การจัดสวนแบบทุ่ง ที่เน้นความเป็นธรรมชาติ
เมื่อกล่าวถึงคำว่า “ทุ่ง” หลายคนมักจะนึกถึงสถานที่ที่เต็มไปด้วยพืชพรรณประเภทต้นหญ้า ต้นไม้ หรือดอกไม้ที่มีลักษณะเป็นพุ่มเตี้ยกระจายตัวไปในพื้นที่โล่งกว้าง หรืออาจนึกถึงทุ่งที่เกี่ยวข้องกับการเพาะปลูกหรือการเกษตร อย่าง ทุ่งนา
บ้านและสวน เราจึงจะมาพูดถึงบรรยากาศแบบทุ่งตามธรรมชาติที่มักพบเห็นทั้ง 4 แบบ ได้แก่ ทุ่งน้ำ ทุ่งนา ทุ่งหญ้า และทุ่งดอกไม้ พร้อมไอเดียในการนำไปประยุกต์ใช้ในการจัดการพื้นที่ว่างรอบบ้าน โดยยังคงจุดเด่นของ การจัดสวนแบบทุ่ง คือ การจัดที่เน้นความเป็นธรรมชาติ จนดูเหมือนไม่ได้จัด อีกทั้งยังต้องสามารถจัดการและดูแลรักษาได้ง่ายด้วย
ทุ่งน้ำ
คือ พื้นที่ที่ผืนน้ำคลุมผืนดิน อาจจะตลอดเวลาหรือบางฤดูบางเวลาก็ได้ เช่น ในระหว่างช่วงเวลาที่นาข้าวแห้งและไม่ได้ปลูกข้าว โดยทุ่งน้ำจะมีลักษณะเหมือนพื้นที่รกๆ มีความเป็นน้ำแฉะๆ และมีพืชพงแขม พงอ้อขึ้นเป็นทุ่งๆ ซึ่งนับว่ามีความสำคัญต่อระบบนิเวศมาก เนื่องจากเป็นแหล่งอาหารและที่อยู่อาศัยของแมลง ปลา นก และสัตว์อื่นนานาชนิด เป็นแหล่งพักพิงของสัตว์อพยพ ช่วยดักกรองสารเคมีที่มากับการเกษตรก่อนไหลลงสู่โครงข่ายแม่น้ำคูคลอง ช่วยลดความเสี่ยงจากน้ำท่วม นอกจากนี้ ยังเป็นแหล่งอาหารและพื้นที่ทำกิจกรรมทางน้ำต่างๆ เช่น การเลี้ยงปลา การเพาะปลูกพืชที่ต้องการน้ำ หรือในบางที่อาจถูกใช้เพื่อเป็นพื้นที่สำหรับท่องเที่ยว
- การวางผังและออกแบบ
สำหรับบ้านที่มีพื้นที่จำกัดอาจเลือกจัดจำลองความสวยงามของบรรยากาศทุ่งน้ำบางส่วน โดยการเลือกใช้ภาชนะหรืออ่างขนาดใหญ่ปูด้วยแผ่นรองบ่อแล้วเติมน้ำ ตกแต่งด้วยต้นไม้ที่ชอบน้ำ เพื่อสร้างสวนน้ำหรือทุ่งน้ำขนาดเล็ก ส่วนบ้านที่มีพื้นที่ขนาดกลางถึงใหญ่สามารถออกแบบพื้นที่ทุ่งน้ำให้มีความสวยงามสอดคล้องกับลักษณะของพื้นที่เดิมได้ โดยเพิ่มระดับความลึก-ตื้นของขอบชายน้ำ ใช้หินและกรวดเพื่อสร้างรูปลักษณ์ที่เป็นธรรมชาติ รวมถึงการสร้างลำธารที่คดเคี้ยว เพื่อเพิ่มความหลากหลายของพื้นที่ พรรณไม้ และสิ่งมีชีวิต
Tips ไอเดียรูปแบบลำธารจากสวนสวย พร้อมรายละเอียดการสร้างเบื้องต้น
