บ้านสำเร็จรูป ทางเลือกที่ตอบโจทย์ได้อย่างยืดหยุ่นและหลากหลาย
รูปแบบการใช้งาน บ้านสำเร็จรูป เริ่มกลายเป็นที่สนใจและนับเป็นทางเลือกในการต่อเติมพื้นที่ใช้งานที่ทั้งควบคุมต้นทุน ควบคุมระยะเวลา และบริหารจัดการเศษวัสดุส่วนเกินที่หน้างานได้อย่างสมบูรณ์
เพราะการก่อสร้าง บ้านสำเร็จรูป จะมีการวางแผน ออกแบบ ผลิตชิ้นส่วนต่าง ๆ อย่างพอดี และประกอบเสร็จสิ้นมาตั้งแต่โรงงาน มากไปกว่านั้นยังสามารถขยายตัวโครงสร้างเพิ่มได้อย่างยืดหยุ่นไปตามขนาดพื้นที่และความต้องการการใช้งาน
เมื่อไม่นานมานี้ room Books ได้มีโอกาสร่วมพูดคุยกับ คุณป่อง – ปฐมา หรุ่นรักวิทย์ หนึ่งในผู้ก่อตั้ง CASE Studio ผ่านคอลัมน์ People ที่เธอได้ร่วมแสดงแนวคิดทางสถาปัตยกรรมในแคมเปญ “3 ARCHITECTS : INNOVATION THROUGH IMAGINATION” โดยเฉพาะอย่างยิ่งใจความในประเด็นเรื่องระบบโมดูลาร์ที่ CASE Studio มักนำมาช่วยจัดการข้อจำกัดต่าง ๆ ในหลาย ๆ โปรเจกต์ จนสำเร็จลงได้อย่างน่าสนใจ
ความยืดหยุ่นเพื่อการใช้งานที่หลากหลาย
“พอมองในเรื่องของ Modular ประเด็นเรื่องวัสดุก็ตามมาทันทีเลย ว่าจะต้องทํางานได้ง่าย เพราะ Modular คือมีพิกัดชัดเจนอยู่แล้ว เอามาต่อ ถอดออก ถอดเข้า ประกอบกันได้ แล้วก็ Modular ที่เราทํา จะมองในเรื่องของความรวดเร็วด้วย เพราะฉะนั้นเรื่องวัสดุก็สําคัญ การเลือกใช้วัสดุให้เหมาะสมกับระบบของอาคารที่เราได้ออกแบบไว้
“ระบบ Modular ดีตรงที่มันต่อประกอบได้ หมายถึงมันจะเป็นลักษณะเหมือนเล่นตัวต่อ Lego คือในหนึ่งก้อนมันมีขีดจํากัดก็จริง แต่มันต่อกันได้หลายก้อน สมมุติว่าก้อนหนึ่งเป็นสี่เหลี่ยมจัตุรัส ถ้าไม่พอ มันก็ต่อเพิ่มเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้าได้ หรือเอาชานมาเชื่อม มันก็มีอีกเรือนมาต่อได้อีก เพราะฉะนั้น มันค่อนข้างยืดหยุ่น ในเรื่องของการสร้างผัง ทําแปลนบ้าน การสร้าง Space ให้สําหรับผู้อยู่อาศัย
“ระบบอาคารแบบนี้ มีความยืดหยุ่น เพราะฉะนั้นการออกแบบพื้นที่ หรือ Space อะไรก็แล้วแต่ ข้างในมันยืดหยุ่น ก็เลยทําให้มันเกิดการแตกหน่อต่อยอดไปได้มากมาย คือรูปแบบของ Space ที่เกิดขึ้น มันได้หลากหลายมากเลย เพราะฉะนั้น พอมันได้หลากหลาย ก็สามารถทําได้เป็นหลาย ๆ สิ่ง จากที่เคยคุยกับเจ้าของบ้านหลายท่าน เขาก็มองในเชิงว่าไม่ใช่แค่ที่อยู่อาศัย บางทีก็บอกว่า ในอนาคตเขาขอทําเป็นร้านอาหาร ร้านกาแฟ หรือที่เจอบ่อยที่สุดก็คือเอาแบบที่ให้คนแก่สามารถอยู่ได้โดยปลอดภัย เหมาะสมสําหรับสําหรับผู้สูงอายุ ตอนนี้เราทําบ้านหลายหลังมากเป็นบ้านเตรียมเกษียณ ต้องคํานึงถึงอะไรบ้าง ก็มานั่งคุยกัน เรื่องสเต็ป เรื่องการเข้าถึง ”
ในขณะเดียวกัน การเติบโตขึ้นของแบรนด์ตราเพชร ในฐานะผู้นำด้านกระเบื้องหลังคาที่ตอบโจทย์การออกแบบมาอย่างหลากหลายตลอดระยะเวลา 39 ปี ยังดำเนินไปอย่างสอดคล้องกับธุรกิจยุคใหม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการให้ความสำคัญกับประเด็นเรื่อง ESG ซึ่งหลายคนอาจยังไม่ทราบว่า บริษัท ผลิตภัณฑ์ตราเพชร จำกัด (มหาชน) เป็นหนึ่งในบริษัทกลุ่มหลักทรัพย์ที่ดำเนินงานโดดเด่นด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล จนได้รับรางวัล ESG100 มาต่อเนื่องเป็นเวลา 6 ปีแล้ว
