บ้านรีโนเวตของคนสามวัย
จากบ้านเก่าของครอบครัว ปรับโฉมสู่ บ้านรีโนเวตของคนสามวัย ให้ดูโปร่งโล่ง อบอุ่น อยู่สบาย ใช้งานสะดวกมากขึ้นสำหรับผู้สูงอายุ
บ้านเก่าปรับปรุงใหม่ของสมาชิกสามช่วงวัยซึ่งประกอบด้วย คุณแนท – นบพระพร สถาวิพัฒน์ เชฟทำขนมจากคาเฟ่แห่งหนึ่งในย่านสุขุมวิท คุณแม่วัยเกษียณ และคุณยาย รวมถึงคุณนัท น้องชายของคุณแนทที่แวะมาเยี่ยมเยียนเป็นประจำ บ้านรีโนเวตของคนสามวัย บรรยากาศแสนอบอุ่นหลังนี้เดิมทีเป็นบ้านเก่าอายุสี่สิบกว่าปีที่ถือเป็นพื้นที่ความทรงจำร่วมกันของทุกคนในครอบครัว ตามที่คุณแนทเล่าว่า “ตอนนั้นคุณป้า คุณแม่ คุณน้า สามพี่น้องย้ายจากต่างจังหวัดมาเรียนที่กรุงเทพฯ ก็เลยซื้อบ้านหลังนี้อยู่ด้วยกันค่ะ ต่อมาคุณป้าและคุณน้าแยกย้ายไปอยู่ที่อื่น เลยเหลือแค่ครอบครัวของคุณแม่ ส่วนแนทก็เกิดและโตที่บ้านหลังนี้ อยู่ที่นี่มาสามสิบกว่าปีแล้วค่ะ”
ปรับบ้านใหม่เพื่อสมาชิกสูงวัย
ก่อนหน้านี้บ้านผ่านการต่อเติมมาแล้วหลายครั้งโดยคุณพ่อ ผู้เคยทำอาชีพรับเหมาก่อสร้าง แต่เมื่อคุณพ่อจากไปบ้านก็เริ่มทรุดโทรมลง คุณแม่จึงตัดสินใจรีโนเวตบ้านใหม่ทั้งหมด นอกจากเพื่อให้สวยเหมือนใหม่และดูอบอุ่นน่าอยู่ขึ้นแล้ว จากประสบการณ์การได้ดูแลคุณพ่อที่ป่วย คุณแม่และลูกๆ พบว่าการจัดสรรพื้นที่ภายในบ้านเดิมไม่สะดวกสำหรับการใช้งานของผู้สูงอายุ จึงตั้งใจปรับปรุงบ้านใหม่ให้เหมาะกับผู้สูงวัยมากขึ้น และชวนคุณยายมาอยู่ด้วยกัน
คุณหนุ่ม – สิทธิชัย ชมภู สถาปนิกจาก PERSPACETIVE ตีโจทย์ที่ได้รับจากเจ้าของบ้าน โดยแบ่งพื้นที่การใช้งานออกเป็น 2 ส่วนหลักๆ ได้แก่ พื้นที่อยู่อาศัยชั้นล่าง ทั้งห้องนั่งเล่น ห้องรับประทานอาหาร ห้องครัว รวมถึงห้องนอนของคุณแม่และคุณยาย ซึ่งมีการปรับพื้นให้อยู่บนระดับเดียวกันทั้งหมด ตั้งแต่ทางเข้าบ้านจนถึงภายในห้องน้ำผู้สูงอายุ โดยกั้นพื้นทางเข้าห้องน้ำด้วยตะแกรงเหนือรางระบายน้ำแทนธรณีประตู เช่นเดียวกับพื้นที่อาบน้ำที่พื้นลาดเทเข้าไปด้านในแทนการลดระดับพื้น ทั้งหมดนี้เพื่อรองรับการใช้รถเข็นวีลแชร์ได้อย่างราบรื่นในอนาคต ส่วนพื้นที่ชั้นบนที่เป็นห้องนอนของคุณแนทและห้องนอนเล็ก ซึ่งคุณแม่และคุณยายไม่ได้ขึ้นไปใช้งานบ่อยๆ
