ปลูกผักในกระถาง 10 ผักนอกปลูกง่าย ให้ผลผลิตดีเหมือนลงแปลง - บ้านและสวน
ปลูกผักในกระถาง

10 ผักนอกปลูกง่าย ปลูกในกระถาง ให้ผลผลิตดีเหมือนปลูกลงแปลง

สำหรับมือใหม่ที่ไม่เคยปลูกผักมาก่อน อยาก ปลูกผักในกระถาง ปลูกผักทานเอง ควรเริ่มต้นด้วยการเลือกพันธุ์ผักที่ปลูกเลี้ยงไม่ยากนักเพื่อฝึกมือก่อน และเรียนรู้ปัญหาต่าง ๆ แล้วจึงเริ่มปลูกผักชนิดอื่น จะช่วยให้ประสบความสำเร็จในการปลูกผักได้มากขึ้น

โดยสามารถเลือกปลูก ปลูกผักในกระถาง ลงแปลง กระบะ หรือภาชนะก็ได้ ขึ้นอยู่กับพื้นที่ ชนิดผัก และความต้องการของผู้ปลูก

การปลูกผักต่างประเทศหรือผักนอก ทั้งปลูกผักในกระถาง ปลูกลงแปลง ให้ประสบความสำเร็จ มีเทคนิคไม่ต่างจากการปลูกผักสวนครัวที่เราคุ้นเคยกันอยู่แล้ว เพียงแค่ต้องเรียนรู้ควบคู่กับการลงมือทำ พร้อมศึกษาและทดลองเทคนิคใหม่ ๆ อยู่เสมอ

ปลูกผักในกระถาง

มือใหม่และผู้ที่มีพื้นที่จำกัด อาจเลือกปลูกผักในภาชนะ ซึ่งมีข้อดีคือ ประหยัดพื้นที่ สามารถเคลื่อนย้าย จัดการดูแล รดน้ำ ใส่ปุ๋ย กำจัดวัชพืช ทั้งยังเก็บเกี่ยวได้สะดวก

สิ่งสำคัญที่ต้องคำนึงถึงเมื่อปลูกผักในภาชนะก็คือดินปลูกต้องระบายน้ำได้ดีพอ อีกทั้งควรเลือกขนาดภาชนะปลูกให้เหมาะสมกับชนิดผัก เพื่อให้สามารถเจริญเติบโตและให้ผลผลิตได้ดี ไม่แพ้การปลูกลงแปลง เช่น มะเขือเทศควรปลูกในกระถางที่มีเส้นผ่านศูนย์กลางตั้งแต่ 12 นิ้วขึ้นไป และลึกกว่า 12 นิ้ว ผักกินรากอย่างแรดิชอาจปลูกในกระถางที่มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 4-6 นิ้ว หรือพวกหอมหัวใหญ่ หอมแบ่ง ผักชี ซึ่งมีระบบรากไม่ลึกนัก สามารถปลูกในภาชนะตื้น ๆ ได้ เป็นต้น นอกจากนี้ ผู้ปลูกควรย้ายปลูกต้นกล้าที่อายุเหมาะสม และเก็บเกี่ยวเมื่อพืชผักเจริญเติบโตจนมีอายุแก่พอเหมาะ

ปลูกผักในกระถาง

เราได้คัดมาให้นักปลูกผักมือใหม่กับ 10 ผักนอกที่ปลูกได้ง่ายในภาชนะ แถมยังให้ผลผลิตดีเหมือนปลูกลงแปลง จะมีชนิดใดบ้าง มาดูกัน

ผักสลัด

ปลูกผักในกระถาง

ผักกินใบยอดฮิตที่ปลูกในภาชนะได้ดี ปลูกได้ตลอดปี สามารถเลือกใช้รูปแบบภาชนะได้ตามความต้องการ ไม่ว่าจะเป็นกระถางพลาสติก ถุงพลาสติก ถุงปลูก กระสอบ หรือกระถางประดิษฐ์จากวัสดุเหลือใช้ โดยให้มีความลึก 10-20 เซนติเมตร ก็เพียงพอแล้ว เนื่องจากผักสลัดมีระบบรากที่ไม่หยั่งลึกมากนัก แต่ให้เน้นความกว้างของภาชนะ เพื่อช่วยกำหนดขนาดของต้นผักและระยะปลูกที่เหมาะสม