- การเลือกไม้น้ำ
ให้มองหาต้นไม้พื้นเมืองที่เข้ากับสภาพแวดล้อมท้องถิ่นได้เป็นอย่างดี เพื่อลดภาระในการดูแล ซึ่งสำหรับพื้นที่ทุ่งน้ำที่มีความหลากหลาย อาจเลือกใช้ไม้น้ำหลากหลายประเภทปลูกผสมผสานกันตามความเหมาะสมของตำแหน่งพื้นที่ อย่างพืชลอยน้ำ เช่น ผักตบไทย ผักบุ้ง จอกหูหนู พืชในน้ำ เช่น สาหร่าย ปรงทอง บัวชนิดต่างๆ และพืชชายน้ำหรือพืชริมน้ำ เช่น ผักเป็ดแดง โสน กกกลม ธูปฤๅษี พลับพลึง
- การตกแต่งเพิ่มความสวยงาม
จัดวางก้อนหิน ท่อนไม้ หรือโครงสร้างขนาดเล็ก เพื่อเป็นที่พักพิงสำหรับแมลงและสัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำ อาจมีระเบียง ทางเดิน หรือสะพานไม้ยื่นเข้าไปในขอบเขตของบ่อน้ำ เพื่อใช้เป็นพื้นที่นั่งเล่น หรือจุดชมวิวท่ามกลางบรรยากาศที่สงบและร่มรื่น
- การดูแลและรักษาคุณภาพน้ำ
พื้นที่ชุ่มน้ำมักจะต้องรองรับน้ำฝนและน้ำระบายจากในพื้นที่ จึงจำเป็นต้องมีการดูและรักษาคุณภาพของน้ำให้สะอาดอยู่เสมอ เพื่อความสวยงามและเพื่อให้สิ่งมีชีวิตโดยรอบอาศัยอยู่ได้ ซึ่งอาจเลือกใช้เป็นวิธีการออกแบบพื้นที่ให้มีกระแสน้ำไหลเอื่อยๆ การเลือกใช้พรรณไม้ที่ช่วยในการบำบัดและดูดซับสารพิษในน้ำ เช่น กกกลม ธูปฤๅษี หรือผักตบไทย การใช้ปั๊มร่วมกับระบบกรอง หรือการสร้างกระแสน้ำประดิษฐ์ เพื่อให้น้ำเกิดการหมุนเวียนเพิ่มออกซิเจน
ทุ่งนา
คือ พื้นที่ที่ใช้สำหรับการปลูกข้าว รวมถึงพื้นที่ใกล้เคียง ซึ่งมักจะเป็นพื้นที่ขนาดใหญ่และมีสภาพแวดล้อมที่เหมาะสำหรับการเจริญเติบโต โดยทั่วไปจึงมักพบทุ่งนาในพื้นที่ราบหรือพื้นที่ลุ่มน้ำ แต่หากเป็นที่ราบสูงก็จะพบเห็นเป็นลักษณะนาแบบขั้นบันได ซึ่งถูกจัดแบ่งออกเป็นแปลงๆ เช่นกัน เพื่อให้สามารถควบคุมและรักษาระดับน้ำได้ดีตามระยะเวลาที่แตกต่างกันของการเจริญเติบโต นอกจากนี้ บริเวณริมขอบของแปลงนายังมีการปลูกพืชผักสมุนไพรและไม้ยืนต้น เช่น กล้วย หน่อไม้ กุ่ม สะเดา ผักหวาน มะยม พุทรา ตะโกนา หรือยอ ทำให้บริเวณทุ่งนาจึงเป็นอีกหนึ่งพื้นที่ที่มีความหลากหลาย และมีวิวธรรมชาติที่สวยงามทั้งในยามเขียวขจีและยามเหลืองทองอร่าม
