แต่งโฮมสตูดิโอ ของศิลปินวาดภาพ ให้เหมือนมีชีวิต
ชมไอเดีย แต่งโฮมสตูดิโอ บนดาดฟ้า และพื้นที่อยู่อาศัยหลากสีสันของคุณอรนลิน โลจนะโกสินทร์ ศิลปินวาดภาพสีน้ำมัน และผู้บริหารแบรนด์ Season Of Living ผู้เชื่อว่าบ้านคือสถานที่บอกเล่า “ความมีชีวิต”
แต่งโฮมสตูดิโอ อย่างไรให้เต็มไปด้วยชีวิตชีวาของผู้อยู่อาศัย เป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้ บ้านและสวน อยากไปหาคำตอบจากเธอคนนี้
“เราไม่เคยเจอสถานการณ์ที่ไม่รู้ว่าตัวเองนั้นชอบอะไร เพราะทั้งชีวิตสนใจแต่เรื่องราวศิลปะมาโดยตลอด” ถ้อยคำที่ คุณอร-อรนลิน โลจนะโกสินทร์ บอกเล่าเมื่อถามถึงจุดเริ่มต้นของความหลงใหลในงานศิลปะ เกิดขึ้นมาตั้งแต่สมัยยังเด็ก จนกระทั่งได้มีโอกาสเรียนต่อด้านศิลปะอย่างจริงจัง และสำเร็จการศึกษาด้าน Fine Art ที่ Central Saint Martins ณ ประเทศสหราชอาณาจักร
หลังจากเรียนจบกลับมา คุณอรได้สานต่อแบรนด์ Seasons of Living ของครอบครัว ซึ่งเป็นธุรกิจนำเข้าเครื่องเรือน เฟอร์นิเจอร์ระดับไฮเอนด์จากประเทศอิตาลีประมาณ 7 ปี ก็ค้นพบว่าแท้จริงแล้วชีวิตขับเคลื่อนด้วยงานศิลปะเป็นตัวหล่อเลี้ยงจิตวิญญาณ มากกว่าจะทำงานเพียงด้านบริหารเท่านั้น
เมื่อศิลปะคือสิ่งเดียวที่ชีวิตโหยหา ความรักและหลงใหลจึงนำพาชีวิตของคุณอรให้หวนกลับมาทำสิ่งที่หัวใจต้องการอีกครั้ง ด้วยการกลับไปเรียนต่อด้านศิลปะที่เมืองฟลอเรนซ์ ประเทศอิตาลี ณ The Florence Academy of Art โดยคราวนี้ศึกษาลงลึกไปถึงทักษะงานฝีมืออย่างงานเพ้นติ้ง ซึ่งคุณอรมองว่าเป็นรากฐานของงานศิลปะและเป็นทักษะที่สำคัญของศิลปิน
“เราชื่นชอบศิลปิน Salvador Dali (ซัลบาโด ดาลี) และ Gustav Klimt (กุสทัฟ คลิมท์) จึงมีความเชื่อว่าทักษะงานฝีมือเป็นสิ่งสำคัญ และเป็นพื้นฐานที่ศิลปินทุกคนสามารถต่อยอดไปเป็นสไตล์งานของตนเองได้ แต่สิ่งที่ได้เรียนรู้มาจากที่อังกฤษสอนคือ การสอนที่วิธีคิดมากกว่าการทำงานคราฟต์ เราจึงเลือกเดินตามแนวทางของศิลปินที่เราสนใจ โดยหันมาฝึกฝนทักษะงานฝีมือเพิ่มขึ้น”
คุณอรกลับมาเมืองไทยพร้อมทำงานเป็นศิลปินวาดภาพเพ้นติ้งควบคู่ไปกับบริหารแบรนด์ Season of Living การกลับมาทำงานศิลปะครั้งนี้เพียบพร้อมด้วยแนวทางที่ชัดเจนยิ่งขึ้น ผลงานวาดภาพสีน้ำมันของคุณอรจะผสมผสานทั้งเรื่องแนวคิดและทักษะฝีมือที่ได้เรียนรู้มาเข้าไว้ด้วยกัน