จากเดิมที่ภายในบ้านดูอึดอัดมืดทึบ อีกหนึ่งความต้องการหลักจึงเป็นการปรับปรุงบ้านให้โปร่งโล่ง อยู่สบายขึ้น รวมถึงทำความสะอาดได้ง่าย โดยคุณหนุ่มปรับผังชั้นล่างให้ห้องนั่งเล่นและห้องรับประทานอาหารดูกว้างขึ้น และเชื่อมต่อกันจากหน้าบ้านไปสู่หลังบ้าน เพิ่มแสงธรรมชาติภายในด้วยหน้าต่างบานใหญ่หลายจุด แต่เพิ่มความเป็นส่วนตัวด้วยแผงระแนงไม้ทางหน้าบ้าน ตกแต่งภายในโดยเน้นตู้เก็บของบิลท์อินและเฟอร์นิเจอร์ลอยตัวน้อยชิ้น เพื่อความเรียบร้อยและสามารถทำความสะอาดได้ง่าย
โปร่งโล่งด้วยแสงธรรมชาติ
แสงสว่างถือเป็นองค์ประกอบสำคัญที่ทำให้บ้านดูโปร่งโล่ง ไม่อึดอัด ทุกห้องในบ้านจึงมีการออกแบบช่องแสงที่เหมาะสมกับการใช้งานในแต่ละจุด ตั้งแต่ทางเข้าบ้านที่แต่เดิมหันประตูทางเข้าไปทางที่จอดรถด้านข้างซึ่งมืดทึบ คุณหนุ่มจึงปรับให้ประตูหันไปทางด้านหน้าแทน ออกแบบโถงทางเข้าด้านในให้เป็นพื้นที่เล็กๆ สำหรับถอดและเก็บรองเท้าในบ้านตามความต้องการของคุณแนทที่ได้แรงบันดาลใจมาจากบ้านแบบญี่ปุ่น ซึ่งสามารถเดินเข้ามาถอดรองเท้าด้านในได้สะดวกกว่า อีกทั้งยังเพิ่มช่องแสงให้แสงส่องเข้ามาในบริเวณนี้ได้มากที่สุดด้วย เพื่อไม่ให้กลายเป็นมุมอับที่ยุงชอบ
ถัดจากทางเข้าบ้านเป็นห้องนั่งเล่นขนาดกะทัดรัดแต่ดูกว้างขวางด้วยแสงธรรมชาติ แม้หน้าต่างกระจกบานใหญ่จะเปิดรับวิวภายนอกอย่างเต็มที่ แต่ภายในยังคงมีความเป็นส่วนตัวด้วยแผงระแนงไม้ขนาดใหญ่ที่สามารถเลื่อนเปิด-ปิดได้ ซึ่งนอกจากช่วยบดบังสายตาแล้วยังทำหน้าที่เป็นฟาซาดที่สร้างจุดสนใจทางสถาปัตยกรรม และเป็นฉากหลังที่เพิ่มบรรยากาศอบอุ่นให้สวนหน้าบ้าน จากห้องนั่งเล่นมีประตูเชื่อมไปยังห้องนอนของคุณแม่และคุณยายที่แต่ก่อนเป็นส่วนต่อเติมลักษณะเป็นห้องกระจกทรงหกเหลี่ยม ซึ่งคุณหนุ่มออกแบบใหม่ให้ดูเรียบง่ายและลงตัวขึ้น โดยเน้นช่องแสงสกายไลต์จากด้านบนพร้อมติดตั้งม่านไฟฟ้า รวมถึงมีช่องหน้าต่างที่มองเห็นสวนด้านนอกผ่านระแนงไม้ด้วย
ลึกเข้าไปจากห้องนั่งเล่นเป็นห้องรับประทานอาหารที่เป็นเหมือนจุดศูนย์กลางของบ้าน มีประตูเชื่อมไปยังห้องครัวและมุมทำขนมด้านหลัง ซึ่งคุณหนุ่มจัดพื้นที่ใหม่ให้ดูกว้างขวางและเป็นสัดส่วนขึ้น โดยพื้นที่ครัวเชื่อมต่อกับมุมทำขนมเป็นผังรูปตัวแอล (L) ทะลุไปยังที่จอดรถด้านหน้าบ้าน เพิ่มแสงธรรมชาติให้เหมาะกับการทำงานของคุณแนทด้วยช่องแสงสกายไลต์ รวมถึงย้ายห้องน้ำที่เคยอยู่กลางบ้านออกไปและปรับปรุงเป็นห้องเก็บอาหารแห้งแทน
