพืช

2.ตำแหน่งของการวาง ควรเลือกพื้นที่ที่แสงแดดส่องถึงวันละ 6-8 ชม. เพราะผักสวนครัวเป็นพืชที่ต้องการแสงแดดอย่างเช่น คะน้า,กวางตุ้ง,พริกต่าง ๆ แต่ถ้าในบริเวณที่ไม่ได้รับแสงแดดตลอดทั้งวัน ควรปลูกผักที่สามารถเจริญเติบโตได้ดีในร่ม เช่น ชะพลู,สาระแหน่,ตะไคร้,โหระพา

กระบะปลูก กระถาง — แปลงผักสวนครัวปลูกในกระถาง

3.ระบบการให้น้ำ ที่เหมาะสมกับกระบะปลูกมีอยู่ด้วยกัน 2 ระบบ
-ระบบน้ำหยด
ข้อดี คือประหยัดน้ำ ใช้พลังงานน้อย สามารถตั้งเวลาในการให้น้ำได้
ข้อเสีย คืออุดตันง่าย ต้องตรวจสอบและล้างไส้กรองสม่ำเสมอ และการวางบนดินทำให้ตรวจสอบยากกว่าจะพบว่าท่อเกิดการอุตตันพืชอาจเกิดความเสียหายแล้ว
-การรดด้วยบัวรดน้ำ
ข้อดี คือง่าย สะดวก ไม่ต้องลงทุน
ข้อเสีย คือ เราต้องรดเองทุกครั้งไม่สามารถตั้งเวลาในการรดได้
ส่วนเวลาในการรดน้ำควรรดตอนเช้าและเย็น ค่อย ๆ รดให้ชุ่มอย่าให้แฉะจนเกินไป เพราะจะทำให้เกิดการรากเน่าได้

•ข้อควรรู้สักนิด…ก่อนติดสปริงเกอร์

4.จำนวนปริมาณดินที่ต้องใช้ ในการปลูกผักสวนครัว ควรเลือกดินที่ร่วนซุยถ่ายเทอากาศและระบายน้ำได้ดี อุดมไปด้วยอินทรียวัตถุและธาตุอาหารพืช ในการเตรียมดิน สิ่งที่ต้องมีคือดิน 60% ปุ๋ยหมัก 30% และอินทรียวัตถุ 10% มาผสมให้เข้ากันก่อนนำไปปลูก สูตรดินนี้มีหลายสูตรให้เลือกตามความเหมาะสม

•มาปรับปรุงและ ฟื้นฟูดิน ในสวนกันเถอะ

5.การเลือกพืชหรือผักให้ปลูก ควรเลือกให้เหมะกับขนาดของกระบะปลูก โดยผักมีอยู่ 3 ประเภทด้วยกัน
1. ผักหยั่งรากตื้น เช่น ผักชี ต้นหอม คะน้า ผักกาดขาว ผักกาดเขียว กะหล่ำปลี ควรเลือกกระถางที่มีความลึกไม่น้อยกว่า 15 เซนติเมตร
2.ผักหยั่งรากลึก เช่น กะเพราะ โหระพา แมงลัก พริก มะเขือ แตงกวา มะเขือเทศ ถั่วฝักยาว ควรเลือกกระถางที่มีความลึกไม่น้อยกว่า 30 เซนติเมตร
3.พืชหัว เช่น หัวหอม มันฝรั่ง บีทรูท ขิง ข่า ควรปลูกให้ห่างจากกันไม่ต่ำกว่า 30 เซนติเมตร เพื่อให้หัวเจริญเติบโตได้เต็มที่และกระถางควรมีความลึกมากกว่า 50 เซนติเมตร
ในการปลูกควรเลือกผักที่เรากิน โดยให้ปลูกผักระยาวไว้ด้านในสวน ส่วนผักระยะสั้นจัดไว้ด้านนอก เพื่อให้ง่ายต่อการเก็บเกี่ยวและในการปลูกครั้งต่อไป

•ปฏิทินปลูกผัก ปลูกอย่างไรให้มีผักกินทั้งปี

6.วัสดุที่ใช้ในการทำกระบะปลูก มีด้วยกันหลายอย่างไม่ว่าจะเป็น ไม้ อิฐ คอนกรีตและหินก็สามารถนำมาทำได้ ขึ้นอยู่กับการดีไซน์รูปแบบต่าง ๆ วันนี้เราเลยมีตัวอย่างการดีไซน์กระบะปลูกมาให้เป็นไอเดียพร้อมกับบอกข้อดีข้อเสียของแต่ละแบบมาฝากกัน