6 วิธีป้องกันกำจัดวัชพืช ในแปลงเกษตรอย่างปลอดภัย
เมื่อเข้าสู่ฤดูฝน หนึ่งในศัตรูตัวฉกาจนอกจากเชื้อราและศัตรูพืชต่างๆ แล้ว ก็ยังมี “วัชพืช” นับว่าพืชที่เราไม่ต้องการให้เจริญเติบโตในพื้นที่บริเวณนั้นๆ ไม่ว่าจะเป็น ข้างแปลงผัก หรือแม้กระทั่งในแปลงผักเองก็ตาม การกำจัดวัชพืช จึงเป็นสิ่งที่ต้องทำอยู่เรื่อยมา
ซึ่งนอกจากวัชพืชจะเจริญเติบโตในพื้นที่ที่เราไม่ต้องการแล้ว ยังมาแย่งสารอาหารของพืชผักที่เราปลูกไว้ รวมถึงเป็นแหล่งกลบดานของเหล่าแมลงตัวร้ายอีกด้วย แต่การจะป้องกัน และ การกำจัดวัชพืช เหล่านี้อย่างไรให้ปลอดภัย ไม่มีสารเคมีอันตรายตกค้างอยู่ในพื้นที่ เราได้รวบรวมมา 6 วิธีด้วยกัน จะมีอะไรบ้างตามมาดูกันเลย
1 I การกำจัดวัชพืช ด้วยคลุมด้วยฟาง หรือ พลาสติกคลุมดิน
วิธีนี้เหมาะสำหรับพื้นที่ที่จะมีการปลูกพืช เช่น ในแปลงผัก หรือ บริเวณโคนต้นของไม้ผล โดยจะใช้ฟางหรือพลาสติกคลุมดิน เพื่อป้องกันแสงแดดไม่ให้สัมผัสกับผิวดิน จึงทำให้เมล็ดวัชพืชที่หลงเหลืออยู่ไม่ได้รับแสงแดด จนไม่สามารถเจริญเติบโตได้ นอกจากนี้การปกคลุมผิวด้วยในลักษณะนี้ยังช่วยรักษาความชื้นในดินและลดแรงกระแทกจากการรดน้ำ หรือน้ำฝน ในการชะล้างแร่ธาตุบริเวณผิวดินจนไปหมดด้วย
2 I การกำจัดวัชพืช ด้วยปลูกพืชคลุมดิน
วิธีการนี้จะเหมาะสำหรับพื้นที่บริเวณขอบแปลงหรือบริเวณทางเดิน ซึ่งนอกจากจะกำจัดวัชพืชได้แล้ว ยังสามารถเพิ่มความสวยงามได้ด้วย โดยการปลูกพืชคลุมดินก็ใช้หลักการเดียวกันกับฟางหรือผ้าใบในการบดบังแสงแดดจนทำให้วัชพืชไม่สามารถเจริญเติบโตได้ แต่ใช้เป็นพืชที่คลุมผิวดินแทน โดยให้เลือกพืชที่แผ่กระจายตามผิวดินได้ดี และไม่เจริญเติบโตจนบดบังแสงแดดของพืชผักได้ เช่น ถั่วบราซิล กระดุมทอง หนวดปลาดุก ใบต่างเหรียญ เป็นต้น นอกจากนี้ยังช่วยให้ดินชุ่มชื้น ลดการพังทลายของหน้าดินได้ด้วย
3 I เลี้ยงสัตว์ที่ชอบแทะเล็มหญ้า
วิธีนี้เหมาะสำหรับในแปลงผลไม้ที่มีหญ้าขึ้นรก สามารถใช้สัตว์ที่ชอบแกะเล็มหญ้าได้เก่ง เช่น แกะ แพะ และห่าน โดยเฉพาะกับ ห่านสายพันธุ์จีน เนื่องจากเจริญเติบโตเร็ว ตัวไม่ใหญ่มาก ปราดเปรียว เลี้ยงดูได้ง่าย ไม่ต้องการดูแลเป็นพิเศษ ทนต่อสภาพแวดล้อมได้ดีดี และอายุยืน โดยห่าน 1 ตัว สามารถกินหญ้าได้ประมาณ 800 กรัมต่อวัน สามารถกำจัดหญ้าได้วันละ 1.7 ตารางเมตรเลยทีเดียว แต่ข้อกำจัดสำหรับห่าน คือ ต้องมีสระน้ำให้ห่านได้ว่ายน้ำเล่นด้วย
