กล้วยประดับและเฮลิโคเนีย - บ้านและสวน Plants Library

กล้วยประดับและเฮลิโคเนีย

กล้วยประดับและเฮลิโคเนีย ทั้งสองสกุลนี้เป็นพืชใบเลี้ยงเดี่ยวที่มีลักษณะใกล้เคียงกัน ในเมืองไทยนิยมปลูกเป็นไม้ประดับในสวนเมืองร้อน และใช้เป็นไม้ตัดดอกได้ดีอีกด้วย

กล้วยประดับและเฮลิโคเนีย
กล้วยประดับ

กล้วยประดับ เป็นพืชในสกุล Musa วงศ์ Musaceae ชื่อสกุลมาจากชื่อของ Antonius musa แพทย์ของ Octavius Angustus กษัตริย์ชาวโรมันคนแรก กระจายพันธุ์ในทวีปแอฟริกา เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และออสเตรเลีย

ลักษณะเด่น

เป็นไม้ล้มลุกอายุหลายปี ทรงต้นใหญ่ มีลำต้นอยู่ใต้ดินเป็นหัวหรือเหง้า ลำต้นเทียมสูงได้หลายเมตร ประกอบไปด้วยกาบใบอัดแน่น ทุกส่วนของลำต้นเต็มไปด้วยน้ำและน้ำยาง แผ่นใบขนาดใหญ่ ดอกจะออกจากบริเวณปลายยอดของลำต้นเทียม ส่วนปลายช่อเป็นดอกเพศผู้ และกลางช่อเป็นดอกสมบูรณ์เพศ ผลมีลักษณะกลมยาว เรียงตัวติดกันเป็นแพ

กล้วยประดับและเฮลิโคเนีย
เฮลิโคเนีย

เฮลิโคเนีย อยู่ในสกุล Heliconia วงศ์ Heliconiaceae ชื่อสกุลมาจากภาษากรีก ซึ่งเป็นชื่อของยอดเขาเฮลิคอน (Helicon) ที่ประทับของเทพเจ้าแห่งศิลปะศาสตร์ในตำนานกรีก สื่อถึงความงามของดอกไม้ที่ใช้ประดับสรวงสวรรค์ สกุลนี้พบในประเทศเขตร้อนเกือบ 400 ชนิด

ลักษณะเด่น

เป็นไม้ล้มลุกอายุหลายปี มีลำต้นใต้ดินเป็นเหง้าทอดเลื้อย แตกกอได้ดี ลำต้นเหนือดินเป็นกาบใบที่แผ่ออกและซ้อนทับกัน สูงตั้งแต่ 0.50-3 เมตร ใบรูปขอบขนาน เรียวยาว เรียงสลับรอบต้น หรือเรียงสลับระนาบเดียว แผ่นใบหนา อาจมีสีเหลือบเงิน หรือมีนวลปกคลุม ช่อดอกออกจากซอกกาบในกลางลำต้น อาจตั้งขึ้นหรือห้อยลง แต่ละช่อมี 3-30 อันเรียงซ้อนกันระนาบเดียวหรือเวียนสลับรอบช่อ แต่ละใบประดับมีดอกย่อย 4-8 ดอก สามารถติดผลได้ เป็นผลมีเนื้อนุ่มเมล็ดเดียว เมื่อสุกเปลี่ยนเป็นสีน้ำเงิน หรือสีส้ม

การปลูกเลี้ยง

ทั้งสองสกุลนี้เป็นพืชใบเลี้ยงเดี่ยวที่มีลักษณะใกล้เคียงกัน ซึ่งมีการเจริญเติบโตและปลูกเลี้ยงเช่นเดียวกัน เจริญเติบโตได้ดีในเมืองไทย ชอบดินร่วนระบายน้ำดี แสงแดดตลอดวัน ขยายพันธุ์ง่ายด้วยการแยกหน่อ ในเมืองไทยนิยมปลูกเป็นไม้ประดับในสวนเมืองร้อน และใช้เป็นไม้ตัดดอกได้ดีอีกด้วย

ติดตามหนังสือใหม่ได้ทาง : สำนักพิมพ์บ้านและสวน