- การวางผังและออกแบบ
หากพื้นที่เป็นนาข้าวเดิม ควรคำนึงถึงระดับความสูงและระดับน้ำที่มีการเปลี่ยนแปลง รวมถึงอาจคงองค์ประกอบทางธรรมชาติบางอย่างจากนาข้าวไว้ เช่น ต้นไม้เดิม เพื่อสร้างร่มเงาและความรู้สึกต่อเนื่องกับภูมิทัศน์ รักษาแนวป้องกันเพื่อป้องกันนาข้าวและเป็นแนวป้องกันธรรมชาติจากน้ำท่วมหรือการพังทลายของดิน แล้วจึงเสริมองค์ประกอบอื่นๆ ที่ต้องการลงในพื้นที่ แต่หากต้องการจัดจำลองเป็นนาข้าวขนาดเล็กให้ทำเป็นแปลงปลูกที่มีรูระบายน้ำ ในพื้นที่ที่มีน้ำเพียงพอและมีแสงแดดส่องทั่วถึง
- การเลือกพันธุ์ข้าว
ข้าวเป็นพืชที่ปรับตัวได้เก่ง สามารถปรับตัวให้เข้ากับสภาพภูมิประเทศ อากาศ และดินของแต่ละพื้นที่ได้ ยิ่งหากเป็นพันธุ์ข้าวพื้นเมืองด้วยแล้วยิ่งสามารถต้านทานโรคศัตรูพืชได้ดี ซึ่งประเทศไทยเองก็เป็นแหล่งกำเนิดสายพันธุ์ข้าวกว่า 20,000 ชนิด ดังนั้น หากจะเลือกปลูกข้าวจึงอาจศึกษาจากลักษณะเด่นและถิ่นกำเนิดเป็นสำคัญ เพื่อการสร้างความมั่นคงทางอาหารและความหลากหลายทางชีวภาพ
Tips รู้จักพันธุ์ข้าว พื้นที่ปลูก และประโยชน์ที่ซ่อนอยู่
- การตกแต่งเพิ่มความสวยงาม
เสน่ห์ของทุ่งนาเป็นวิวทิวทัศน์ที่เงียบสงบ และไม่เหมือนกันในแต่ละช่วงเวลา อย่างบางช่วงเป็นวิวต้นกล้า บางช่วงเป็นทุ่งข้าวสีทอง และในช่วงหลังฤดูเก็บเกี่ยวก็อาจมีพืชชนิดอื่นขึ้นมาแทนที่ นอกจากนี้ มักจะพบเห็นสะพานไม้ไผ่ที่ทอดยาวคดเคี้ยวเป็นเส้นทางให้ได้ใกล้ชิดกับธรรมชาติมากยิ่งขึ้น หรือโครงสร้างไม้ที่สร้างขึ้นอย่างเรียบง่าย ทั้งศาลา ทางเดิน หรือยุ้งข้าวในบรรยากาศที่ชวนให้ตกหลุมรัก
- การดูแลรักษาคุณภาพดินและน้ำ
ต้นข้าวเจริญเติบโตได้ดีในสภาพอากาศเขตร้อนชื้น จำเป็นต้องมีปริมาณน้ำที่เพียงพอต่อการเจริญเติบโต และมีความอ่อนไหวต่อคุณภาพน้ำ ดังนั้น น้ำที่ใช้ควรเป็นน้ำสะอาดและปราศจากสารเคมีที่เป็นอันตราย และควรรักษาดินให้ชุ่มชื้นอยู่เสมอ โดยระดับน้ำควรอยู่เหนือผิวดินประมาณ 1-2 นิ้ว และควรปรับโครงสร้างดินก่อนการเพาะปลูก โดยใช้ปุ๋ยหมัก ปุ๋ยคอก หรือปุ๋ยพืชสด และบำรุงธาตุอาหารหลักให้ครบ เพื่อเพิ่มความสมบูรณ์ให้ดินและเหมาะสำหรับการปลูกข้าว
