สถาปนิกแปลงโฉม บ้านเก่า อายุ 60 ปี จนได้รับรางวัลบ้านน่าอยู่ปี 2019
บ้านเก่า อายุร่วม 60 ปีหลังนี้ นอกจากจะมีสภาพทรุดโทรมแล้วยังมีฟังก์ชันที่ไม่เหมาะกับชีวิตสมัยใหม่ ทั้งยังมีปัญหาน้ำท่วมเข้าบ้านช่วงฤดูฝน เจ้าของบ้านซึ่งเป็นสถาปนิกจึงจัดการแปลงโฉมบ้านโดยมีโจทย์หลักคือเก็บบ้านหลังเดิมไว้ และสร้างบ้านเพิ่มขึ้นมาอีกหลังปรับพื้นที่ใช้งานหลักมาอยู่บนชั้นสองเพื่อหนีน้ำท่วมโดยใช้ผลิตภัณฑ์ของ เฌอร่า เป็นพระเอกหลักในการสร้างบ้านทั้งหลัง ทั้งสวยทนทาน ติดตั้งง่าย ที่สำคัญไม่ต้องกลัวน้ำต่อไป
เมื่อ บ้านเก่า ที่อยู่มานานเริ่มทรุดโทรม ประกอบกับมีปัญหาน้ำท่วมเข้าบ้านช่วงที่เกิดฝนตกทำให้เจ้าของบ้านทั้งสองท่านคุณสมฤทธิ์และคุณพอลลีน สุนทรรังษี สถาปนิกและอินทีเรียร์ดีไซเนอร์ตัดสินใจรีโนเวทบ้านครั้งใหญ่ โดยปรับเปลี่ยนบ้านหลังเก่าที่สร้างมาตั้งแต่ 60 ปีก่อน ให้กลายเป็นบ้านสไตล์โมเดิร์นลอฟท์สีดำสุดเท่ โดยไว้วางใจใช้ผลิตภัณฑ์จากเฌอร่ามาเป็นวัสดุหลักในการออกแบบตกแต่งบ้านทั้งหลัง
บ้านหลังนี้ตั้งอยู่ในเขตสาทรทำเลใจกลางเมืองคุณสมฤทธิ์เล่าว่าคุณแม่ของเขาสร้างบ้านเมื่อปี พ.ศ. 2505 แม้ว่าจะมีการปรับปรุงภายในมาบ้าง แต่ก็ไม่ได้ทำอะไรมากมายนักการปรับปรุงบ้านในครั้งนี้ถือว่าเป็นครั้งใหญ่ ที่เปลี่ยนโฉมหน้าตาบ้านโดยสิ้นเชิงซึ่งบ้านหลังนี้ยังได้รับรางวัล 10 บ้านน่าอยู่ประจำปี พ.ศ. 2562 จากนิตยสารบ้านและสวนอีกด้วย
“ปัญหาที่เจอคือพอฝนตกหนักทีไรน้ำท่วมเข้าบ้านแทบจะทุกครั้ง เราเบื่อที่จะต้องมาทำความสะอาดเลยคิดว่าออกแบบและสร้างใหม่เลยเป็นบ้านตึกทั้งหลัง ทีนี้ลูกสาวซึ่งอยู่บ้านหลังนี้มาแต่เล็กๆ บอกว่าอย่ารื้อเลยเขาคิดถึงบ้านเดิมก็เลยเป็นแรงบันดาลใจให้เก็บบ้านไว้และมีบ้านใหม่มาเชื่อมกัน เป็นคอนเซ็ปต์ Before & After ให้พื้นที่บ้านเชื่อมต่อกันเป็นเนื้อเดียวทั้งหมดอย่างกลมกลืน มีลักษณะของความสัมพันธ์กันขององค์ประกอบสถาปัตยกรรมของตัวอาคาร เช่น รูปร่าง รูปทรง ที่นำมาประกอบเข้าด้วยกันอย่างมีเอกภาพ ตลอดจนการประสานสัมพันธ์กับพื้นที่ใช้สอยภายในให้ได้ประโยชน์สูงสุด” คุณสมฤทธิ์อธิบายที่มาของการรีโนเวทบ้านหลังนี้
