รวม ต้นไม้ริมรั้ว ต้นไม้ทนแดด ตกแต่งสวน ทำกำแพงธรรมชาติ
เมื่อจะตกแต่งสวนหลายคนมองหา ต้นไม้ริมรั้ว วันนี้เรารวม 10 พรรณไม้ที่ปลูกริมรั้วเพื่อสร้างแนวกำบัง หรือเพิ่มความสวยงามให้บริเวณขอบเขตรั้วหรือแนวกำแพงบ้าน
1. ไทรเกาหลี ต้นไม้ริมรั้ว
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Ficus sp. วงศ์ : Moraceae เป็นประเภทเป็นทั้งไม้ต้นและไม้พุ่ม อายุหลายปี ลำต้นทุกส่วนของต้นมีน้ำยางสีขาวขุ่น เมื่ออายุมากมีรากอากาศห้อยย้อยลงมายังผิวดิน ใบเดี่ยว ออกเวียนสลับรอบกิ่ง รูปรีถึงรูปขอบขนาน ปลายใบแหลม โคนใบมน แผ่นใบหนาสีเขียวเข้ม ดอกเป็นช่อกระจุกบนฐานรองดอกเดียวกัน ออกตามซอกใบ มีดอกเล็กๆ จำนวนมาก ดอกแยกเพศอยู่ร่วมต้น ไม่มีกลีบดอก ดอกเพศผู้จำนวนมากกว่าดอกเพศเมีย ดอกเพศเมียมีรังไข่อยู่เหนือวงกลีบ ผลเป็นส่วนของฐานรองดอกที่ขยายขนาด ภายในมีเมล็ดเล็กๆ จำนวนมาก มีอัตราการเจริญเติบโตปานกลาง แต่โตได้ดีในดินร่วนระบายน้ำดี ชอบแสงแดดตลอดวันถึงครึ่งวัน และน้ำน้อย-ปานกลาง ทนน้ำท่วมหรือชื้นแฉะได้ดี การขยายพันธุ์ด้วยการปักชำกิ่ง การใช้งานและอื่นๆ : ปลูกเป็นไม้ประดับแปลงหรือไม้กระถาง ถ้าปลูกลงดินต้นจะเติบโตได้ดีและมีขนาดใหญ่ กรณีที่มีพื้นที่น้อยควรหมั่นตัดแต่งทรงพุ่มอยู่เสมอ แข็งแรงทนทาน เจริญเติบโตได้ดีทั้งภายในและภายนอกอาคาร ปลูกเลี้ยงง่าย
2. โกสน
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Codiaeum variegatum (L.) Rumph ex A. Juss. วงศ์ : EUPHORBIACEAE เป็นประเภทไม้พุ่มขนาดกลาง มีความสูงได้ถึง 2-3 ม. ทรงพุ่มรูปไข่ แน่นทึบ ใบเดี่ยว เรียงสลับ ใบมีหลายแบบและขนาดแปรไปตามพันธุ์ เช่น รูปกลม แคบยาว บิดเป็นเกลียว ปลายใบแหลมหรือมน มีติ่ง โคนใบสอบ ขอบใบเรียบหรือหยักเว้า บางพันธุ์เว้าลึกถึงเส้นกลางใบ และเว้นห่างเป็นสองตอน แผ่นใบมีสีต่างๆ เช่น ขาว เหลือง ส้ม ชมพู แดง ม่วงดำ ก้านใบยาว มีดอกออกเป็นช่อกระจะตามซอกใบและปลายกิ่ง สีขาว แยกเพศอยู่ร่วมต้น ช่อดอกเพศผู้โค้งลง ผลแห้ง ทรงค่อนข้างกลม เมื่อแก่แตกเป็น 2 ซีก มีเมล็ดสีน้ำตาล มีอัตราการเจริญเติบโตปานกลาง ชอบดินร่วนผสมใบไม้ผุและปุ๋ยอินทรีย์ ระบายน้ำดี ต้องการแสงแดดเต็มวัน บางพันธุ์ชอบร่มรำไร ขยายพันธุ์ด้วยการเพาะเมล็ด ปักชำ และตอนกิ่ง การใช้งานและอื่นๆ : ถ้าให้ปุ๋ยมากอาจสูงชะลูดจนเสียทรง นิยมปลูกเป็นกลุ่มกลางแจ้งหรือริมถนนเพื่อสร้างสีสัน ปลูกริมทะเลได้
3. ต้นโมก