และการขยายธุรกิจไปยังสินค้ากลุ่มอาคารสำเร็จรูป หรือ Modular House ก็เป็นการย้ำจุดยืนทางธุรกิจอีกข้อหนึ่ง ที่ตอบโจทย์ด้านความยั่งยืน ทั้งในเรื่องประหยัดต้นทุน ประหยัดเวลา ลดเศษเหลือทิ้งที่หน้างาน เนื่องจากสัดส่วนของโครงสร้างแต่ละชิ้นส่วนนั้น ถูกกำหนดอย่างพอดีและประกอบขึ้นมาตั้งแต่โรงงานผลิต โดยนำเอาไอเดียการออกแบบและศักยภาพในการผลิตสินค้าวัสดุก่อสร้างหลอมรวมเข้าด้วยกัน
ตอบโจทย์ธุรกิจด้วย Diamond Cafe
จุดเริ่มต้นของไลน์โปรดักส์ดังกล่าว เป็นการนำเสนอผลิตภัณฑ์ในรูปแบบ ‘ไดมอนด์คาเฟ่’ เพื่อตอบโจทย์ SME ในกลุ่มธุรกิจเครื่องดื่มและร้านอาหารที่ต้องการโครงสร้างอาคารเล็ก ๆ สำหรับรองรับลูกค้า และสามารถลดต้นทุนให้ธุรกิจในช่วงเริ่มต้นได้ ควบคู่ไปกับการประหยัดเวลาด้วยการก่อสร้างที่รวดเร็ว
ไดมอนด์คาเฟ่ รุ่น Modern Series ออกแบบมาให้เลือก 5 ขนาด ที่แตกต่างกันไปตามพื้นที่ มี 2 ดีไซน์ให้เลือก Modern Series และ Gable Series มี 2 โทนสีให้เลือก ได้แก่ Espresso โทนสีเข้ม เท่ ทันสมัย โมเดิร์น และ Latte โทนสีอ่อน อบอุ่น เรียบง่าย แบบมินิมัล และทุกรูปแบบออกแบบโดยคำนึงถึงประโยชน์ใช้สอยสำหรับธุรกิจโดยเฉพาะ ด้วยพื้นที่เคาน์เตอร์ขนาดใหญ่ ฟังก์ชันครบ พร้อมห้องสต็อกสำหรับเก็บอุปกรณ์ ตลอดจนการตกแต่งพื้นที่รับรองลูกค้าในสไตล์โมเดิร์น โดยนำวัสดุไฟเบอร์ซีเมนต์มาเป็นส่วนประกอบหลักที่ผลิตขึ้นตามมาตรฐาน มอก. มีความคงทน แข็งแรง เหมาะกับสภาพอากาศเมืองไทย อีกทั้งยังไม่มีปัญหาปลวกมอดมารบกวน
วัสดุภายในและภายนอกของไดมอนด์คาเฟ่ประกอบด้วย
- โครงสร้าง : เหล็กรูปพรรณ และโครงทรัสสำเร็จรูป
- หลังคา : กระเบื้องจตุลอน ระบายน้ำได้ดี เย็น และเงียบ
- ผนังโครงสร้างภายนอก : ไม้ฝา กลุ่มสี Coffee Series (Espresso และ Latte) รองด้วยไดมอนด์บอร์ดลายไม้ 8 มม.
- ผนังโครงสร้างภายใน : ไดมอนด์บอร์ด 8 มม.
- ผนังตกแต่ง : ไม้ตกแต่งเซาะร่อง แผ่นผนัง SPC FastPanel บอร์ดตกแต่งผนังพิมพ์ลาย ที่สามารถสั่งทำลายกราฟฟิกตามต้องการได้
- ฝ้าเพดานภายใน : ยิปซั่มหนา 9 มม. คุณภาพสูง
- พื้นภายใน : พื้น SPC ทนทานต่อความชื้น และหมดปัญหาปลวกมอด
- พื้นภายนอก : ไม้พื้น ความหนา 2.5 มม.
Modular House รองรับความต้องการที่หลากหลาย
ในช่วงเวลาที่ผ่านมาตราเพชรได้เป็นพาร์ทเนอร์กับแบรนด์ D’Oro ในการสร้างสรรค์โครงสร้างร้านกาแฟสำเร็จรูปที่นำเสนออัตลักษณ์และดีไซน์ของ D’Oro ออกมาอย่างโดดเด่น และมากไปกว่านั้น เมื่อระบบการก่อสร้างดังกล่าวมีศักยภาพพอที่จะรองรับความต้องการที่หลากหลาย ไม่เป็นเพียงร้านอาหารหรือร้านกาแฟสำเร็จรูปเท่านั้น โดยตราเพชรยังเปิดกว้างสำหรับทุกไอเดียและทุกความต้องการ หากผู้ใช้งานต้องการใช้พื้นที่ เป็นร้านค้าหรือคาเฟ่ เป็นออฟฟิศเล็ก ๆ เป็นที่พักอาศัยพักผ่อน รีสอร์ต ห้องน้ำนอกอาคาร หรือแม้แต่เป็นอาคารสำหรับดูแลผู้สูงอายุที่แยกออกจากตัวบ้าน เพื่อให้สามารถจัดการตัวอาคารได้ง่ายขึ้น เช่น การเสริมอุปกรณ์ดูแลผู้สูงอายุ อุปกรณ์อำนวยสะดวกด้านการพยาบาลและความปลอดภัยในอาคาร ซึ่งความต้องการเหล่านี้ยังสามารถวางแผน กำหนดงบประมาณ ตำแหน่งของหน้าต่าง สีสันหลังคา และอื่น ๆ ได้ง่ายผ่านทางแอปพลิเคชันอีกด้วย
เข้าถึงผลิตภัณฑ์คุณภาพและบริการที่ครบวงจรของตราเพชรได้ที่
Website: https://www.dbp.co.th/
Tel : 02-6192333
Facebook: ผลิตภัณฑ์ตราเพชร
LINE ID : @diamondbrand