การปลูกผักสลัดในภาชนะ ควรใช้กระถางขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 6-8 นิ้ว กระถางละ 1 ต้น ย้ายปลูกเมื่อต้นกล้ามีอายุ 15-18 วัน โดยอายุเก็บเกี่ยวที่เหมาะสมคือ 45-60 วันนับจากเมล็ดงอก (ขึ้นกับพันธุ์)

เคลหรือคะน้าใบหยิก

ปลูกผักในกระถาง

ผักนอกที่มาแรงมากในยุคนี้ บ้านและสวนไหน ๆ ก็ปลูกกัน เพราะเป็นผักกินใบอายุหลายปีที่ปลูกและดูแลง่าย มีหลายสายพันธุ์ให้เลือกปลูก ทั้งแบบใบหยิกสีเขียว ใบหยิกสีม่วงถึวแดง ใบยาวสีเขียว และใบยาวสีม่วงถึงน้ำตาล สามารถปลูกได้ตลอดปี

การปลูกเคลในภาชนะ ควรใช้กระถางขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 12 นิ้วขึ้นไป กระถางละ 1 ต้น ย้ายปลูกเมื่อต้นกล้ามีอายุ 18-21 วัน สามารถเก็บเกี่ยวโดยทยอยตัดใบล่างไปรับประทานได้เรื่อย ๆ ตั้งแต่ต้นมีอายุ 45 วันเป็นต้นไป

ซอร์เรล

ปลูกผักในกระถาง

ผักนอกใบลายสวย เหมาะสำหรับมือใหม่ เนื่องจากปลูกเลี้ยงง่าย ไม่ค่อยมีโรคและแมลงศัตรูรบกวน เจริญเติบโตได้ดีเมื่อปลูกในบริเวณที่มีแสงแดดรำไรถึงแดดจัด ชอบดินร่วนซุยระบายน้ำดี ไม่ขังแฉะ และมีอินทรียวัตถุสมบูรณ์ สามารถปลูกได้ตลอดปี แต่จะให้ผลผลิตดีที่สุดในช่วงฤดูหนาว

การปลูกซอร์เรลในภาชนะ ควรใช้กระถางขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 6 นิ้วขึ้นไป กระถางละ 1 ต้น ย้ายปลูกเมื่อต้นกล้ามีอายุประมาณ 30 วัน จะเห็นก้านและใบชัดเจน เก็บเกี่ยวโดยตัดใบอ่อนมารับประทานสดเป็นสลัดผัก หรือทยอยตัดใบแก่เมื่อต้นมีอายุ 45 วันเป็นต้นไป

สวิสชาร์ด

ปลูกผักในกระถาง

ผักนอกก้านใบสีสันสวยงามหลายสี เช่น แดง ส้ม เหลือง ชมพู ม่วง และขาว เจริญเติบโตได้ดีเมื่อปลูกในบริเวณที่มีแสงแดดจัดดินร่วนซุยระบายน้ำดี ไม่ขังแฉะ และมีอินทรียวัตถุสมบูรณ์ สามารถปลูกได้ตลอดปี แต่จะให้ผลผลิตดีที่สุดในช่วงฤดูหนาว

การปลูกสวิสชาร์ดในภาชนะ ควรใช้กระถางขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 12 นิ้วขึ้นไป กระถางละ 1 ต้น ยิ่งกระถางมีขนาดใหญ่ยิ่งดี เพราะช่วยให้ต้นแตกกอได้ดีขึ้น ย้ายปลูกเมื่อต้นกล้ามีอายุ 15-18 วัน เก็บเกี่ยวโดยตัดต้นอ่อนและใบอ่อนมารับประทานสด หรือทยอยตัดใบแก่เมื่อต้นมีอายุ 45 วันเป็นต้นไป

มิซูน่าหรือผักน้ำญี่ปุ่น

ผักพื้นเมืองจากญี่ปุ่น ก้านใบสีขาว ใบเรียวยาว และขอบใบหยักเหมือนฟันเลื่อย ใบมีรสฝาด เผ็ดเล็กน้อยและฉุนคล้ายผักตระกูลกะหล่ำ ปลูกเลี้ยงง่าย โตเร็ว เมื่อปลูกในบริเวณที่มีแสงแดดรำไรถึงแดดจัด ดินร่วนซุยระบายน้ำดี และมีอินทรียวัตถุสมบูรณ์ สามารถปลูกได้ตลอดปีถ้ามีการจัดการน้ำดี