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Wrightia religiosa (Tejsm & Binn.) Benth. ex Kurz วงศ์ : Apocynaceae เป็นไม้ประเภทต้นผลัดใบ มีทรงพุ่มแผ่กว้าง ลำต้นมีเปลือกต้นเรียบสีน้ำตาล มีจุดประเล็กๆ สีขาวทั่วต้น แตกกิ่งก้านไม่เป็นระเบียบ ทุกส่วนของต้นมีน้ำยางสีขาว ใบเดี่ยวออกตรงข้ามกันรูปรีหรือรูปใบหอก ปลายใบแหลม โคนใบสอบหรือมน ช่อดอกเป็นช่อกระจุกสั้นๆ ออกตามซอกใบใกล้ปลายกิ่ง กลีบดอกสีขาว โคนกลีบเชื่อมติดกัน มีทั้งกลีบดอกชั้นเดียวและดอกซ้อน มีกลิ่นหอม ออกดอกตลอดปี แต่ดอกดกในช่วงปลายฤดูหนาวเข้าฤดูร้อน มีผลเป็นฝักคู่รูปทรงกระบอกเล็กๆ เรียวยาว โค้งงอเข้าหากัน เมื่อแก่เปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลและแตกออก ภายในมีเมล็ดจำนวนมาก มีอัตราการเจริญเติบโตเร็วในดินทุกประเภท แต่ต้องชุ่มชื้น ชอบแสงแดดตลอดวัน ชอบอากาศเย็น ต้องการน้ำปานกลาง ทนน้ำท่วมขังได้สูงถึง 1 เมตร ขยายพันธุ์ด้วยการเพาะเมล็ด ปักชำกิ่ง หรือเสียบยอด การใช้งานและอื่นๆ : นิยมเสียบยอดโมกใบด่างบนต้นตอโมกมัน ซึ่งแข็งแรงและเลี้ยงง่าย เพื่อให้พันธุ์ใบด่างเติบโตได้อย่างสมบูรณ์และนิยมปลูกเป็นไม้ประดับ
4. รสสุคนธ์
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Tetracera loureirii (Finet & Gagnep.) Pierre ex Craib วงศ์ : Dilleniaceaerossukonkhow2 เป็นประเภทไม้เลื้อยเนื้อแข็งขนาดใหญ่ อายุหลายปี ไม่ผลัดใบ มีลำต้นยอดเลื้อยพาดได้ไกล 5-8 เมตร เปลือกสีน้ำตาลเข้ม ใบเป็นใบเดี่ยว ออกสลับ รูปรีถึงรูปขอบขนาน แผ่นใบหนาแข็งสีเขียวเข้ม ผิวสาก เส้นใบย่อยเป็นร่องลึก ดอกออกเป็นช่อที่ปลายยอด ดอกย่อยมีจำนวนมาก กลีบเลี้ยงสีเขียว โคนเชื่อมติดกัน กลีบดอกสีขาว หลุดร่วงง่าย ก้านชูเกสรสีขาว มีกลิ่นหอมตลอดวัน ออกดอกเดือนเมษายนถึงสิงหาคม ผลรูปไข่แบน ปลายมีติ่งแหลม เมื่อแก่แตกออกเห็นเมล็ดสีดำ มีเยื่อหุ้มเมล็ดสีแดง มีอัตราการเจริญเติบโตปานกลางในดินร่วนระบายน้ำดี ชอบแสงแดดจัด ต้องการน้ำปานกลาง ทนแล้งและทนดินเค็มได้ดีขยายพันธุ์ด้วยการเพาะเมล็ด และปักชำกิ่ง การใช้งานและอื่นๆ : ปลูกเป็นไม้เลื้อยกระถางประดับรั้วหรือเลื้อยขึ้นซุ้ม ปลูกเลี้ยงง่าย
5. พลับพลึงดอกขาว