สตูดิโอคือพื้นที่สร้างความอิสระ เรียบง่าย และตรงไปตรงมา
เมื่อต้องสร้างสรรค์ผลงานด้วยการสะบัดฝีแปรง การมีพื้นที่ทำงานแยกออกจากพื้นที่ส่วนตัวจึงเป็นเรื่องที่คุณอรให้ความสำคัญ สตูดิโอทำงานจึงออกแบบต่อเติมขึ้นใหม่บริเวณดาดฟ้า เพื่อเพิ่มพื้นที่ในการสร้างงานศิลปะได้อย่างอิสระเต็มที่
ด้วยชิ้นงานศิลปะแต่ละชิ้นมีขนาดค่อนข้างใหญ่ สตูดิโอจึงออกแบบให้ฝ้าเพดานสูงเป็นทรงจั่วไปตามแนวหลังคา ภายในห้องสว่างด้วยแสงธรรมชาติที่ส่องผ่านเข้ามาจากทั้งทางสกายไลต์ด้านบนและหน้าต่างรอบด้าน แสงสว่างจากทุกระดับที่ส่องเข้ามา ทำให้เรามองเห็นรายละเอียดของพื้นผิวและสีสันในงานเพ้นติ้งได้อย่างแจ่มชัด
“เราตั้งใจให้มีสกายไลต์ด้านบน เพื่อให้แสงธรรมชาติเข้ามาได้จากหลายทิศทาง ทำให้สามารถมองเห็นดีเทลระหว่างวาดภาพได้มากยิ่งขึ้น หรือหากต้องการวาดเฉพาะจุดของแสงเงาที่ต้องการก็สามารถเลือกเปิด-ปิดช่องแสงได้”
การจัดพื้นที่ภายในสตูดิโอนั้นเรียบง่าย ไม่ซับซ้อนแม้แต่น้อย สะท้อนการทำงานในวันวันหนึ่งของศิลปินได้อย่างชัดเจน ทั้งร่องรอยของสีบนพื้น ข้าวของที่แลดูไม่เป็นระเบียบมากนักและผ่านการใช้งานมาอย่างสมบุกสมบัน
มีเพียงมุมหนึ่งของห้องที่จัดไว้เป็นพื้นที่ของโต๊ะทำงานสำหรับนั่งอ่านหนังสือ สเก็ตช์ภาพ พร้อมด้วยชั้นวางของอุปกรณ์ต่างๆ ขนาบข้างไว้ ช่วยสร้างขอบเขตของพื้นที่ได้ดี ทั้งยังสามารถหยิบจับใช้อุปกรณ์โดยง่ายอีกด้วย
เทคนิคการวาดภาพเพ้นติ้งสีน้ำมันบนไม้คือเทคนิคการสร้างสรรค์ผลงานของคุณอร จึงไม่แปลกที่เราจะเห็นอุปกรณ์งานไม้ เครื่องมือช่างเรียงรายอยู่บ้าง เพราะนอกจากงานลงสีแล้ว ในบางครั้งก็ต้องมาลงมือทำงานไม้ด้วยตนเอง
ในสตูดิโอเน้นการใช้เฟอร์นิเจอร์ลอยตัว อย่างโต๊ะกึ่งชั้นวางที่สามารถเคลื่อนย้ายไปมาได้อย่างอิสระตามความต้องการ เสมือนสเตชันเคลื่อนที่เล็กๆ ไว้สำหรับผสมและลงสี
คอลเล็กงานศิลปะจากเรื่องราวระหว่างทางมาไว้ในบ้าน
อีกพื้นที่หนึ่งของบ้าน ซึ่งเป็นส่วนอยู่อาศัยของคุณอร ได้เปิดมุมมองให้เราค้นหาความหมายของ “งานศิลปะ” ว่าแท้จริงแล้วใกล้ตัวเราได้มากขนาดไหน สิ่งของตกแต่งภายในบ้านล้วนเก็บสะสมมาจากประสบการณ์ชีวิตที่ผ่านมา โดยไม่จำเป็นต้องเป็นชิ้นงานอาร์ตมาสเตอร์พีซแต่อย่างใด เราจะพบเจอชิ้นส่วนความทรงจำในมุมต่างๆ ของห้องที่แฝงไว้และย้ำเตือนเรื่องราว พร้อมมอบชีวิตชีวาให้พื้นที่แห่งนี้ ทั้งของฝากจากเพื่อนสมัยเรียน ของที่ระลึกจากคนรู้จัก ผลงานศิลปะของเพื่อนๆ หรือแม้แต่สินค้าวินเทจที่คุณอรรู้สึกหลงใหลจนต้องนำมากลับมาเป็นส่วนหนึ่งของบ้านหลังนี้
