ต้นไม้บังลม ลดแรงลมพายุ
ต้นไม้บังลม ที่นิยมปลูกเป็นแนวเพื่อลดแรงลมในฤดูมรสุม และมีลักษณะที่โดดเด่นเฉพาะตัว จึงเริ่มนิยมนำมาตกแต่งสวนกันอย่างแพร่หลาย มีต้นอะไรบ้างไปดูกัน
1.สนประดิพัทธ์ ต้นไม้บังลม
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Casuarina junghuniana Miq. วงศ์ : Casuarinceae ประเภทไม้ต้นไม่ผลัดใบ ลำต้นตรง แตกกิ่งก้านจำนวนมากและมีขนาดเล็ก เรือนยอดรูปพีระมิด แคบกว่าสนทะเล ใบเดี่ยว เรียงเวียนรอบกิ่งเป็นข้อ ข้อละ 8-10 ใบ ใบรูปสามเหลี่ยมขนาดเล็ก ยอดอ่อนหรือปลายกิ่งอ่อนมีสีแดง ดอกขนาดเล็ก แบบแยกเพศและแยกอยู่คนละต้น ชอบดินปนทรายหรือดินเค็ม น้ำปานกลาง ทนน้ำท่วมขัง เหมาะปลูกเป็นแนวกันลม ริมรั้ว ริมถนนหรือทางเดิน สามารถตัดแต่งเป็นรูปทรงต่างๆ ได้ ใบร่วงง่าย หรือปลูกในสวนหรือพื้นที่ที่ไม่ต้องการดูแลรักษามาก ชื่อ “สนประดิพัทธ์” ตั้งขึ้นเพื่อเป็นเกียรติแก่พระยาประดิพัทธ์ภูบาลซึ่งเป็นผู้นำสนตันนี้มาจากสิงคโปร์
2.สนฉัตร
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Araucaria heterophylla (Salisb.) Franco วงศ์ : Araucariaceae เมื่อต้นยังเล็กกิ่งย่อยจะแผ่ออกเป็น แผงรูปคล้ายสามเหลี่ยมเป็นชั้นๆ ใบสีเขียวอ่อน เมื่อโตเต็มที่จะมีทรงต้นรูปกรวย ยอดเรียวแหลม ใบแก่สีเขียวเข้มเป็นมัน ต้นอายุน้อยใบจะมีสีเขียวอ่อนแลดูละเอียดนุ่มนวล นิยมปลูก ในกระถาง ปลูกกลางแจ้งหรือรำ ไรก็ได้ แต่เมื่อโตแล้วต้องการแสงแดดเต็มวัน ปลูกเลี้ยงง่าย เจริญเติบโตช้าถึงปานกลาง
3.สนมังกร
มีลักษณะลำต้นตั้งตรง พุ่มทรงกรวย ใบ เล็กละเอียดสีเขียวเข้ม เติบโตได้ดีในพื้นที่เขตร้อนชื้น เป็นไม้ไม่ผลัดใบ สูงประมาณ 10 – 12 เมตร นิยมปลูก ลงดินประดับอาคารหรือบ้านพักอาศัยเรียงกันหลายๆ ต้นตามแนวทางเดิน
4.สนสามใบ
เป็นไม้ยืนต้นขนาดกลางถึงใหญ่ สูง ประมาณ 10 – 30 เมตร ลำต้นตั้งตรง เรือนยอดแตก เป็นลักษณะพุ่มทรงกลม มีสีเขียวอ่อน เส้นใบอ่อนนุ่ม เรียวยาว ออกเป็นช่อกระจุกละ 3 ใบ ปลูกประดับสวน ให้ความรู้สึกนุ่มนวลด้วยผิวสัมผัสใบที่ฟูสวยงาม
5.ซิลเวอร์โอ๊ก
ไม้ยืนต้นไม่ผลัดใบ เจริญเติบโตเร็ว ลำต้นตั้งตรง สูงประมาณ 18 – 35 เมตร มีทรงพุ่มโปร่ง ลักษณะใบเรียวยาวแตกแขนงแบบขนนก หน้าใบสีเขียว เป็นมัน หลังใบมีสีเขียวแกมเงิน เหมาะสำหรับสวนที่ ต้องการความโปร่งของพื้นที่เพื่อเปิดรับแสงหรือเปิดรับวิว
6.ไผ่เลี้ยง
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Bambusa multiplex (Lour.) Raeusch. ex Schult. วงศ์ : Poaceae หรือ Gramineae ลำต้นลำกลมและเกลี้ยง สีเขียวเป็นมันและมีขนสีขาวนวลอยู่ตามข้อ ใบแคบเล็ก ปลายแหลม ขอบใบเรียบ ใบแตกออกบริเวณกลางลำ ทำให้ดูเป็นพุ่มอยู่ส่วนยอดของต้น มีใบดกมาก การใช้งานและอื่นๆ : ระยะปลูก 60 เซนติเมตร ปลูกตัดแต่งคู่กับรั้วไม้ไผ่ เสริมบรรยากาศแบบธรรมชาติได้ดี เป็นไผ่ที่ไม่มีหนาม จึงเหมาะกับการจัดสวน
