จากนักออกแบบสู่อาชีพเกษตรกรที่ปลูกความสุขในสวนมังคุด “สวนบ้านแม่”
“2 วินาที” คือระยะเวลาขายต่อรอบที่เร็วที่สุดของการเปิดจองมังคุด ผ่านช่องทางออนไลน์ในปริมาณ 1,000 กิโลกรัม หรือ 1 ตัน ปรากฎการณ์นี้ไม่ได้เกิดขึ้นเองโดยธรรมชาติ หรือเกิดขึ้นเพราะโชคช่วย แต่นี่คือผลสำเร็จที่เกิดจากการวางแผนในการทำเกษตรของนักออกแบบผู้เรียกตัวเองในตอนนี้ว่า ‘เกษตรกร’
คุณปอ ธนวัฒน์ มโนวชิรสรรค์ นักออกแบบผู้หนีจากชีวิตสูตรสำเร็จในกรุงเทพฯ กลับสู่อ้อมกอดของบ้านเกิดในจังหวัดพังงา ที่ที่เขาเรียกว่า “บ้าน” เพื่อใช้เวลาที่มีร่วมกับ “แม่” ที่เขารัก
“เหตุผลหลักที่กลับมา เพราะมาอยู่เป็นเพื่อนแม่ครับ ที่นี่ท่านก็อยู่คนเดียว ตอนนั้นช่วงเวลาแม่กับผมอาจจะไม่ตรงกันเท่าไรถ้าเราไม่เริ่มคิดจะมาอยู่กับเขา ชีวิตช่วงนี้มันอาจจะไม่เจอกัน เลยอยากกลับมาอยู่ด้วยเผื่อจะช่วยอะไรได้บ้าง”
กลับบ้าน เพื่อกลับมาทำอาชีพดั้งเดิมของครอบครัว คือจุดหมายใหม่ของนักออกแบบหนุ่ม โดยดึงความรู้ด้านการออกแบบมาประยุกต์กับ สวนมังคุดบนพื้นที่กว่า 30 ไร่ ภูมิปัญญาในการทำเกษตรแบบดั้งเดิมของแม่ โดยสื่อสารภายใต้ชื่อ “สวนบ้านแม่” สวนผลไม้ไทยที่ทุกคนสามารถซื้อผลไม้ในชะลอมเป็นของฝากได้ พร้อมทั้งต่อยอดในการขายในโลกออนไลน์อีกขั้น
“รายได้ของชาวสวน มันไม่ได้มาก ปลูกได้ก็ขายให้กับคนกลาง รายได้ของชาวสวนไม่สามารถที่จะเลี้ยงดูตัวเองได้ตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว ก็เลยจุดประกายให้อยากทำในสิ่งที่เรามีให้มันมีคุณค่ามากขึ้น”
“ทำอย่างไรก็ได้ให้มังคุดสด ๆ ส่งไปถึงปลายทางในสภาพที่ยังสดที่สุด” แนวคิดนี้จุดประกายให้เกษตรกรหน้าใหม่สร้างจุดขาย โดยใส่ชุดความคิดใหม่ให้ผู้คนได้รับรู้และเชื่อว่ามังคุดจาก สวนบ้านแม่ ที่จะส่งไปถึงพวกเขานั้นคือมังคุดสีแดง สดใหม่ อย่างที่เห็นในช่องทางออนไลน์ของสวน
มังคุด อีกหนึ่งไม้ผลยอดนิยมของเมืองไทยและต่างประเทศ แต่มังคุดสีดำคล้ำที่พบเห็นทั่วไปในท้องตลาดนั้น เป็นบาดแผลจากการเดินทางสู่เมือง ทั้งที่แท้จริงแล้วมังคุดสด ๆ จากสวน มีผลสีแดงและเปลือกชั้นในเป็นสีขาวอมชมพูไม่ต่างไปจากเนื้อมังคุดที่รับประทาน และมังคุดสีแดงจากสวนบ้านแม่จะเป็นประสบการณ์ที่สดใหม่ของลูกค้าคนเมือง