“เราให้ประสบการณ์เป็นตัวสร้างพื้นที่ ของตกแต่งภายในบ้านจึงมาจากคนรอบตัว หรือจากการเดินทางไปที่ต่างๆ แล้วเก็บสะสมเรื่อยมา ไม่ได้ซื้อมาเพื่อตกแต่งให้สวยเพียงอย่างเดียว”
เมื่อข้าวของมาจากหลากหลายที่มาและต่างช่วงเวลา เราจึงรับรู้ได้ถึงเรื่องราวชีวิตที่ผ่านมาของคนคนหนึ่งว่ามีความหลากสีสันและชีวิตชีวามากแค่ไหน เรื่องราวของสิ่งของที่มาจากชีวิตจริงนี่แหละคือชิ้นส่วนประกอบสำคัญที่สร้างให้บ้านหลังนี้มีชีวิตขึ้นมา แม้เมื่อนำมาจัดวางอยู่รวมกันจะแลดูแตกต่าง แต่ก็สอดคล้องกับเรื่องราวของเจ้าของห้องที่ชีวิตก็ไม่ได้เรียบง่ายจนเกินไปเช่นกัน แต่ละห้องจึงมีเสน่ห์และแสดงตัวตนของเจ้าของบ้านได้เป็นอย่างดี
“เราไม่เคยดีไซน์ไว้ก่อนว่าของชิ้นนี้จะต้องมาอยู่ตรงไหน ทุกอย่างนำมาจัดวางหน้างานตามความรู้สึก เพราะเราอยากได้บ้านที่มีชีวิต มีเรื่องราว เราเชื่อว่าของที่มาจากชีวิตของเราเองยังไงมันก็จะออกมาดีกว่าซื้อของแบรนด์ที่ดูเป็นมู้ดโทนเดียวกันมาตกแต่ง”
ความผสมผสานของสีสันและเรื่องราวของตกแต่งบ้าน
ผนังในแต่ละห้องตกแต่งด้วยวอลล์เปเปอร์ต่างสีสัน ทั้งห้องนั่งเล่นสีเขียวธรรมชาติ ห้องน้ำสีฟ้าสดใส และห้องนอนสีแดงเบอร์กันดี ซึ่งคุณอรได้แรงบันดาลใจมาจากสีแดงของผนังในพิพิธภัณฑ์ Sorolla ประเทศสเปน
เราอาจจะไม่คุ้นชินการใช้สีโทนร้อนกับห้องนอนมากนัก แต่ห้องนอนวอลล์เปเปอร์สีแดง ติดงานศิลปะ อยู่คู่กับพื้นไม้ลายสวยชวนให้รู้สึกราวกับว่าอยู่ในอาร์ตแกลเลอรี่ที่สงบเงียบอย่างบอกไม่ถูก สีแดงดูอบอุ่นขึ้นด้วยภาพวาดงานศิลปะจากธรรมชาติและผู้คน ช่วยสร้างบรรยากาศภายในห้องให้ดูน่าพักผ่อนไปโดยปริยาย
“อรชื่นชอบความเป็นธรรมชาติ จึงอยากให้บรรยากาศของห้องมีกลิ่นอายของธรรมชาติ” คุณอรบอกเล่าถึงห้องนั่งเล่นที่ตกแต่งด้วยวอลล์เปเปอร์สีเขียวอ่อนลวดลายเส้นสายจากธรรมชาติ และสามารถมองทะลุไปยังห้องนอนที่ตกแต่งด้วยสีแดงจนเกิดเป็นมิติแแห่งสีสันขึ้นในพื้นที่
ความน่าสนใจอยู่ที่การผสานชิ้นงานศิลปะและของตกแต่งมาติดตั้งเข้ากับผนังได้อย่างลงตัว ทั้งภาพวาด และงานประติมากรรม โดยชิ้นงานศิลปะเหล่านี้มาจากศิลปินที่ชื่นชอบทั้งในไทยและต่างประเทศ รวมไปถึงผลงานของครู เพื่อน และของตัวคุณอรเอง นำมาจัดวางอยู่ร่วมกันบนผนังนี้
