ทุ่งน้ำนูนีนอย พื้นที่ชุ่มน้ำเพื่อความหลากหลายทางชีวภาพ และคืนป่าให้อยู่ร่วมกับคน
ความหลากหลายทางชีวภาพมีความสำคัญอย่างมากกับวิกฤตด้านสิ่งแวดล้อม ทุ่งน้ำนูนีนอย ของนักนิเวศวิทยา ดร.อ้อย-สรณรัชฎ์ กาญจนะวณิชย์ เป็นต้นแบบที่ดีในการทำรู้จักคำว่า “Rewild” กับพื้นที่ชุ่มน้ำกลางนาที่อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่
จากนาสู่ป่าที่อยู่ร่วมกันได้
ทุ่งน้ำนูนีนอย แห่งนี้ เกิดขึ้นจาก ดร.อ้อย และครอบครัว ซื้อที่ดินที่เชียงดาวแห่งนี้ด้วยความตั้งใจที่จะรักษาท้องนาเอาไว้ไปพร้อมๆ กับการฟื้นฟูความหลากหลายทางชีวภาพ โดยทดลองระบบการผลิตให้อยู่ร่วมกับการฟื้นป่ากลับมาใหม่ ไม่ใช่ป่าต้องอยู่แต่ในอุทยานแห่งชาติเท่านั้น พื้นที่เกษตรกรรมหรือพื้นที่ในเมืองก็สามารถเข้าสู่กระบวนการ Rewild ได้ การทำพื้นที่ชุ่มน้ำที่เป็นบ้านของพืชและสัตว์พื้นถิ่นจึงเกิดขึ้น เพราะสามารถเข้ากับการทำนาได้ดี
นิเวศของพื้นที่ชุ่มน้ำ
“บ้านต้องมีโครงสร้างใช่ไหมคะ ระบบนิเวศก็เช่นกัน สำหรับ Wetland (พื้นที่ชุ่มน้ำ) โครงสร้างก็คือชายน้ำที่มีความลึกต่างกัน ตั้งแต่ชายน้ำที่น้ำไม่ท่วม ส่วนที่น้ำท่วมบ่อย ไปจนถึงที่ลึกไปเลย ทั้งหมดคือโครงสร้างที่พืชและสัตว์อาศัยอยู่ มีพงต้นแขม มีบัวให้สัตว์ได้มาวางไข่” ดร.อ้อย นักนิเวศวิทยาผู้ก่อตั้ง ทุ่งน้ำนีนอย มานานกว่า 2 ปี อธิบายให้เราฟัง
แต่ก่อนที่จะเริ่มทำให้น้ำมีความเหมาะสมกับการอยู่อาศัยที่ดีของสัตว์นั้น ต้องเริ่มมาจากคุณภาพน้ำที่ดีก่อน พื้นที่แห่งนี้จึงออกแบบใหม่เพื่อการบำบัดน้ำจากลำเหมืองสาธารณะที่อาจไม่ได้มีคุณภาพที่เหมาะสมนัก โดยวางบ่อไว้ตามจุดต่างๆ ดังนี้ เริ่มจากบ่อแรกเป็นบ่อพักตะกอนที่น้ำขุ่นๆ มาจะอยู่ในจุดนี้ก่อน สังเกตได้ว่าบ่อนี้จะไม่ค่อยอุดมสมบูรณ์หรือมีไม้น้ำขึ้นเท่าไร จากนั้นเข้าสู่บ่อถัดมาพร้อมกับทางน้ำที่คดเคี้ยวเพื่อเติมอากาศให้น้ำ และไหลไปยังพื้นที่น้ำแฉะ ก่อนไหลรวมลงบ่ออีกครั้ง และเดินทางไปยังบ่อที่มีคุณภาพน้ำดีอย่างบ่อใหญ่ที่เป็นบ่อบัวด้านติดกับที่พักอาศัย และแปลงกุหลาบต่อมา
สมดุล พึ่งพา เพื่อนและศัตรู
ในโซนแปลงกุหลาบตรงนี้เองถือเป็นแปลงการเกษตรที่มีความสมดุลและน่าสนใจ เนื่องจากกุหลาบมักเป็นที่ชื่นชอบของศัตรูพืชหลายชนิด แต่กุหลาบที่นี่ยังคงออกดอกงาม สามารถนำไปทำชากุหลาบได้โดยไม่ต้องกังวลกับสารเคมี ในแปลงนี้ยังพบแมงมุมอีกกว่า 50 สายพันธุ์ที่มาช่วยกินศัตรูพืช ดร.อ้อย อธิบายว่า “ชีวิตต่างๆ ช่วยกันกำกับวงจรนิเวศให้เรา ระบบนิเวศจะมีเพื่อนและศัตรู ถ้าเราขอความช่วยเหลือจากเพื่อนๆ ในระบบนิเวศ ชีวิตเราก็ง่ายขึ้น
“นอกจากนี้น้ำรอบแปลงยังเป็นแหล่งอาศัยของปลากัดที่ชอบอยู่ในน้ำสะอาด และปลาอื่นๆ อีกหลายชนิด แสดงให้เห็นว่าคุณภาพน้ำในจุดนี้เมื่อได้รับการบำบัดตามธรรมชาติแล้วดีเพียงใด หรือบางคนอาจสงสัยว่าที่นี่ต้องมียุงเยอะแน่เลย แต่ก็ไม่ใช่ เพราะเรามีแมลงปอเยอะเช่นกัน แมลงปอตัวหนึ่งจะกินยุงถึงวันละร้อยตัว เลยไม่ได้มียุงเยอะอย่างที่บางคนเข้าใจ”
พฤติกรรมของสัตว์ที่เปลี่ยนไป
ดร.อ้อยยังขยายความต่อไปอีกว่า ตอนนี้ที่นี่มีนกหลายชนิดเข้ามาพักพิง โดยไม่ได้มุ่งหวังว่าต้องมีนกหายากให้เห็น แต่ดีใจที่พฤติกรรมของนกที่มาเปลี่ยนไป จากเดิมนกกวักแถวนี้ที่พอมาก็จะกลัวคน มาตรงบ่อก็จะรีบวิ่งผ่าน พอนกรุ่นที่สองที่เกิดขึ้นและเรียนรู้ก็จะกลัวคนน้อยลง นกจะลงมาใช้ชีวิตสบายๆ ขึ้นในที่แห่งนี้ มีเป็ดแดงมาอยู่โดยไม่ต้องกลัวคนมายิง
ทั้งหมดนี้ถือเป็นต้นแบบที่ดีในการคืนความเป็นป่าให้กลับเข้ามามีส่วนร่วมกับคนอีกครั้ง และเป็นกรณีศึกษาที่น่าสนใจของพืชพรรณไม้พื้นถิ่นที่ช่วยสร้างความหลากหลายทางชีวภาพให้แต่ละพื้นที่ ท่ามกลางวิกฤตด้านสิ่งแวดล้อมที่กำลังดำเนินอยู่ และเป็นส่วนหนึ่งของแรงบันดาลใจในพื้นที่สวนโชว์ของงานบ้านและสวนแฟร์ Living Festival 2023 ซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ 27 ตุลาคม – 5 พฤศจิกายนนี้ ณ อาคารชาเลนเจอร์ อิมแพ็ค เมืองทองธานี ออกแบบโดยสถาปนิกจาก ใจบ้านสตูดิโอ ซึ่งเคยทำงานร่วมกับดร.อ้อย ในทุ่งน้ำนูนีนอยแห่งนี้เช่นกัน
เรื่อง : สมัชชา วิราพร
ภาพ : ฤทธิรงค์ จันทองสุข