4 I ใช้เกลือผสมน้ำส้มสายชู
วิธีนี้เหมาะสำหรับพื้นที่ที่มีวัชพืชแทรกขึ้นใกล้เคียงกับแปลงผัก แต่ตอนใช้งานระวังไม่ให้น้ำยากระเด็นเข้าไปสัมผัสกับผักที่ปลูกไว้ เนื่องจากเป็นน้ำยาที่ทำลายพืชทุกชนิดที่สัมผัส โดยจะมีอาการเหี่ยวเฉาและแห้งตาย และเหมาะสำหรับทำใช้ในพื้นที่เล็กๆ
วิธีการผสมน้ำยามีส่วนผสมเป็น เกลือแกง 2 ถ้วยตวง น้ำยาล้างจาน 1 ถ้วยตวง และน้ำส้มสายชู 3 ลิตร นำมาผสมให้เข้ากันและคนจะเกลือละลายได้ดี ใช้ฉีดพ่นช่วงที่ฝนไม่ตก ได้รับแสงแดดตลอดวัน ใช้เวลาประมาณ 1 วัน วัชพืชก็จะเหี่ยวเฉาและตายในที่สุด
5 I หมั่นตัดและถอนวัชพืช
วิธีนี้เหมาะสำหรับทุกพื้นที่ นับว่าเป็นวิธีเบสิกและทำง่ายที่สุด แต่หลักสำคัญในการตัดและถอนวัชพืชที่ดีต้องทำตอนที่วัชพืชยังเล็กและยังไม่เริ่มออกดอก เพื่อป้องกันไม่ให้วัชพืชขยายพันธุ์ เนื่องจากวัชพืชส่วนใหญ่จะแพร่กระจายด้วยเมล็ดที่สามารถปลิวไปตามแรงลมได้ไกล
สำหรับวิธีตัด การเลือกใบตัดหญ้าก็สำคัญเช่นกัน เนื่องจากใบตัดแต่ละชนิดมีความแตกต่างกันไปตามชนิดของวัชพืชด้วย สำหรับวัชพืชที่มีลำต้นหนา มีกอขนาดใหญ่ จะเหมาะกับใบมีดวงเดือน สำหรับบุกเบิกพื้นที่ที่วัชพืชขึ้นรก ส่วนวัชพืชขนาดเล็ก-ปานกลาง ไม่รกมาก สามารถใช้ใบมีดมะละกอได้ เพราะมีหน้าตัดที่กว้างและช่วยให้ตัดหญ้าได้ไว ส่วนเส้นเอ็นตัดหญ้าเหมาะสำหรับพื้นที่ที่อยู่ใกล้กับอาคารบ้านเรือน เพราะจะปลอดภัยมากกว่าและลดความเสียหายจากแรงกระแทกได้
6 I สารสกัดจากเชื้อรา
เริ่มแรกมีการทดลองใช้สปอร์จากเชื้อรา Lasiodiplodia theobromae ที่พบเข้าทำลายในวัชพืช แต่พบว่ามีความเสี่ยงที่อาจไปก่อโรคกับพืชอื่นได้ จึงเริ่มสกัดสารจากเชื้อราแทน โดยสารสกัดที่ได้สามารถออกฤทธิ์ได้เร็ว และสามารถเข้าทำลายได้ 2 แบบ ทั้งแบบเผาพลาญเมื่อสารสัมผัสกับพืชจะทำให้ใบไหม้และเหี่ยวลง และสามารถดูดซึมเข้าไปทำลายได้ตั้งแต่รากไปจนยอดพืชได้ มีประสิทธิภาพสูง สามารถกำจัดวัชพืชได้เทียบเท่ากับสารเคมี ที่สำคัญมีความปลอดภัยสูง และไม่มีสารตกค้าง แต่ปัจจุบันยังอยู่ในขั้นพัฒนากระบวนการผลิตในระดับกึ่งอุตสาหกรรมเพื่อเตรียมพร้อมถ่ายทอดเทคโนโลยีสู่ผู้ประกอบการ
อ้างอิงข้อมูลจาก : สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.)