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Crinum asiaticum L.วงศ์ : Amaryllidaceae เป็นประเภทไม้ริมน้ำ ต้นมีหัวใต้ดิน เจริญเป็นกอ ใบเป็นรูปแถบใหญ่ หนา เรียวแหลม สีเขียวเข้ม โคนก้านซ้อนกันแน่นเป็นลำต้น มีดอกคล้ายพลับพลึงดอกแดง แต่มีกลีบดอกเรียวแหลม สีขาว มีกาบรองช่อดอกเป็นเยื่อบาง ๆ สีเหลือง บานจากดอกวงนอกเข้าหาดอกวงใน ช่วงใกล้ค่ำถึงเช้ามีกลิ่นหอม ออกดอกตลอดปี ดอกดกในช่วงฤดูฝน เติบโตได้ดีในดินเหนียวหรือดินร่วน ระดับน้ำ 10-20 ซม.ชอบแสงแดดครึ่งวันถึงเต็มวัน ขยายพันธุ์ด้วยการแยกกอ การใช้งานและอื่นๆ : ถ้าปลูกในที่แสงแดดจัดควรรดน้ำให้มาก ใบย่างไฟให้ร้อนใช้พันแก้ฟกช้ำ เคล็ดขัดยอก หรือใช้อยู่ไฟหลังคลอด
6. เฟื่องฟ้า หรือ ดอกกระดาษ
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Bougainvillea spp.and hybrid วงศ์ : Nyctaginaceae เป็นประเภทไม้พุ่มกึ่งเลื้อยขนาดใหญ่ อายุหลายปี ลำต้นยอดเลื้อยพาดได้ไกล 5 – 10 เมตรใบออกเวียนสลับรูปรีหรือรูปไข่ ปลายใบแหลม โคนใบมน ขอบใบเรียบ แผ่นใบหนาคล้ายแผ่นหนัง สีเขียว ก้านใบยาว มีหนามบริเวณโคนก้านใบ ดอกออกเป็นช่อกระจุกตามซอกใบและปลายยอด มีหลายสีสวยงาม โคนกลีบรวมเชื่อมติดกันเป็นหลอด ปลายแผ่แบน สีขาวครีม ออกดอกตลอดปี ดอกดกช่วงเดือนมีนาคมถึงพฤษภาคม มีอัตราการเจริญเติบโตที่เร็ว เติบโตได้ดีในดินร่วนปนทราย ชอบแสงแดดเต็มวัน ทนแล้ง ขยายพันธุ์ด้วยการเพาะเมล็ด ปักชำกิ่ง และตอนกิ่ง การใช้งานและอื่นๆ : เทคนิคทำให้ต้นออกดอกคือ งดให้น้ำ 5 – 7 วัน ใบจะเริ่มร่วง จากนั้นให้น้ำอย่างเต็มที่ ต้นจะผลิดอกบานสะพรั่ง,กลีบประดับนำมาชุบแป้งทอดกินเป็นของว่างได้
7. สนใบพาย
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Podocarpus polystachyus R.Br. ex Endl. วงศ์ : PODOCARPACEAE เป็นไม้ยืนต้นขนาดกลาง อายุหลายปี ไม่ผลัดใบ ทรงพุ่มรูปกรวยคว่ำ เมื่อแก่มีเนื้อไม้ที่แข็ง ลักษณะใบ เป็นใบเดี่ยว เรียงสลับ รูปใบหอก ปลายแหลม โคนสอบ ขอบเรียบ ก้านใบสั้นหรืออาจไม่มีก้านใบ แผ่นใบค่อนข้างหนา เป็นมัน ผิวเกลี้ยง สีเขียวเข้ม ดอกแยกเพศ ออกตามซอกใบ ดอกเพศผู้เป็นพวงยาวประมาณ 5 เซนติเมตร ดอกสีเหลือง เพศเมียดอกสีเขียว มีผล เป็นพืชเมล็ดเปลือย ไม่มีเนื้อผลและเปลือกหุ้มเมล็ด ฐานรองดอกเปลี่ยนเป็นสีแดงเมื่อรังไข่พัฒนาเป็นเมล็ด
8. หญ้าถอดปล้อง
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Equisetum debile Roxb. ex Vaucherวงศ์ : Equisetaceae เป็นประเภทพืชคล้ายเฟินน้ำ มีความสูงได้ถึง 1 เมตร ลำต้นเจริญเป็นพุ่มอยู่เหนือน้ำ มีเหง้าใต้ดิน ลำต้นเหนือดินกลม สีเขียวเข้ม มีข้อปล้องเห็นชัดเจน ใบลดรูปเป็นเกล็ดเล็ก ๆ เรียงรอบลำต้นตามข้อ แต่ละข้อแตกกิ่งก้าน 2 – 5 กิ่ง มีส่วน strobilus ที่ปลายลำ ลักษณะกลมรี ขนาดประมาณ 1 เซนติเมตร ภายในมีอับสปอร์ เจริญได้ดีในดินเหนียว ระดับน้ำ 5-10 ซม. ชอบแสงแดดรำไร ขยายพันธุ์ด้วยการแยกเหง้า หรือสปอร์ การใช้งานและอื่นๆในอินเดียใช้ทั้งต้นเป็นสมุนไพรรักษาโรคหนองใน นิยมใช้จัดสวนแนวโมเดิร์น
