Related Content
ห้องน้ำมีกลิ่น จากชักโครกและท่อน้ำทิ้ง เกิดจากอะไร
ข้อสงสัยจากกระทู้พันทิปที่หลายคนยังข้องใจเกี่ยวกับเรื่องบ้านและเรื่องสวน ซึ่งคำถามยอดนิยมที่หยิบมาหาคำตอบ คือ ห้องน้ำมีกลิ่น จากชักโครกและท่อน้ำทิ้ง เกิดจาก
เครื่องทำน้ำอุ่นระบบแก๊ส การใช้อย่างปลอดภัยและข้อควรระวัง
ข่าวเตือนภัยทุกฤดูหนาวกับการพบคนหมดสติคาห้องน้ำ เนื่องจากการไปพักตามรีสอร์ตที่มีไฟฟ้าไม่เพียงพอ จึงมักใช้ เครื่องทำน้ำอุ่นระบบแก๊ส ที่ใช้แก๊สหุงต้ม หรือ LPG เป็นเชื้อเพลิงในการเผาไหม้เพื่อผลิตน้ำร้อน ซึ่งระบบการเผาไหม้จะทำให้ออกซิเจนในห้องน้ำน้อยลงหรือมีก๊าซโพรเพนเล็ดลอดออกมาจนทำให้มีอาการเวียนหัวและหมดสติได้ เครื่องทำน้ำอุ่นระบบแก๊ส โดยปกติมีความปลอดภัยสูงไม่ต่างจาก เครื่องทำน้ำอุ่นระบบไฟฟ้า เมื่อการผลิตและการติดตั้งเครื่องได้มาตรฐาน โดยผู้ใช้งาน เจ้าของบ้านหรือเจ้าของรีสอร์ตควรรู้วิธีการใช้งานอย่างถูกต้อง ข้อควรระวังและวิธีเตรียมพื้นที่ห้องน้ำเพื่อความปลอดภัยในการใช้งาน ทำไมขณะอาบน้ำจึงเกิดอาการเวียนหัวและหมดสติได้ การทำงานของ เครื่องทำน้ำอุ่นระบบแก๊ส ต้องใช้ออกซิเจนในการเผาไหม้ ทำให้เกิดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ และก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ซึ่งเป็นก๊าซพิษ หรืออาจมีก๊าซโพรเพนซึ่งเป็นส่วนประกอบของก๊าซหุงต้มเล็ดลอดออกมา ดังนั้นหากการระบายอากาศในห้องน้ำไม่ดี ก๊าซออกซิเจนจะถูกใช้เพื่อเผาไหม้ และเกิดการสะสมของก๊าซคาร์บอนฯ และก๊าซโพรเพน เมื่อสูดดมเข้าไปทำให้ร่างกายขาดออกซิเจนจนมีอาการวิงเวียนศีรษะ ปวดศีรษะ มึนงง หน้ามืด หายใจลำบาก คลื่นไส้อาเจียน ซึม หมดสติ และอาจเสียชีวิตได้ โดยกลุ่มที่มีความเสี่ยงต่อการเสียชีวิตสูงที่สุด คือ เด็ก ผู้สูงอายุ ผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคหัวใจ โรคโลหิตจาง หอบหืด ถุงลมโป่งพอง และโรคความดันโลหิตสูง การใช้งาน เครื่องทำน้ำอุ่นระบบแก๊ส อย่างปลอดภัย 1.ห้องน้ำควรมีหน้าต่างที่ระบายอากาศได้ดี หรือมีพัดลมระบายอากาศ หากดูแล้วว่าการระบายอากาศภายในห้องน้ำไม่ดีพอ […]
ผนังเกิดคราบสกปรก คราบตะไคร่น้ำและเชื้อรา เช็ดไม่ออก แก้ไขอย่างไร
เมืองไทยมีทั้งแดดจัดและฝนตกชุก ผนังบ้านจึงต้องเจอปัญหาคราบเชื้อรา ตะไคร่น้ำเกาะเป็นคราบเขียวคล้ำอันน่าเกลียดอยู่เสมอ แม้จะเป็นเรื่องที่พบเจอได้บ่อยแต่อย่าปล่อยให้ปัญหานี้เกิดขึ้นกับผนังบ้านของเราเลย เพราะนอกจากความสกปรกไม่เป็นที่น่ามองแล้ว คราบเชื้อรายังส่งผลต่อสุขอนามัยของร่างกายเราด้วย จากคำถามในกระทู้ที่มีคนตั้งข้อสงสัยว่า หากผนังเกิดเชื้อราเพราะความชื้นแล้วจะแก้ปัญหาโดยทาสีทับไปเลยได้ไหม ขอตอบเลยว่านั่นเป็นวิธีที่ผิด เพราะนอกจากจะไม่ช่วยให้คราบของเดิมหายไปแล้วยังเป็นการสิ้นเปลืองโดยใช่เหตุ เพราะสีที่ทาทับจะไม่ยึดติดกับผนังที่ยังคงมีความชื้นสะสม และเมื่อเวลาผ่านไปสักพักก็จะเกิดปัญหาสีหลุดลอกล่อนตามมา การแก้ปัญหาเรื่องนี้จึงต้องกำจัดเชื้อรา และคราบต่าง ๆ ให้ออกจากพื้นผิวเสียก่อน จึงลงมือทาสีทับได้ ก่อนจะไปดูวิธีการกำจัดตะไคร่น้ำและเชื้อราบนผนังแบบถูกต้อง มาลองหาสาเหตุของการเกิดคราบเหล่านี้กันก่อน ซึ่งบริเวณที่เกิดส่วนใหญ่จะเป็นมุมที่ต้องสัมผัสกับความชื้น จนเกิดปัญหาความชื้นสะสม อาทิ ส่วนซักล้าง ผนังห้องน้ำ มุมอับข้างบ้านที่แดดส่องไม่ถึง และอาจจะเกิดจากปัญหาท่อน้ำที่ฝังในผนังรั่วซึม หรือแม้แต่ความแตกต่างของอุณหภูมิภายในกับภายนอกก็เป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้เกิดเชื้อราบนผนังได้ อย่างเช่นผนังฝั่งทิศใต้หรือตะวันตกที่มีการติดตั้งเครื่องปรับอากาศและเปิดใช้งานนาน ๆ เมื่ออุณหภูมิแตกต่างจะก่อให้เกิดการกลั่นตัวของหยดน้ำตามผนังด้านใน หรือที่เรียกกันว่า “เหงื่อ” บนผิวของผนัง ซึ่งก่อให้เกิดความชื้น และกลายเป็นสภาวะที่เหมาะสมต่อการเติบโตของเชื้อรา ที่สุดแล้วไม่ว่าจะเกิดบริเวณใดก็ตามสิ่งแรกที่ควรแก้ปัญหาคือเรื่องความชื้นในบริเวณนั้น ๆ ที่เป็นต้นเหตุของการเกิดเชื้อราเสียก่อน โดยมีขั้นตอนง่าย ๆ 3 ขั้นตอนดังนี้ 1. ขัดล้างทำความสะอาดบริเวณที่มีคราบตะไคร่น้ำและเชื้อราด้วย นิปปอนเพนต์ วีนิเลกซ์ ไบโอวอช แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด ทิ้งไว้ให้แห้งสนิท 2. ลงน้ำยาขจัดเชื้อราและตะไคร่น้ำ นิปปอนเพนต์ วีนิเลกซ์ ไบโอวอช […]
