จับงานคราฟต์มาแต่งบ้านอย่างไรให้โดดเด่น
จากความนิยมในการแต่งบ้านสไตล์โมเดิร์น ส่งต่อมาที่สไตล์ลอฟท์ และสุดท้ายจบลงที่ งานคราฟต์ ศิลปะการแต่งบ้านในเชิงงานฝีมือ ที่สะท้อนคุณค่างานหัตถศิลป์ ที่หยิบเอาเรื่องราวและวิธีการผลิตแบบดั้งเดิมมาสร้างสรรค์ให้ดูร่วมสมัย แต่จะใช้งานคราฟต์แต่งบ้านอย่างไร ให้ดูน่าอยู่ ไอเดียเก๋ สะดุดตา เรามีไอเดียแต่งบ้านสไตล์คราฟต์ทั้ง 4 แบบมาแนะนำ
1. Asian of The World งานคราฟต์ สัมผัสความงามจากอาเซียน
รูปแบบเรียบง่ายผสานความอบอุ่นของสไตล์เอเชีย โดยเฉพาะกลิ่นอายของภูมิภาคอาเซียนที่มักถูกดึงไปประยุกต์เข้ากับงานออกแบบสมัยใหม่อยู่เสมอ ด้วยเอกลักษณ์เฉพาะตัว เข้ากับวิถีชีวิตอันเรียบง่าย รวมถึงการออกแบบที่มีแนวคิดแบบยั่งยืน สร้างสรรค์ให้ดูสวยงามเข้ากับยุคสมัย มีการเชื่อมโยงกับภูมิปัญญาท้องถิ่น ดึงความน่าสนใจของงานฝีมือที่คุ้นเคย ไม่ว่าจะเป็นงานทอมือ งานจักรสาน งานย้อมผ้าหรืองานไม้ นำมาพัฒนาต่อให้มีรูปแบบทันสมัย ตอบโจทย์การใช้งาน เมื่อย้อนกลับไป 10 ปีที่แล้ว สีที่ชวนให้นึกถึงความเป็นอาเซียนได้ คือสีสันสดใสอาทิ แดง น้ำเงิน แต่ในช่วงสองปีที่ผ่านมา โทนสีธรรมชาติที่ดูละเมียดละไมเลียนแบบและดูเข้าใกล้ธรรมชาติกลายเป็นความนิยมที่สุดในช่วงเวลานี้ ลองประยุกต์ใช้เครื่องจักรสานแทนการใช้โคมไฟโลหะ หรือตู้โบราณใบเก่าปรับใหม่ให้เป็นที่เก็บของ
2. Ethnic Accents ย้อนรอยชนเผ่าปรุงแต่งเป็นงานร่วมสมัย
งานฝีมือที่มีกลิ่นอายความเป็นชนเผ่าซึ่งมีอารยธรรมเฉพาะตัว โดยต่อยอดจากภูมิปัญญาดั้งเดิมให้เกิดเป็นชิ้นงานที่มีเอกลักษณ์ มีการค้นคว้าลวดลายเดิมหรือลวดลายที่เห็นจนชินตานำไปผสมผสานขึ้นเป็นงานกราฟิกหรือจัดองค์ประกอบของลวดลายใหม่ ให้ความรู้สึกหรูหรางดงาม ความโดดเด่นสะดุดตาของงาน Ethnic คือการจับคู่โทนสีสดให้ดูเข้ากับวัสดุที่เลือกใช้ ช่วยยกระดับงานพื้นถิ่นให้ดูเป็นสากลยิ่งขึ้น เทรนด์สีงานประจำปีนี้เน้นความจัดจ้าน อาจเลือกใช้โทนสีตัดกันอย่างสีคู่ตรงข้าม เช่นสีม่วง-เหลือง หรือสีฟ้าสดและสีส้ม งาน Ethnic แม้จะดูซับซ้อนแต่งบ้านยาก แต่ด้วยความซับซ้อนทำให้เราสร้างเลเยอร์ทับซ้อนได้เรื่อยๆ จนกลายเป็นความกลมกล่อมของห้อง การเลือกใช้หมอนหรือผ้าลายพื้นถิ่นปูลงในบริเวณห้องนั่งเล่นไม่กี่ชิ้น บ้านก็เปี่ยมไปด้วยสีสัน
3. Art of Nature แรงบันดาลใจจากธรรมชาติ
การใช้วัสดุจากธรรมชาติ มาเป็นแรงบันดาลใจอาทิ ท้องฟ้า ต้นไม้และหิน หรือการแสดงให้เห็นความงามและคุณสมบัติของวัสดุได้ชัดเจนยิ่งขึ้น เอกลักษณ์ของงานคือการเห็นคุณค่าของเนื้อแท้แห่งวัสดุ โดยเลือกใช้วัสดุที่เกิดการสร้างเท็กซ์เจอร์จากธรรมชาติ เช่นไม้ที่มีรอยแยกหรือเกิดจากร่องรอยตามธรรมชาติ หินที่เกิดจากการกัดกร่อนหรือกระเทาะ หากมองให้ดีจะเห็นความงามในเนื้อแท้ ที่ไม่ต้องดัดแปลงหรือปรุงแต่งมาก สามารถเติมต่อจิตนาการการออกแบบให้ดูทันสมัยและไม่มีวันตกยุคได้เสมอ รอยแตกรอยแยกของไม้ที่เก่าและไม่สมบูรณ์มีค่าเสมอเมื่อถูกจัดวางให้เข้าที่เข้าทาง
4. Crafty Creation หัตถกรรมเชิงช่าง
เทคโนโลยีอันทันสมัยก่อให้เกิดการพัฒนาและคิดค้นทดลองวัสดุใหม่ๆ โดยมีรากฐานมาจากงานอุตสาหกรรม ความหลงใหลในอุปกรณ์เครื่องมือทำงานช่าง สร้างแรงบันดาลใจให้คิดหารูปแบบวิธีการที่มีอัตลักษณ์ จนได้เทคนิคที่แตกต่างและนำมาใช้ควบคู่กับวิถีการผลิตแบบดั้งเดิมจนเกิดเป็นวัสดุใหม่รูปทรงมีสไตล์ โดยใช้วัสดุประเภทหนัง ไม้หรือโลหะบางชิ้นงานมีการผสมผสานกันจากวัสดุถึงสองชนิด ช่วยเพิ่มสีสันและสร้างนิยามใหม่ให้กับการแต่งบ้านยุคปัจจุบัน
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพจากหนังสือ: SACICT Craft Trend 2016, room,my home และ pinterest