9. ชาฮกเกี้ยน
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Carmona retusa (Vahl.) Masum วงศ์ : Boraginaceae เป็นประเภทไม้พุ่ม มีความสูงตั้งแต่ 0.30 – 1 เมตร ลำต้นมีสีเขียวอมน้ำตาล ทรงพุ่มกว้าง ใบเดี่ยว รูปไข่กลับ ปลายหยัก 3 แฉก โคนใบสอบ ใบหนา สีเขียวเข้มเป็นมัน ดอกขนาดเล็กสีขาว 5 กลีบ ออกดอกตลอดปี ผลกลม สีเหลือง มีอัตราการเจริญเติบโตปานกลาง เติบโตได้ดีในดินร่วน ชอบน้ำปานกลาง ทนแล้งได้ดี แต่ไม่ทนน้ำท่วม ชอบแสงแดดรำไรถึงแดดจัด ขยายพันธุ์ด้วยการเพาะเมล็ด ปักชำกิ่งหรือตอนกิ่ง การใช้งานและอื่นๆ : ตัดแต่งทรงพุ่มเป็นรั้วบ้านได้ดี เพราะไม่ทิ้งใบโคนต้น นิยมปลูกเป็นไม้ตัดแต่งหรือปลูกเป็นแปลงใหญ่ในสวนหย่อม เพื่อให้มีสีเขียวตัดกับสีไม้ดอกชนิดต่างๆ
10. ไผ่
นักพฤกษศาสตร์ได้จัดไผ่ให้อยู่ในวงศ์ย่อยไผ่ (Subfamily Bambusoideae) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของวงศ์หญ้า (Family Poaceae หรือที่มีชื่ออนุรักษ์ หรือชื่อเดิมว่า Gramineae ) และบางท่านยังจัดจำแนกเป็นวงศ์ไผ่ (family Bambusaceae) ไว้โดยเฉพาะ เนื่องจากไผ่มีจำนวนสมาชิกมาก เพื่อให้ง่ายต่อการศึกษา นักพฤกษศาสตร์ ในอดีตได้อาศัยลักษณะทางสัณฐานวิทยาและลักษณะทางกายภาพเป็นหลักในการ จำแนกไผ่ออกเป็น 2 เผ่า (tribe) คือ เผ่าไผ่ล้มลุก (herbaceous bamboo; Tribe Olyreae) และเผ่าไผ่มีเนื้อไม้ (woody bamboo; Tribe Bambuseae) แต่ในปัจจุบันด้วยเทคโนโลยีต่าง ๆ ได้ก้าวหน้าไปมาก โดยเฉพาะเทคนิคการศึกษาทางด้านชีววิทยาโมเลกุลหรือการศึกษาดีเอ็นเอ (DNA) และเมื่อนำเทคนิคด้านชีววิทยาโมเลกุลมาศึกษาควบคู่กับข้อมูลทางด้านลักษณะทางสัณฐานวิทยา ลักษณะทางกายภาพ และข้อมูลทางด้านภูมิศาสตร์เข้ามาช่วยในการจัดจำแนกทำให้ในปัจจุบันเป็นที่ยอมรับกันว่า ควรจำแนกไผ่ออกเป็น 3 เผ่า ได้แก่ เผ่าไผ่ล้มลุก เผ่าไผ่มีเนื้อไม้เขตร้อน และเผ่าไผ่มีเนื้อไม้เขตอบอุ่น
ภาพ : คลังภาพบ้านและสวน
บทความที่เกี่ยวข้อง
ไม้เลื้อย สร้างร่มเงา บังแดด
ต้นไม้ทนแดด ต้นไม้ดูดความร้อน สำหรับให้ร่มเงา
ติดตามไอเดียบ้านและสวนเพิ่มเติมได้ทาง : บ้านและสวน Baanlaesuan.com