ปลูกต้นไม้อย่างรู้ทิศทาง ดับร้อนให้บ้านอย่างถูกวิธี
ปลูกต้นไม้ อย่างรู้ทิศทาง ดับร้อนให้บ้านอย่างถูกวิธี
เคยสงสัยไหมว่าเรา ปลูกต้นไม้ ในสวน แต่ทำไมต้นไม้บางต้น ต่อให้เรารดน้ำ พรวนดิน ใส่ปุ๋ย และดูแลเป็นอย่างดี แต่กลับไม่เจริญเติบโตหรืองดงามเท่ากับอีกบริเวณหนึ่งของสวน นั่นเป็นเพราะ Microclimate หรือภูมิอากาศเฉพาะพื้นที่ที่มีความแตกต่างกัน ทั้งเรื่องแสง ความชื้น อุณหภูมิ และทิศทางลม การที่เรารู้ว่าในแต่ละบริเวณของบ้านมีสภาพอากาศตลอดทั้งปีเป็นอย่างไร ก็จะทำให้รู้จักการเลือกใช้ต้นไม้ให้เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมนั้น ๆ ซึ่งจะส่งผลดีต่อผู้อยู่อาศัยและสิ่งปลูกสร้าง ปลูกต้นไม้อย่างรู้ทิศทาง
บ้านและสวนขอนำเสนอวิธีการสร้างสภาวะน่าสบายนอกบ้านด้วยการปลูกต้นไม้อย่างรู้ทิศทาง เพื่อเปลี่ยนพื้นที่กลางแจ้งอันร้อนอบอ้าวให้กลายเป็นมุมที่น่านั่งทุกช่วงเวลา
Microclimate
คำว่า “Weather” และ “Climate” มีความแตกต่างกัน “Weather” หมายถึง ฝนฟ้าอากาศทั่วไปประจำวัน “Micro” ในทางวิชาการเรียกว่า “จุล” ซึ่งแปลว่ามีขนาดเล็ก “Climate” หรือ “Macroclimate” หมายถึง สภาพอากาศประจำท้องถิ่นหรือสภาพอากาศตลอดทั้งปีที่เปลี่ยนแปลงไปตามฤดูกาล “Microclimate” จึงหมายถึงสภาพอากาศในพื้นที่เล็กๆ เฉพาะที่ ยกตัวอย่างเช่น สภาพอากาศภายในบ้าน ซึ่งความหมายของคำว่าเล็กในที่นี้อาจหมายถึงมุมตึก พื้นที่หลังบ้าน หรือใต้ก้อนหินก็ได้ เมื่อเทียบกับพื้นที่โดยรอบทั้งหมด
ดับร้อนด้วยต้นไม้
ด้วยสภาพภูมิอากาศร้อนชื้นของบ้านเรา การสร้างพื้นที่สีเขียวจำนวนมากเป็นวิธีช่วยลดอุณหภูมิของบ้านในช่วงกลางวันได้มีประสิทธิภาพที่สุด เพราะต้นไม้ใช้พลังงานความร้อนจากดวงอาทิตย์ในการดำรงชีวิต น้ำจากใต้ดินคือแหล่งวัตถุดิบชั้นเลิศในกระบวนการปรุงอาหาร อันเป็นปัจจัยสำคัญต่อการเจริญเติบโตของพืช ช่วยละลายธาตุอาหารในดิน ทำให้รากดูดอาหารไปหล่อเลี้ยงส่วนต่างๆของลำต้นได้ น้ำที่ระเหยจากการคายน้ำทางใบยังช่วยดูดความร้อนจากบรรยากาศ ทำให้อุณหภูมิบริเวณนั้นลดลงได้ 3-5 องศาเซลเซียสเลยทีเดียว ว่ากันว่าต้นไม้ใหญ่แค่ต้นเดียวก็สามารถลดความร้อนของสภาพแวดล้อมรอบข้างได้เท่ากับเครื่องปรับอากาศขนาด 1 ตัน ตัวอย่างต้นไม้ใหญ่ที่มีทรงพุ่มแผ่กว้าง ให้ร่มเงาได้ดี ได้แก่ จามจุรี หูกระจง ตีนเป็ดฝรั่ง และหูกวาง แต่บริเวณที่จะปลูกควรมีพื้นที่กว้างสักหน่อย เพราะต้นเหล่านี้มีระบบรากรุนแรง หากปลูกไว้ใกล้ตัวบ้านมากเกินไป รากอาจชอนไชไปสร้างความเสียหายแก่ตัวโครงสร้างได้