ตรงห้องรับประทานอาหารมีประตูบานเลื่อนที่เปิดไปยังช่องบันไดขึ้นชั้น 2 ของบ้าน ด้านบนประกอบด้วยห้องนอนของคุณแนท ซึ่งปรับปรุงจากห้องนอนเล็กสองห้องให้กลายเป็นห้องแต่งตัวและห้องนอนที่เชื่อมต่อกัน ห้องนอนก็เป็นอีกจุดหนึ่งที่คุณแนทได้แรงบันดาลใจมาจากบ้านแบบญี่ปุ่น โดยให้คุณหนุ่มออกแบบเป็นพื้นยกสูงสำหรับวางที่นอนแทนการใช้เตียง และติดตั้งลิ้นชักเก็บของด้านล่างสำหรับใส่เครื่องนอนต่างๆ
ด้านข้างมองเห็นสวนหน้าบ้านจากช่องหน้าต่าง แต่คงความเป็นส่วนตัวด้วยฟาซาดระแนงไม้
เสน่ห์ของบ้านรีโนเวต
“บ้านเดิมมีดีไซน์และโครงสร้างที่ดีอยู่แล้ว เราเลยพยายามไม่ไปเปลี่ยนแปลงอะไรมากนัก อะไรที่ดีอยู่แล้วก็เก็บไว้ อะไรที่ไม่ลงตัวก็เปลี่ยนใหม่ เหมือนการทำอาหารครับ ต้องดูว่าจะทำอย่างไรให้กลมกล่อม ดึงเสน่ห์ของเดิมที่มีออกมาให้ได้มากที่สุด” แนวคิดในการปรับปรุงบ้านเก่าของคุณหนุ่มสะท้อนออกมาในบ้านรีโนเวตใหม่หลังนี้ ที่ยังคงเห็นรูปลักษณ์ของบ้านเดิมได้ชัดเจนจากภายนอก โดยเฉพาะบริเวณชั้น 2 ที่เน้นเก็บรายละเอียดให้ดูเรียบร้อย ปรับโทนสีและวัสดุให้ดูอบอุ่นสบายตาขึ้น
การตกแต่งภายในยังคงไว้ซึ่งองค์ประกอบเดิมของบ้านด้วยเช่นกัน อย่างพื้นไม้เดิมบริเวณชั้นล่างที่ทำสีใหม่ให้เข้ากับพื้นไม้ใหม่ที่นำมาปูเพิ่มเติม เพดานชั้นล่างที่เปิดให้เห็นโครงสร้างพื้นไม้ชั้น 2 โชว์โครงสร้างเหล็กเสริมและร่องรอยของผนังเก่าที่ถูกทุบออกไปได้อย่างน่าสนใจ รวมถึงประตูบานเลื่อนที่เปิดสลับระหว่างทางขึ้นชั้นบนกับห้องเก็บของใต้บันได ซึ่งเป็นบานไม้เดิมที่คุณพ่อเคยแกะสลักด้วยตัวเอง ครอบครัวจึงอยากเก็บเอาไว้โดยนำมาทาสีใหม่ให้ดูลงตัวกับบรรยากาศภายในบ้าน
สำหรับคุณแนทและครอบครัว บ้านไม่ได้เป็นเพียงแค่ที่อยู่อาศัย แต่เป็นพื้นที่ความทรงจำที่ทุกคนอยากปรับปรุงให้ยังคงอยู่ต่อไปนานๆ การรีโนเวตบ้านจึงต้องคำนึงถึงการใช้งานในระยะยาว สอดคล้องกับแนวคิดของคุณหนุ่มที่เคยปรับปรุงบ้านมาแล้วหลายหลังว่า การรีโนเวตบ้านแต่ละครั้งจำเป็นต้องดูรายละเอียดและทำความเข้าใจกับความต้องการของลูกค้าให้ได้มากที่สุด ซึ่งสำหรับบ้านหลังนี้ ผลลัพธ์ก็ออกมาถูกใจเจ้าของบ้านมากๆ ตามที่คุณแนทกล่าวว่า “ชอบทุกมุมเลยค่ะ นั่งตรงไหนก็รู้สึกว่านี่แหละที่เราเคยคุยกับสถาปนิกเอาไว้ ประทับใจที่คุณหนุ่มเข้าใจถึงความต้องการของเรา เน้นปรับดีไซน์ใหม่ให้เข้ากับบ้านเดิม ไม่ฉีกออกไปมากนัก เราเองก็ยังอยากคงความเป็นบ้านหลังเดิมไว้ เพราะบ้านหลังนี้คือความทรงจำของเราตั้งแต่เกิดค่ะ”
เจ้าของ : คุณนบพระพร สถาวิพัฒน์
ออกแบบ : PERSPACETIVE โดยคุณสิทธิชัย ชมภู
เรื่อง : Tinnakrit
ภาพ : ฤทธิรงค์ จันทองสุข
สไตล์ : Suanpuk