เพราะเป็นนักออกแบบทั้งคู่เจ้าของบ้านทั้งสองท่านแบ่งหน้าที่กันชัดเจน คุณสมฤทธิ์เป็นสถาปนิกออกแบบลักษณะโครงสร้าง และสถาปัตยกรรมภายนอกส่วนคุณพอลลีน รับหน้าที่ตกแต่งภายใน โดยมีแนวคิดในการออกแบบดังนี้
- คงโครงสร้างบ้านหลังเก่าไว้แต่รื้อหลังคาออกและยกหลังคาใหม่ขึ้นไปสูงจากเดิม ทำให้บ้านดูโปร่งส่วนบ้านหลังใหม่ใช้โครงสร้างเหล็กเพื่อให้ก่อสร้างได้รวดเร็วดีไซน์เป็นบ้าน 3 ชั้นครึ่ง
- วางตำแหน่งตัวบ้านโดยคำนึงถึงความสอดคล้องกับทิศทางแดด และลมมีการต่อยื่นหน้าบ้านส่วนบ้านเก่าออกมาให้เยื้องกับบ้านใหม่ เพื่อดักลมขณะเดียวกันตำแหน่งหน้าต่างก็อยู่ในทิศทางที่ลมจะพัดผ่านเข้าบ้านได้สะดวก ทำให้ภายในบ้านเย็นสบายแม้ไม่เปิดเครื่องปรับอากาศ
- เปิดสเปซระหว่างบ้านสองหลังให้มีคอร์ตยาร์ดตรงกลาง ไม่ว่าจะอยู่จุดไหนก็จะเห็นพื้นที่สีเขียวได้ทั้งหมด ส่วนภายในมีการเชื่อมต่อระหว่างบ้านทั้งสองส่วนเข้าด้วยกัน เมื่ออยู่ในบ้านแทบไม่รู้สึกว่าส่วนไหนคือบ้านเก่าและใหม่
- ยกส่วนลิฟวิ่งทั้งหมดมาอยู่บนชั้นสอง ทั้งส่วนนั่งเล่น รับแขก ครัวรับประทานอาหาร และห้องนอนเพื่อสร้างความเป็นส่วนตัวในการใช้งานขณะเดียวกันก็ไม่ต้องกังวลเรื่องปัญหาน้ำท่วมอีกต่อไป
เจ้าของบ้านทั้งสองท่านยังให้ความสำคัญกับการเลือกใช้วัสดุ โดยเลือกใช้ผลิตภัณฑ์จากเฌอร่าแทบทุกส่วนตั้งแต่ผนังภายในและนอกบ้านพื้นในบ้าน ฝ้าเพดาน จนกระทั่งหลังคาบ้าน ด้วยเหตุผลที่ว่าดูแลง่าย ติดตั้งได้รวดเร็ว ที่สำคัญคือสวยงามและทันสมัยรับกับบ้าน
“เรามองว่าเฌอร่าเป็น Future Home Renovation Products ผลิตภัณฑ์ของเฌอร่าตอบโจทย์ทุกอย่าง เพราะมีวัสดุที่ครบวงจรสามารถนำมาประยุกต์ใช้กับบ้านหลังใหม่ได้แทบทั้งหมด นอกจากจะใช้งานได้ดีแล้วยังออกมาสวยตามที่ต้องการ ข้อดีอีกแง่หนึ่งของการก่อสร้างคือถ้าเป็นไม้จริงเราไม่สามารถจะได้ไม้ขนาดเท่ากันพอดีเพื่อจะนำมาใช้งาน แต่ผลิตภัณฑ์ของเฌอร่าที่ออกมาจากโรงงานทุกแผ่นมีขนาดที่เท่ากันไดเมนชั่นแม่นยำ ยกตัวอย่างไม้ฝาสเปลนดิด เฌอร่าทำให้สามารถคำนวณก่อนเพื่อนำมาติดตั้งได้ลงตัวพอดีกับผนัง การก่อสร้างจึงง่าย สะดวกรวดเร็ว และที่สำคัญในแง่ของความรู้สึกก็ให้สัมผัสแบบไม้จริง” คุณสมฤทธิ์เสริมเพิ่มเติม สำหรับการนำผลิตภัณฑ์จากเฌอร่ามาใช้งานและเลือกใช้เฌอร่าสร้างบ้านทั้งหลัง
