ธรรมชาติแค่เอื้อมในสวนรอบบ้านจัดสรร
ต้นไม้สูงเท่ากับตึกสี่ชั้นบดบังตัวบ้านด้านในให้ดูร่มรื่นตาตั้งแต่ยังไม่เข้าไป พื้นที่ 125 ตารางวาของบ้านหลังนี้แต่เดิมก็เหมือนเช่นบ้านจัดสรรทั่วไปซึ่งมี สวนรอบบ้าน มีสนามหญ้า มีต้นไม้ใหญ่
แต่ก็ยังไม่ได้ใช้ประโยชน์อย่างจริงจัง กระทั่งเมื่อราวหนึ่งปีก่อนมีการปรับปรุงสวนใหม่ จัดการพื้นที่ใช้งานโดยเปิดสเปซให้โล่งขึ้นและมีน้ำตกขนาดย่อมอยู่มุมหนึ่ง สร้างบรรยากาศอันแสนผ่อนคลายใน สวนรอบบ้าน
คุณสุหฤท สยามวาลา คือเจ้าของบ้านที่แวดล้อมด้วยสวนเขียวชอุ่มแห่งนี้ หลายคนรู้จักเขาดีด้วยบุคลิกอันโดดเด่น มีแนวคิดและมุมมองแบบก้าวหน้า อีกทั้งบทบาทการเป็นกรรมการผู้จัดการ บริษัทดีเอชเอ สยามวาลา จำกัด ดีเจ และครั้งหนึ่งเขายังเคยเป็นผู้สมัครผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครซึ่งได้รับการจับตามองมากอีกท่านหนึ่ง ในวันที่ฝนพรำนิดๆ เราก็ได้มานั่งพูดคุยกับเขาด้วยเรื่องเบาๆภายในสวนซึ่งเขาบอกว่าเป็นมุมโปรดที่ออกมานั่งทุกวัน
“สวนเดิมมากับโครงการไม่มีอะไร มีแค่ต้นไม้ใหญ่ หญ้าตายๆ ปัญหาคือด้านหน้ากลายเป็นพื้นที่ตาย หมายถึงไม่เคยใช้อะไรเลย ขนาดเดินยังไม่เคยออกมาเลย ไม่รู้จะออกมาทำอะไร ก็เลยคุยกับนักจัดสวนว่าผมอยากให้ตรงนี้มีชีวิตขึ้น ให้สวนด้านหน้าได้ใช้งาน ไม่อย่างนั้นมันก็หายไป ออกด้านหลังก็ไม่เคยมาอยู่กับสวน ผมไม่ดูรายละเอียดอะไรมาก ดูแบบโอเคชอบ จบ ลุยเลย แฮปปี้มาก”
เมื่อเราถามไถ่ถึงจักรยานที่จอดอยู่หน้าบ้าน คุณสุหฤทเล่าเพิ่มเติมว่าเขาปั่นจักรยานไปทำงานทุกวัน ซึ่งเป็นไลฟ์สไตล์แบบเอ๊าต์ดอร์ที่น่าสนใจไม่น้อย
“ผมจะออกจากบ้าน 7.30 น. ปั่นจักรยานไปทำงาน ระยะทางประมาณ 18-20 กิโลเมตร แล้วแต่เส้นทางที่ไป ส่วนมากจะไม่ใช้เส้นทางเดิม พอไปถึงก็อาบน้ำ ทำงาน วันไหนไปโรงงานก็ขี่มอเตอร์ไซค์บ้าง ผมคิดว่ามันทำให้ชีวิตแตกต่างไม่จำเจ ปั่นดูสาวๆออฟฟิศมีความสุข (หัวเราะ) แล้วมันลงตัวคือไม่เพิ่มกิจกรรมใหม่ในชีวิต ไม่เหมือนตื่นหกโมงไปวิ่ง อันนั้นไม่ไหว ปั่นจักรยานก็คือใช้เวลาช่วงไปทำงาน อาบน้ำก็ไปอาบที่นู่น คือทุกอย่างแบบเดิมเลย
“ตอนสมัครผู้ว่าฯ มีความรู้สึกว่าเราปั่นไปแล้วเราเห็นชีวิต เห็นว่าความเร่งรีบมันเป็นอย่างไร แต่ไม่ได้ปั่นเพื่อไปดูชีวิตใครนะ เราปั่นเรามีความสุขของเรา ไปเรื่อยๆ ค่อยๆไป ระวังหน่อย ประหยัด เร็ว สะดวก พอหลังเลือกตั้งเราก็เออเว้ยมีความสุข จักรยานมันเปลี่ยนชีวิตคน ก็ปั่นมาตลอด อีกอย่างคือเราก็เคยสัญญาว่าถ้าเราได้ เราก็จะปั่นไปทำงาน ไม่ได้ไม่เป็นไร เรายังรักษาคำพูดของเรา”
อ่านต่อหน้า2