การปลูกมิซูน่าในภาชนะ ควรใช้กระถางขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 6-8 นิ้ว กระถางละ 1 ต้น ย้ายปลูกเมื่อต้นกล้ามีอายุ 15-18 วัน เก็บเกี่ยวโดยทยอยตัดใบล่างมารับประทานเมื่อต้นมีอายุ 45 วัน นิยมกินสดเป็นสลัดผักและตกแต่งจานอาหารหรือนำไปต้มเป็นน้ำซุปสูตรญี่ปุ่น

กวางตุ้งฮ่องเต้

ผักนอกลำต้นและใบอวบน้ำ โคนก้านใบกว้างและหนาปลายใบมน ไม่ห่อหัว โตเร็ว มีหลายพันธุ์ให้เลือกปลูก ค่อนข้างทนต่อสภาพอากาศร้อน แต่ไม่ทนความแห้งแล้ง จึงต้องรดน้ำอย่างสม่ำเสมอ สามารถปลูกได้ทุกพื้นที่และให้ผลผลิตได้ตลอดปี แต่จะให้ผลผลิตดีที่สุดในช่วงฤดูหนาว

การปลูกกวางตุ้งฮ่องเต้ในภาชนะ ควรใช้กระถางขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 6-8 นิ้ว กระถางละ 1 ต้น ย้ายปลูกเมื่อต้นกล้ามีอายุ 15-18 วัน เก็บเกี่ยวโดยตัดชิดโคนต้นหรือถอนทั้งต้นเมื่อมีอายุ 45-50 วัน อย่าปล่อยให้ต้นแก่เกินไป เพราะคุณภาพจะต่ำลง

มะเขือเทศ

ผักกินผลยอดนิยม อุดมด้วยสารไลโคปีนที่ช่วยป้องกันและลดความเสี่ยงการเกิดโรคหัวใจและมะเร็ง เป็นไม้เลื้อยอายุสั้น ต้องการแสงแดดในการเจริญเติบโตค่อนข้างมาก มีหลายพันธุ์ให้เลือกปลูก ทั้งพันธุ์ที่มีขนาดผลใหญ่ และผลเล็ก เช่น มะเขือเทศผลใหญ่ มะเขือเทศเชอร์รี่ มะเขือเทศราชินี มะเขือเทศสีดา รวมทั้งมะเขือเทศพันธุ์พื้นบ้านของไทย

การปลูกมะเขือเทศในภาชนะ ควรใช้กระถางขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 12-15 นิ้ว กระถางละ 1 ต้น ย้ายปลูกเมื่อต้นกล้ามีอายุ 21-30 วัน เก็บเกี่ยวเมื่อต้นมีอายุประมาณ 70-90 วัน (ขึ้นอยู่กับพันธุ์) สามารถเก็บเกี่ยวต่อเนื่องได้ 6 เดือน โดยทยอยเก็บผลที่เปลี่ยนสีประมาณ 50%

กะหล่ำปมหรือโคห์ลราบี ปลูกผักในกระถาง

ผักนอกตระกูลกะหล่ำที่ชอบอากาศเย็น แต่ก็สามารถปลูกได้ในกรุงเทพฯ ลำต้นเหนือดินมีข้อปล้องสั้นและขยายออกเป็นรูปทรงกลมเรียกว่าปม มีทั้งชนิดลำต้นสีเขียวและสีม่วง สามารถปลูกได้ตลอดปี แต่ให้ผลผลิตดีที่สุดในช่วงฤดูหนาว โดยต้องมีการให้น้ำอย่างสม่ำเสมอ 

การปลูกกะหล่ำปมในภาชนะ ควรใช้กระถางขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 12 นิ้วขึ้นไป กระถางละ 1 ต้น ย้ายปลูกเมื่อต้นกล้ามีอายุ 21-30 วัน เก็บเกี่ยวโดยตัดปมเมื่อต้นมีอายุประมาณ 50-90 วัน (ขึ้นอยู่กับพันธุ์และฤดูกาล) หากเก็บเกี่ยวในระยะที่แก่เกินไป ปมจะเป็นเสี้ยนและมีคุณภาพต่ำ