- ส่วนบ้านเก่ามีการรื้อหลังคาออกทั้งหมด ปรับสโลปใหม่จากเดิม 12 องศา เป็น 35 องศา โดยยกจั่วสูงขึ้นจากเดิมอีก 5 เมตร และเลือกใช้หลังคาเฌอร่า วีสเลท สีดำ รุ่น Limited editionซึ่งมีรูปแบบคล้ายกระเบื้องว่าวสมัยก่อน ส่วนบ้านหลังใหม่ใช้กระเบื้องหลังคาไตรลอนคูล ตราห้าห่วงให้ดูโดดเด่นจากความแตกต่างกัน
- ตัวบ้านภายนอกเลือกใช้ไม้ฝาสเปลนดิด เฌอร่า ข้อดีคือสามารถซ้อนบังใบได้ จึงไม่มีปัญหาเรื่องน้ำย้อนเข้ามาโดยส่วนใหญ่ไม้ฝาสแปนดิดมักจะใช้งานในแนวนอน แต่เจ้าของบ้านนำมาประยุกต์ใช้ในแนวตั้งซึ่งดูสวยงาม แปลกตา และทันสมัยนอกจากนี้ยังมีการนำไม้ฝาสเปลนดิด เฌอร่าทำสีดำมาใช้ภายในบ้านบางจุดด้วยเช่นกัน ดีเทลของลวดลายไม้ตัดกับผนังสีขาวเรียบ ๆทำให้ดูมีลูกเล่น
- ใช้บันไดโครงเหล็กปูพื้นบันได เฌอร่า ซึ่งมีความแข็งแรงทนทาน สามารถรับน้ำหนักได้ดีโดยไม่เปราะแตกหักง่าย
- บนชั้น 2 และ 3 ปูไม้พื้นเฌอร่าทำสีดำพิเศษเกือบทั้งหมด ขับให้บ้านดูทันสมัยแปลกตากว่าพื้นไม้สีธรรมชาติทั่วไป
- ส่วนฝ้าเพดานเลือกใช้แผ่นตกแต่ง เฌอร่าบอร์ดลายเสี้ยนเซาะร่องวี ทำสีขาว กรุตามแนวสโลปของหลังคาทำให้บ้านดูโปร่งกว้าง
- เลือกใช้แผ่นไม้อัด เฌอร่าซึ่งใช้งานได้ดีเหมือนไม้อัดแต่มีคุณสมบัติทนน้ำและปลวก มาใช้กับงานบิลท์อินและปิดทับผิวด้วยแผ่นลามิเนต
- บนชั้นลอยใช้แผ่นพื้น เฌอร่าบอร์ดหนา 20 มิลลิเมตร ติดตั้งง่าย น้ำหนักเบากว่าการเทปูนพื้นคอนกรีต จึงไม่สร้างภาระให้โครงสร้าง
การเลือกใช้โทนสีดำเป็นหลักมาจากไอเดีย และความชอบของคุณพอลลีนทั้งหมดวัสดุทุกอย่างที่นำมาใช้จึงทำสีดำตามไปด้วย ภายในบ้านตกแต่งสไตล์มิกซ์แอนด์แมตซ์แม้จะมีสีสันเรียบ ๆ แต่ก็มีดีเทลเก๋ ๆ สมกับบุคลิกของเจ้าของบ้าน มีการใช้งานชั้นล่างเป็นออฟฟิศ เมื่อขึ้นมาชั้นบนจะเห็นการออกแบบพื้นที่ของบ้านเก่า และบ้านใหม่เชื่อมต่อกันและใช้งานแบบมัลติฟังก์ชั่นทั้งส่วนนั่งเล่น ส่วนรับประทานอาหาร และครัว ส่วนชั้นสามออกแบบเป็นพื้นที่ส่วนตัวของลูกสาว มีทั้งห้องนอน ส่วนพักผ่อนพร้อมชั้นลอยเล็กๆสำหรับเก็บหนังสือ เชื่อมต่อออกไปยังระเบียงกว้างได้สะดวก
“สมัยก่อนเราจะเห็นว่าไม้พื้นที่เป็นไม้สังเคราะห์นิยมใช้ปูระเบียงนอกบ้านมากกว่าซึ่งจริงๆ แล้วมันใช้ภายในบ้านได้เหมือนกันแถมยังใช้งานได้ทนกว่าภายนอกด้วย พอปูเสร็จแล้วก็ดูเหมือนไม้จริง หรืออย่างชั้นลอยเราก็ใช้แผ่นพื้นเฌอร่าบอร์ดหนา 20 มิลลิเมตรปูพื้นไปเลย เพราะเราต้องการความแข็งแรง แล้วก็โชว์สีดิบเหมือนปูนเปลือยด้วย”
“ตัวผลิตภัณฑ์ยังเอาไปประยุกต์ใช้งานอื่น ๆได้อีกมากมายหลายแบบ ที่ได้ลองทำคือใช้ไม้ฝาสเปลนดิดติดตั้งส่วนจั่วหลังคา ข้างประตูรั้วหน้าบ้าน รวมทั้งไม้มอบ เฌอร่าเอามาตกแต่งกำแพงรั้วซีเมนต์เดิม ออกมาเป็นแพทเทิร์นน่าสนใจ” คุณสมฤทธิ์ให้ความเห็นในการนำผลิตภัณฑ์มาสร้างสรรค์ใช้ในรูปแบบอื่น ๆ
“ถ้าบ้านของเราใช้ไม้ทั่วไปเวลาฝนตกเราก็อาจจะกลัวว่าฝนสาดแล้วจะมีพื้นเสียหาย แต่ไม้พื้นเฌอร่าทำให้เราไม่ต้องกังวล เป็นอีกจุดที่แม้จะเล็กแต่เราอยู่จริงก็รู้สึกว่าตอบโจทย์ อีกอย่างความคงทนของผลิตภัณฑ์ ทั้งทนน้ำ ปลวกจะอยู่กับเราไปอีกนานเป็นสิ่งสำคัญ” คุณพอลลีนเสริมเพิ่มเติมพร้อมบอกกับเราว่าเมื่อบ้านสร้างเสร็จเรียบร้อย ก็ทำให้การอยู่อาศัยตอบรับกับไลฟ์สไตล์อย่างที่ต้องการ
“การเปลี่ยนมาใช้ชีวิตหลักบนชั้นสองมันเป็นมุมมองใหม่นะ เดิมตอนอยู่บ้านเก่าเราอยู่ชั้นล่างมาตลอด บางทีเราก็ไม่ได้เปิดประตูหน้าต่างเพราะกลัวฝุ่นหรืออะไรต่างๆ แต่พอขึ้นมาอยู่ชั้นสองมันต่างออกไป มันเปลี่ยนมุมมองและการใช้ชีวิตไปเลย” คุณพอลลีนทิ้งท้ายด้วยน้ำเสียงเจือไปด้วยความสุข
สำหรับผู้ที่สนใจการออกแบบและปรับปรุงบ้านสามารถติดต่อและสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
Design Com-bini Co.,Ltd โทรศัพท์ 081-614-6766, 081-916-4176
รับชมภาพบ้านสวยๆ เพิ่มเติม https://youtu.be/v5lXTpsK6pM