ทุ่งหญ้า
คือ ทุ่งกว้างที่มีพืชตระกูลหญ้าขึ้นหนาแน่น มีลักษณะเป็นที่ราบ มีปริมาณน้ำฝนและความชื้นน้อย กระจายทั่วไปในพื้นที่ต่างๆ เช่น ในทวีปอเมริกาเหนือ และยุโรปตะวันตก เรียกว่า “ทุ่งหญ้าแพรรี่” (Prairie) ในแอฟริกาใต้และตอนเหนือของทวีปออสเตรเลีย เรียกว่า “ทุ่งหญ้าสะวันนา” (Savanna) ส่วนในประเทศไทยจะมีทั้งหญ้าคา หญ้าพง และหญ้าเพ็กขึ้นเป็นจำนวนมาก และในพื้นที่ซึ่งมีความชุ่มชื้นมากขึ้นก็จะมีหญ้าแขมขึ้นแทรก โดยมีต้นไม้ใหญ่จะขึ้นกระจายอยู่รอบๆ ในระยะที่ห่างกันไป ซึ่งจากรูปทรงที่พลิ้วไหว ผิวสัมผัสที่ดูเบาสบาย รวมถึงความสามารถในการเข้ากับสไตล์สวนและต้นไม้รูปทรงอื่นๆ ได้ดี ต้นหญ้า (หญ้าประดับ) และลักษณะของทุ่งหญ้าจึงถูกนำไปใช้จัดสวนเพื่อสร้างบรรยากาศที่ผ่อนคลาย
- การวางผังและออกแบบ
การจัดสวนแบบทุ่ง หญ้า จะช่วยเสริมให้บ้านหรือสิ่งรอบข้างดูโดดเด่น โดยตำแหน่งของทุ่งหญ้าควรอยู่ในที่ที่มีแสงแดดเพียงพอ เพราะหญ้าส่วนใหญ่ชอบแสงแดดและการได้รับแสงแดดเต็มวันจะทำให้หญ้าประดับสวยงามมากขึ้น ส่วนลักษณะของทุ่งหญ้าอาจแตกต่างกันไปตามวัตถุประสงค์ในการใช้งานและชนิดของหญ้าที่ปลูก เช่น การปลูกเป็นกลุ่มใกล้อาคาร การปลูกหญ้าประดับผสมผสานลงในแปลงหรือสวนหิน รวมถึงการปลูกในภาชนะหรือกลุ่มกระถาง ซึ่งการจัดวางองค์ประกอบควรมีระดับสูงต่ำคละกันไป และบริเวณที่อยู่ไกลอาจใช้เป็นต้นสูงเพื่อเป็นจุดหมายตา ส่วนบริเวณที่อยู่ใกล้เข้ามาอาจใช้เป็นต้นเตี้ยให้สามารถมองเห็นและเข้าถึงได้ เพื่อให้สวนมีบรรยากาศเหมือนธรรมชาติ และสามารถดูแลตัดแต่งได้ง่าย
- การเลือกพันธุ์หญ้าประดับ
พืชพรรณที่ปลูกประดับในสวนควรเป็นไม้พื้นถิ่นหรือไม้ที่ดูแลง่าย โดยหญ้าประดับที่นิยมใช้กันบ่อยๆ ได้แก่ หญ้าเม็กซิกัน หญ้าน้ำพุ หญ้าเบอร์มิวด้า หญ้าม้าลาย หญ้าฟ็อกซ์เทล และหญ้าแพมพัสด่าง ซึ่งส่วนใหญ่มักมีสีสันออกเอิร์ธโทน ไม่ฉูดฉาด เช่น น้ำตาล ขาว ครีม เลือดหมู นอกจากนี้ ยังมีพืชอีกหลายชนิดที่มีลักษณะใบเป็นเส้น ให้ผิวสัมผัสและรูปทรงเหมือนกับหญ้า เช่น ไอริส เตยทอง หญ้าถอดปล้อง ซุ้มกระต่ายด่าง เศรษฐีเรือนนอก หนวดปลาดุก
