ติดแอร์ ระยะการเดินท่อน้ำยาแอร์ยาวๆ มีผลเสียหรือไม่
หลายเรื่องที่ยังคงเป็นปัญหากับผู้ที่เริ่มต้นจะ ติดแอร์ จากคำถามที่ทางบ้านถามเข้ามาว่า เพิ่งทำ การติดตั้งแอร์ ระยะการเดินท่อน้ำยาแอร์ ยาวๆ มีผลเสียหรือไม่ บ้านและสวนเรามีคำตอบมาช่วยตัดสินใจครับ
Q : เพิ่งทำ การติดตั้งแอร์ ในบ้าน และด้วยข้อจำกัดของพื้นที่ทำให้ต้องติดตั้งตัวปรับอากาศภายใน หรือคอยล์เย็นห่างจากตัวคอนเดนซิ่งยูนิตหรือคอยล์ร้อนที่ติดตั้งอยู่ภายนอกบ้านค่อนข้างมาก มีหลายคนบอกว่า ระยะการเดินท่อน้ำยาแอร์ ยาวๆ นั้นมีผลเสียต่อการทำงานของเครื่องปรับอากาศ อยากทราบว่าควรเดินระยะท่อน้ำยาแอร์มากที่สุดไม่เกินเท่าไร เพื่อไม่ให้เกิดผลเสีย
A: การเดินท่อน้ำยาแอร์ยาวเกินไปส่งผลทำให้คอมเพรสเซอร์ซึ่งเป็นตัวอัดแรงดันน้ำยาแอร์ต้องทำงานหนักขึ้น เพราะต้องเพิ่มแรงดัน รวมไปถึงการเสียพลังงานจากความต้านทานในท่อที่มากขึ้น จึงไม่แปลก หากแอร์จะกินไฟมากขึ้นแต่ไม่ได้ความเย็นเท่าที่ควร ในที่สุดตัวคอนเพรสเซอร์จะเสื่อมสภาพเร็วกว่าปกติ
สำหรับคำถามที่ว่าจะเดินระยะท่อน้ำยาแอร์เท่าใด จึงจะมีประสิทธิภาพมากที่สุดนั้น อาจตอบได้ไม่ชัดเจนนัก เนื่องจากเครื่องปรับอากาศในแต่ละ ยี่ห้อ ต่างรุ่น ต่างขนาดและบีทียูต้องการระยะท่อน้ำยาแอร์ที่แตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับอุปกรณ์และ เทคโนโลยีที่ผู้ผลิตนำมาใช้
แต่เราสามารถตรวจสอบระยะที่เหมาะสมของท่อน้ำยาแอร์ในแต่ละรุ่น ได้ในคู่มือประกอบการติดตั้งที่แถมมาด้วย โดยจะมีระบุไว้อย่างละเอียด รวมไปถึงข้อมูลอื่นๆ เกี่ยวกับการติดตั้งเครื่องปรับอากาศที่น่าสนใจ เช่น การเลือกตำแหน่งการติดตั้งเครื่อง ปรับอากาศที่เหมาะสม และระยะเว้นต่างๆ โดยรอบตัวคอมเพรสเซอร์เพื่อช่วยยืดอายุการใช้งาน ให้ยาวนานขึ้น
แต่โดยทั่วไปแล้วเครื่องปรับอากาศขนาดเล็กแบบติดผนังที่นิยมใช้กันภายในบ้านซึ่งมีบีทียูระหว่าง 9,000 – 12,000 บีทียู จะมี ระยะการเดินท่อน้ำยาแอร์ โดยเฉลี่ยอยู่ที่ไม่ควรเกิน 10 – 15 เมตร สำหรับการเดินท่อในแนวนอน และไม่เกิน 5 เมตร สำหรับการเดินท่อในแนวตั้ง และอย่างน้อยที่สุดควรมีระยะของท่อน้ำยาแอร์ไม่น้อยกว่า 3 เมตร เพราะน้ำยาแอร์อาจหมุนเวียนได้ไม่ดีหากมีระยะน้อยเกินไป นอกจากนี้สิ่งสำคัญอีกจุดหนึ่งคือท่อน้ำยาแอร์ที่ต่อให้ยาวขึ้น จำเป็นต้องเติมน้ำยาแอร์เพิ่มขึ้นตามสัดส่วนที่เหมาะสมด้วยนะครับ
TIP: ใช้เครื่องปรับอากาศอย่างไรให้ประหยัดพลังงาน
ปรับระดับอุณหภูมิให้เหมาะสมกับห้อง โดยตั้งอุณหภูมิอย่าให้เย็นเกินไปเป็นสิ่งหนึ่งที่จะช่วยในเรื่องของการประหยัดพลังงาน เพราะทุกองศาของอุณหภูมิที่เพิ่มขึ้นหมายถึงการประหยัดค่าใช้จ่ายลงได้ ซึ่งระดับอุณหภูมิที่เหมาะสมควรอยู่ที่ประมาณ 25-26 องศาเซลเซียส และหมั่นบำรุงรักษาความสะอาดแผ่นกรองอากาศและขดลวดอย่างสม่ำเสมอ และควรให้ช่างบริการมาตรวจเช็กสภาพเครื่องปรับอากาศครั้งใหญ่อย่างน้อยปีละครั้ง เพื่อช่วยยืดอายุการใช้งานของเครื่องปรับอากาศให้ยาวนานยิ่งขึ้น
ฤดูร้อนมาถึงแล้วไปดูวิธีล้างแอร์กัน
คำนวณเครื่องปรับอากาศให้เหมาะกับห้อง
ไอเดียแต่งหน้ากากแอร์ให้บ้านสวยไม่จำกัด