“พอเวลาผ่านไป คนเชื่อมั่นมากขึ้นยอดขายก็เร็วขึ้นด้วย ที่เร็วที่สุดที่เราเปิดจอง เราขายได้ 1 ตัน ภายใน 2 วินาที มันเลยทำให้มีกำลังใจและธุรกิจก็เดินหน้าไปได้”
ตัวเลขรายได้อาจจะเป็นตัวชี้วัดความสำเร็จในแง่ยอดขาย แต่ระหว่างทางไปสู่เป้าหมายนั้น คุณปอบอกไว้ว่าเขามีพาร์ทเนอร์ที่ร่วมเดินทางกับเขาเสมอมา นั่นคือ แทรกเตอร์คูโบต้า เพื่อนคู่หูที่ทักทายจากนอกหน้าต่าง หลังจากก้าวมาเป็นชาวสวนเต็มตัว
“เช้าวันหนึ่งเห็นแทรกเตอร์จอดอยู่ในสวน พ่อบอก ‘หัดขับให้เป็น’ หลังจากนั้นก็เหมือนกับเราก็มีกำลังใจนะ การจะทำสวน 30 ไร่ คนเดียวถ้าไม่มีเครื่องจักรจะช้า กินแรง และใช้เวลายาวนานมาก พอหัดใช้แทรกเตอร์คูโบต้าก็เริ่มคล่องขึ้น ได้ความรวดเร็วช่วยทุ่นแรงได้มาก”
ของขวัญจากพ่อคือเครื่องทุ่นแรงชั้นเยี่ยม ด้วยประสิทธิภาพของแทรกเตอร์คูโบต้าเป็นที่รู้จักในวงกว้าง สามารถลุยสมบุกสมบัน ทำงานได้กับทุกสภาพพื้นที่ แม้จะเป็นโซนลึก ๆ ของสวนก็สามารถบุกเข้าไปเคลียร์พื้นที่ได้ ลากท่อนไม้จากการตัดแต่งออกมาทิ้ง สร้างความเป็นระเบียบ และ จัดการสวนได้ง่าย ประหยัดแรงมากยิ่งขึ้นด้วยฟังก์ชันอเนกประสงค์ทั้งดันดิน บุกเบิก ตัดหญ้าครบหมดทั้งงานไร่งานสวน แต่สำหรับคุณปอ แทรกเตอร์คูโบต้าเป็นเสมือนทีมหลักอีกคนที่ช่วยจัดการสวน แม้เป็นงานที่ต้องใช้กำลังแรงก็สามารถจัดการคนเดียวได้
” แทรกเตอร์คูโบต้า ช่วยผมได้เยอะ แค่ปีเดียวผมเห็นผลเลยว่าเราควรจะไปในทิศทางไหน อุ่นใจเหมือนกับเรามีทีมของเราอยู่ คอยเป็นกำลังเสริมให้เรา“
ระยะเวลากว่า 7 ปี ของการเปลี่ยนสู่อาชีพเกษตรเพื่อคนที่รัก แม้ว่าวันนี้คุณแม่ของคุณปอได้จากไป แต่รอยยิ้มและภาพของการลงมือทำ ได้เปลี่ยนไปสู่สิ่งที่ดีขึ้น เป็นความสุขที่ส่งต่อไปให้คนรอบข้าง และท่านได้เห็นเส้นทางของความสำเร็จเหล่านี้
“เป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องนะที่กลับมาทำเกษตร กลับมาอยู่กับแม่ ได้กลับมารักษาที่นี่ เราได้สานต่อสิ่งที่พ่อกับแม่รักและสร้างมันขึ้นมาผมรู้สึกโชคดีที่พ่อกับแม่ได้เห็นความสำเร็จตรงนี้ครับ มันยังทันเวลาและมันก็คงเป็นหน้าที่ของผมที่จะต้องรักษาที่นี่เอาไว้ต่อไปครับ”
สัมผัสความสุขอย่างเต็มรูปแบบของคุณปอ นักออกแบบและเกษตรกรที่ปลูกความสุขเพื่อคนที่รักได้ที่ >> https://bit.ly/3RoScFM
เลือกแทรกเตอร์คูโบต้าเป็นผู้ช่วยในการทำเกษตร สอบถามและรับโปรโมชันพิเศษได้ที่ >> https://bit.ly/3y2LT3M