7.กระถินณรงค์
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Acasia auriculiformis A. Cunn.ex Benth. วงศ์ : FABACEAE ประเภทไม้ต้นขนาดเล็กถึงกลาง ไม่ผลัดใบ ทรงพุ่มเรือนยอดทรงกลมทึบ กิ่งห้อยย้อย ลำต้นเปลือกสีน้ำตาลถึงสีน้ำตาลเข้ม แตกเป็นร่องตามยาวไม่เป็นระเบียบ ใบประกอบแบบขนนก 2 ชั้น เมื่อยังเป็นต้นกล้าอยู่และร่วงไป พอโตขึ้นเหลือเพียงก้านใบที่เปลี่ยนรูปไปคล้ายแผ่นใบ เรียงสลับถี่และห่างเป็นระยะ ใบรูปขอบขนาน ปลายและโคนใบเรียวแหลม โค้งเป็นรูปเคียว ดอกสีเหลือง มีกลิ่นหอม ออกเป็นช่อแบบช่อแยกแขนงเป็นคู่ๆ ที่ซอกใบและปลายกิ่ง ยาว 4-10 ซม. มีดอกย่อยขนาดเล็กจำนวนมาก โคนกลีบเลี้ยงติดกันปลายแยกเป็น 5 แฉก โคนกลีบดอกติดกันปลายแยกเป็น 5 แฉก โค้งกลับลง เกสรเพศผู้สีเหลืองจำนวนมาก ออกดอกตลอดปี
8.กระถินเทพา
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Acacia mangium willd. วงศ์ : LEGUMINOSAE-MINOSIODEAE ไม้ยืนต้น ลำต้นสูงสีน้ำตาลหรือสีน้ำตาลเข้ม ผิวลำต้นแตกเป็นร่องลึก ใบประกอบแบบขนนก รูปใบหอก ปลายใบมน โคนใบสอบเรียบ ขอบใบเรียบ เนื้อใบคล้ายเยื่อ ใบเรียงแบบตรงข้ามสลับตั้งฉาก ด้านบนแผ่นใบเกลี้ยง ใบด้านบนสีเขียว ท้องใบสีเขียวหม่น ใบอ่อนสีเขียวอ่อน ใบแก่สีเขียว กลีบดอกสีขาวหรือสีเหลือง กลีบดอก 5 กลีบ ผลแห้งแก่แตก ผลแตกตามรอยประสาน ผลอ่อนสีเขียว ผลสุกสีน้ำตาล ผลแก่สีน้ำตาลเข้ม
9.ไทรย้อยใบแหลม
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Ficus benjamina Linn. วงศ์ : MORACEAE ลักษณะทั่วไปต้นไทรย้อยใบแหลมเป็นไม้ยืนต้นสูง 5–10 เมตร มีรากอากาศ ใบเป็นใบเดี่ยวเรียงสลับ รูปรีแกมรูปไข่ ปลายใบเรียวแหลม โคนใบสอบ ดอกขนาดเล็ก มีฐานรองดอก ออกดอกช่วงเดือนกุมภาพันธ์ ผลเป็นทรงกลม เมื่อสุกสีเหลือง ขยายพันธุ์โดยการเพาะเมล็ดและตอนกิ่ง
10.สะเดา
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Azadirachta indica A. Juss. วงศ์ : MELIACEAE ไม้ยืนต้น สูง 12-15 เมตร เรือนยอดเป็นพุ่มหนาทึบ เปลือกสีน้ำตาลเทาหรือเทาปนดำ แตกเป็นร่องตื้นหรือเป็นสะเก็ด เป็นพรรณไม้ต่างประเทศ มีถินกำเนิดในอัสสัมถึงอินโดจีน
บทความที่เกี่ยวข้อง
รวม ต้นไม้ริมรั้ว ต้นไม้ทนแดด ตกแต่งสวน ทำกำแพงธรรมชาติ
ต้นไผ่ แต่งสวน ดูแลอย่างไรให้สวยและไม่รก
ติดตามไอเดียบ้านและสวนเพิ่มเติมได้ทาง : บ้านและสวน Baanlaesuan.com