ผลิตภัณฑ์รักษาเนื้อไม้ - บ้านและสวน

ผลิตภัณฑ์รักษาเนื้อไม้

การใช้ไม้ในงานก่อสร้าง ทำเฟอร์นิเจอร์ หรือตกแต่งทั้งภายนอกและภายใน สิ่งสำคัญที่ต้องนึกถึงคือ การดูแลไม้ให้อยู่ในสภาพแข็งแรง ทนทาน สวยงามตลอดอายุใช้งาน ซึ่งนอกจากการทำความสะอาด ปัดกวาดเช็ดถูตามปกติแล้ว การใช้น้ำยารักษาเนื้อไม้ก็เป็นเรื่องที่ควรทำ

ผลิตภัณฑ์รักษาเนื้อไม้ ที่มีจำหน่ายในบ้านเรา มีหลายชนิดจนผู้ใช้หลายรายสับสน ในที่นี้ขอแบ่งประเภทตามการใช้งานดังนี้

  1. น้ำมันรองพื้น ใช้ทารองพื้นไม้เพื่ออุดเสี้ยน ทำให้ผิวไม้เรียบ ช่วยให้สีหรือน้ำยาเคลือบต่างๆ ยึดเกาะกับผิวไม้ได้ดี ป้องกันยางไม้ ทำให้ไม้ไม่เปลี่ยนสี
  2. น้ำยาเคลือบภายใน สำหรับใช้กับไม้หรือเฟอร์นิเจอร์ที่อยู่ภายในบ้าน ใช้ทาทับบนผิวไม้ มีให้เลือก 2 แบบคือ
    1. ชนิดเงา (ไม่มีสี) เหมาะกับไม้ที่มีลายสวยงาม เช่น ไม้สักทอง ไม้มะค่า หรือไม้เนื้ออ่อนบางชนิด ทาได้ทั้งพื้นปาร์เกต์และเฟอร์นิเจอร์
    2. ชนิดกึ่งเงา (มีเฉดสี) เหมาะกับผนังไม้ วงกบประตู หน้าต่าง และงานไม้ต่างๆ ให้ความแข็งแรง ทนการขูดขีด สามารถใช้พอลิยูริเทนทาทับได้
  3. น้ำยาเคลือบภายนอก เป็นพอลิยูรีเทนชนิดพิเศษ ให้ความคงทนและเงางาม น้ำยาเมื่อแห้งจะเป็นฟิล์มเคลือบบนผิวไม้ ช่วยป้องกันรังสียูวีและความร้อนจากแสงแดด เหมาะกับการใช้งานภายนอกบ้าน หรือทาพื้นไม้ พื้นปาร์เกต์ และเฟอร์นิเจอร์ไม้ที่ต้องการดูแลเป็นพิเศษ ถ้าไม่ชอบความมันเงาหรือไม่ต้องโชว์ลายไม้ก็สามารถใช้ยูรีเทนชนิดด้านทาทับได้
  4. สีทาย้อมไม้ หรือ wood stain เป็นผลิตภัณฑ์ทดแทนพอลิยูรีเทน มีจุดเด่นที่ผงสี ซึ่งโปร่งแสง ยึดเกาะผิวได้ดี ป้องกันรังสียูวีทำลายสีน้ำตาลของเนื้อไม้ โดยสีจะซึมเข้าไปในเนื้อไม้ ช่วยให้เนื้อไม้ระบายความชื้นได้ดี จึงไม่มีปัญหาเรื่องเชื้อรา และสีหลุดลอก เหมาะกับงานไม้ทั้งภายในและภายนอก มีให้เลือกใช้ 2 ชนิดคือ ชนิดโปร่งแสงพิเศษ และชนิดกึ่งเงาหรือด้าน การใช้สีย้อมไม้ไม่จำเป็นต้องทารองพื้น เพียงแค่ทำพื้นผิวให้สะอาดและแห้งสนิท ทาทับบนผิวหน้าอย่างน้อย 2-3 เที่ยว ทั้งมีเฉดสีให้เลือกมากมาย
  5. น้ำยารักษาเนื้อไม้ เป็นผลิตภัณฑ์ช่วยทดแทนน้ำมันตามธรรมชาติที่สูญเสียไปกับแสงแดดและสภาพอากาศ ช่วยรักษาความงามของเนื้อไม้ มีส่วนผสมของซิลิโคน ช่วยป้องกันน้ำซึม เหมาะกับเฟอร์นิเจอร์ไม้สัก ไม้เนื้อแข็ง ทั้งที่อยู่กลางแจ้งและในที่ร่ม สามารถทาน้ำยาเคลือบทับหน้าได้

Tips

น้ำยาเคลือบไม้ที่ดี ควรมีคุณสมบัติดังนี้ แทรกซึมสู่เนื้อไม้ได้ดี/ยึดเกาะพื้นผิวได้แน่น/ควบคุมความชื้นได้ดี/ยืดหยุ่นสูง/กลมกลืนกับเนื้อไม้ ไม่โป่งพองหรือหลุดล่อน
– หลีกเลี่ยงการทารองพื้นด้วยเชลแล็ก เพราะจะทำให้ลอกและพองหลังการทายูรีเทน
-การย้อมสีไม้ ไม่ควรย้อมเสี้ยนไม้ด้วยฝุ่นสีและเชลแล็ก เพราะฝุ่นสีจะทำให้การยึดเกาะของน้ำยาลดลง