แรดิช

ปลูกผักในกระถาง

ผักนอกที่กำลังได้รับความนิยม ปลูกง่าย โตเร็ว เหมาะสำหรับมือใหม่ ส่วนที่นำมาบริโภคคือรากสะสมอาหารที่อยู่ใต้ดิน ซึ่งเป็นรากแก้วที่พองโต เรียกว่าหัว รูปกลมหรือรูปไข่ตามสายพันธุ์ ผิวสีแดงหรือชมพู เนื้อในสีขาวนวลหรือสีชมพู มีกลิ่นฉุนเล็กน้อย สามารถปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมต่าง ๆ ได้ดีจึงปลูกได้ตลอดปี

การปลูกแรดิชในภาชนะ ควรใช้กระถางขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 6 นิ้ว กระถางละ 1 ต้น ย้ายปลูกเมื่อต้นกล้ามีอายุประมาณ 15 วัน เก็บเกี่ยวโดยถอนทั้งต้นเมื่อมีอายุประมาณ 40-45 วันหลังย้ายปลูก หรือสังเกตต้นที่โตเต็มที่ หัวไม่อ่อนหรือแก่เกินไป หากเก็บเกี่ยวช้าหัวจะโตขึ้น แต่เนื้อจะแข็งและกรอบน้อยลง

บีตรู้ต ปลูกผักในกระถาง

ปลูกผักในกระถาง

ผักนอกปลูกง่ายในกรุงเทพฯ ส่วนที่นำมาบริโภคคือรากสะสมอาหารที่อยู่ใต้ดิน ซึ่งเป็นรากแก้วที่พองโต เรียกว่าหัว รูปทรงกลมป้อม ผิวสีม่วงอมแดงหรือชมพู เนื้อในอวบน้ำ สีแดงเลือดหมู สีเหลือง หรือสีขาว ขึ้นอยู่กับพันธุ์ ควรปลูกในบริเวณที่มีแสงแดดจัด ดินร่วนปนทรายหรือดินที่ร่วนซุย ระบายน้ำและอากาศดี หน้าดินลึก 20 เซนติเมตรขึ้นไป จะช่วยให้รากเจริญได้ดี

การปลูกบีตรู้ตในภาชนะ ควรใช้กระถางขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 8 นิ้วขึ้นไป กระถางละ 1 ต้น ย้ายปลูกเมื่อต้นกล้ามีอายุประมาณ 15 วัน เก็บเกี่ยวโดยถอนทั้งต้นเมื่อมีอายุประมาณ 80-90 วัน ระวังไม่ให้ผิวถลอกหรือช้ำ

เบบี้แครอต ปลูกผักในกระถาง

เป็นผักนอกกินรากที่สามารถปลูกได้ตลอดปี การปลูกในภาชนะ ควรใช้กระถางขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 12 นิ้วขึ้นไป ย้ายปลูกเมื่อต้นกล้ามีอายุประมาณ 15-20 วัน ระวังไม่ให้รากขาดและเก็บเกี่ยวโดยถอนทั้งต้นเมื่อมีอายุประมาณ 60-70 วัน หากเก็บเกี่ยวช้า หัวจะมีคุณภาพไม่ดี

นอกจากผักนอก 10 ชนิดที่แนะนำนี้ ยังมีผักนอกอีกหลายชนิดที่ปลูกได้ดีในภาชนะ รวมถึงวิธีการดูแลที่เหมาะสม ติดตามอ่านได้เพิ่มเติมในหนังสือชุดคู่มือการเกษตร ผักนอกปลูกง่าย ทำได้ทุกฤดู โดยสำนักพิมพ์บ้านและสวน

เรื่อง : อังกาบดอย

ภาพ : สิทธิศักดิ์ น้ำคำ, อนุพงษ์ ฉายสุขเกษม

“ปูเป้ทำเอง” สวนครัวหน้าบ้านของคนที่ทำทุกอย่างใช้เอง

เรื่องต้องรู้ในการสร้างโรงเรือน สำหรับปลูกผักและทำงานในสวน