Tips รู้จักหญ้าจัดสวน เพิ่มความพลิ้วไหวให้สวนได้
- การตกแต่งเพิ่มความสวยงาม
เนื่องจากหญ้ามักจะชอบพื้นที่ที่แสงแดดจัดและค่อนข้างแห้ง จึงมักนิยมใช้จัดสวนร่วมกับพื้นกรวด หรือก้อนหินเพิ่มความสวยงาม โดยอาจใช้หินกรวดโรยไว้เป็นแนวทางเดิน ใช้ก้อนเล็กก้อนใหญ่วางแทรกตามกอหญ้าให้เหมือนหินตามธรรมชาติ หรือวางเรียงเป็นขอบแปลง เพื่อสร้างกรอบในพื้นที่สวนดูมีระเบียบแต่ไม่ดูแข็งมากจนเกินไป แต่ถ้าหากอยากให้สวนมีจุดเด่น ก็อาจเลือกใช้ก้อนหินขนาดใหญ่เพียงก้อนเดียววางไว้ท่ามกลางทุ่งหญ้า แต่ทั้งนี้หินที่ใช้ควรดูกลมกลืนไปกับบรรยากาศสวน เพื่อความเป็นธรรมชาติ
- การดูแลรักษาคุณภาพดินและน้ำ
ใช้ดินที่ระบายน้ำได้ดี ให้น้ำสม่ำเสมอแต่ไม่มากเกินไป เพื่อเลียนแบบสภาพแวดล้อมที่พบในทุ่งหญ้า ลดการใช้ยาฆ่าแมลงและปุ๋ยให้เหลือน้อยที่สุด หมั่นตัดดอกหญ้าทิ้งก่อนดอกหญ้าแก่จนติดฝัก เพื่อป้องกันเมล็ดปลิวแพร่กระจายพันธุ์จนอาจส่งผลกระทบกับระบบนิเวศหรือกลายเป็นวัชพืชที่ไม่สวยงาม นอกจากนี้ อาจปลูกลงในกระถางก่อนฝังไปในดิน เพื่อควบคุมการเจริญเติบโตและการแพร่ขยายพันธุ์ของหญ้าในเบื้องต้น
ทุ่งดอกไม้
คือ พื้นที่ที่มีดอกไม้ชนิดเดียวหรือมีความหลากหลายของชนิดดอกไม้ เติบโตและบานออกมาเป็นพื้นที่กว้างโดยธรรมชาติตามฤดูกาล สามารถพบได้ในหลายท้องที่ทั่วโลก ซึ่งแต่ละพื้นที่ก็มักจะมีความสวยงามตามชนิดของดอกไม้ที่แตกต่างกัน เช่น ดอกทานตะวัน ทิวลิป เก๊กฮวย ลาเวนเดอร์ ป็อปปี้ หรือไฮเดรนเยีย โดยทุ่งดอกไม้ที่ออกดอกสวยงามมักเป็นจุดหมายสำหรับการท่องเที่ยวเยี่ยมชมที่สร้างความประทับใจได้เป็นอย่างดี และเมื่อบรรยากาศที่สวยงามสดชื่นเหล่านี้ ถูกนำมาใช้ในการจัดสวน ก็จะช่วยสร้างสีสันให้บ้าน และเติมเต็มความสดชื่นได้ไม่ต่างจากทุ่งดอกไม้เลยทีเดียว
- การวางผังและออกแบบ
การจัดสวนแบบทุ่งดอกไม้จะคล้ายกับการจัดสวนแบบทุ่งหญ้า แต่จะมีความสดใสจากไม้คลุมดิน หรือไม้พุ่มเตี้ยที่ออกดอกสวยงามและมีการเปลี่ยนแปลงของบรรยากาศตามฤดูกาล ดังนั้น การจัดสวนแบบทุ่งดอกไม้จึงควรมีการวางแผนการผลิบานตลอดทั้งปี โดยให้เลือกปลูกดอกไม้ที่มีระยะเวลาออกดอกสลับกัน เพื่อให้มั่นใจได้ว่าสวนจะมีสีสันและมีความน่าสนใจอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งเมื่อเวลาผ่านไปอาจปล่อยให้ดอกไม้ป่าแพร่กระจายตามธรรมชาติ หรือปล่อยให้วัชพืชขึ้นแซมบ้าง เพื่อให้ดูเป็นธรรมชาติที่สมจริงมากยิ่งขึ้น แต่ทั้งนี้การจัดสวนแบบทุ่งที่อาจจะมีสัตว์ไม่พึงประสงค์ อย่าง หนูหรืองูเข้ามาซ่อนตัวอยู่ การกำหนดตำแหน่งจึงควรเว้นระยะห่างออกจากตัวบ้านและขั้นด้วยพื้นที่โล่ง เพื่อให้เวลาต้นหญ้าหรือไม้ดอกไม้ประดับที่เติบโตเต็มที่จนดูรกอยู่ไกลออกไป และสามารถสังเกตเห็นสิ่งที่จะเข้ามาใกล้ได้ง่ายขึ้น
- การเลือกพรรณไม้ดอก
ควรเลือกดอกไม้พื้นเมืองที่เจริญเติบโตได้ดีตามสภาพอากาศและสภาพแวดล้อม เช่น ตรีชวา โทงเทง บานไม่รู้โรย ดาวกระจาย แวววิเชียร ดาวเรือง ซึ่งอาจเลือกปลูกดอกไม้หลากหลายชนิดที่มีสี รูปร่าง และขนาดที่แตกต่างกัน แบบ Mixed Border Garden เพื่อให้มีความหลากหลายและดูแลง่ายขึ้น นอกจากนี้ ยังอาจแทรกด้วยหญ้าประดับ ดอกไม้กินได้ หรือพืชสมุนไพร เพื่อให้สวนมีทั้งประโยชน์และความสวยงาม
- การตกแต่งเพิ่มความสวยงาม
ในทุ่งดอกไม้มักจะมีนก แมลง และสิ่งมีชีวิตตัวน้อยเข้ามาอาศัยอยู่ จึงอาจจัดวางองค์ประกอบต่างๆ อย่างอุปกรณ์ให้อาหารนก โรงเลี้ยงผึ้ง หรือแหล่งน้ำ รวมถึงหลีกเลี่ยงการใช้ยาฆ่าแมลง เพื่อให้เป็นแหล่งพักพิง และเป็นแหล่งอาหารเพิ่มความมีชีวิตชีวาให้สวน หรืออาจเลือกงานประติมากรรมมาจัดวางตกแต่งในสวนเพื่อเพิ่มความน่าสนใจ รวมถึงการเพิ่มเฟอร์นิเจอร์กลางแจ้ง เช่น ม้านั่ง โต๊ะ หรือพื้นที่นั่งเล่น ไว้สำหรับทำกิจกรรม สร้างปฏิสัมพันธ์กับพื้นที่ และใช้เวลาเพลิดเพลินไปกับบรรยากาศโดยรอบ
- การดูแลรักษาสวนดอกไม้
สิ่งสำคัญคือการหมั่นตัดแต่งกิ่ง เพื่อกระตุ้นการออกดอก ป้องกันการเกิดเชื้อรา ลดการเกิดโรคและแมลง เพื่อยืดอายุของไม้ดอกให้ยาวนาน อีกทั้งควรบำรุงดินด้วยไม้ตระกูลถั่ว อย่างปอเทือง หรือถั่วบราซิล ใช้วัสดุคลุมดิน เช่น ฟาง หรือเศษไม้ เพื่อรักษาความชื้นและกำจัดวัชพืช โดยไม่ให้กระทบต่อความสวยงามตามธรรมชาติ