เฟอร์นิเจอร์ตกแต่งภายในห้องนั่งเล่นก็ผสมผสานทั้งของใหม่และเก่า บรรยากาศโดยรวมจึงดูหลากสีสันหลายสไตล์ ล้วนมีเอกลักษณ์ไปในแต่ละชิ้น ทั้งโซฟาจากแบรนด์หรูอย่าง Baxter ก็สามารถเข้ากันได้ดีกับโต๊ะวินเทจลวดลายแบบศิลปะตะวันออกที่ได้มาจากตลาดนัดมือสอง
“เราชอบให้บ้านมีบรรยากาศหลากหลาย มีความมิกซ์ระหว่างตะวันตกกับตะวันออก ไม่จำเป็นต้องดูหรูหรา แต่จำเป็นต้องมีชีวิต”
สอดแทรกงานศิลปะเตือนใจในมุมต่างๆ ของบ้าน
แน่นอนว่าในบ้านหลังนี้มีชิ้นงานศิลปะจัดวางกลมกลืนกับข้าวของต่างๆ ได้อย่างน่าหลงใหล เราจะพบเห็นงานศิลปะวางอยู่ตามมุมผนัง ชั้นวาง โต๊ะ หรือแม้กระทั่งในห้องน้ำ
ห้องน้ำคือพื้นที่สำหรับเริ่มต้นวันใหม่ เราตื่นมาล้างหน้า พบเจอกับตัวเองในกระจกทุกวัน การมีเครื่องเตือนใจไว้ให้พร้อมรับมือในแต่ละวัน สำหรับคุณอรนั่นคือการได้อ่านข้อความดีๆ ในทุกเช้า ผนังห้องน้ำจึงตกแต่งด้วยถ้อยคำเตือนใจและคำสอนของหลวงปู่ท่อน ญาณธโร ในรูปแบบงานศิลปะชิ้นกระเบื้องขนาดกะทัดรัด
อ่างอาบน้ำออกแบบเป็นแบบฝังเพื่อเพิ่มความโปร่งของพื้นที่ และเลือกใช้ผนังโทนสีฟ้าคู่กับพื้นปูกระเบื้องลายไม้ทำผิวเก่าเพื่อสร้างร่องรอยของการใช้ชีวิตเอาไว้ และไม่ลืมที่จะผสมผสานความใหม่และเก่าด้วยการตกแต่งโคมไฟระย้าสวยงามจากแบรนด์ Barovier&Toso กับกระจกวินเทจมือสอง พร้อมงานศิลปะของเพื่อนศิลปินจากอังกฤษ ผสมปะปนกันไปกับงานกระเบื้องของอาจารย์ศรีวรรณ
แมวคือประติมากรรมชิ้นเอก
“เราว่าของแต่งบ้านที่ดีอย่างหนึ่งคือแมวนะ แมวคือ Sculpture ชิ้นเอก เป็นงานศิลปะที่เคลื่อนย้ายไปมาได้ บางครั้งก็ไปตั้งอยู่บนโต๊ะ บางครั้งก็ไปอยู่บนโซฟา” คุณอรเล่าพลางหัวเราะ
เมื่อไอเดียหลักในการแต่งบ้านของคุณอรคือเรื่องของ “ความมีชีวิต” จึงไม่แปลกที่แมวจะเป็นดั่งของแต่งบ้านที่ดูจะสร้างชีวิตชีวา ชวนคลั่งไคล้มากที่สุดชิ้นหนึ่ง และเป็นชิ้นส่วนสำคัญที่ประกอบให้เรื่องราวความมีชีวิตในพื้นที่โฮมสตูดิโออันน่าหลงใหลแห่งนี้ดูอบอุ่นยิ่งขึ้น
คุณอร-อรนลิน โลจนะโกสินทร์ เป็นหนึ่งในศิลปินที่ได้จัดแสดงงานในนิทรรศการ “Immerse ภวังค์วารี”
ซึ่งเป็นการทำงานร่วมกันกับศิลปินแห่งชาติ อาจารย์ปรีชา เถาทอง จัดแสดงในวันที่ 1-21 ตุลาคม 2567 ณ Q Stadium ศูนย์การค้าดิ เอ็มควอเทียร์
เจ้าของ : คุณอรนลิน โลจนะโกสินทร์
เรื่อง : Nantagan
ภาพ : ศุภกร ศรีสกุล