โรคตึกเป็นพิษ ภัยร้ายในอาคารที่ซินแสแก้ไม่ได้แต่คุณหมอรู้วิธี

บรรยากาศที่เงียบสงบ ดีไซน์สวยทันสมัย เฟอร์นิเจอร์ที่ออกแบบมาอย่างสวยหรู ท่ามกลางบทสนทนาที่ห้อมล้อมด้วยพลังบวกจากเพื่อนร่วมงาน นี่เหมือนจะเป็นออฟฟิศในฝันที่ชี้ชวนให้อยากเข้าทำงานแต่รู้หรือไม่ภายใต้ภาพลักษณ์อันสวยหรูที่คนทำงานต้องอาศัยอยู่ในอาคารสำนักงานเป็นเวลากว่า 40 ชั่วโมงในหนึ่งสัปดาห์นั้น มีภัยเงียบที่พร้อมทำลายสุขภาพซ่อนอยู่

เมื่ออยู่ในอาคาร ไม่ว่าจะเป็นบ้าน หรือสำนักงานไปนานๆ แล้วรู้สึกแสบจมูก แสบคอไอหอบ หายใจไม่สะดวกแน่นหน้าอก มีผื่นคัน ผื่นแดง ปวดมึนศีรษะหรือเวียนศีรษะหลายๆ คนมีอาการไม่ต่างกันทั้งที่ไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน อย่ากังวลถึงเรื่องฮวงจุยหรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ใดๆ ไม่ต้องย้ายตึกหนีไปไกล หรือทุบทิ้งแล้วสร้างตึกใหม่ เพราะนี้คืออาการบ่งชี้ที่บอกว่าร่างกายกำลังเผชิญกับภัยเงียบจากอาคารที่อยู่อาศัย หรือที่เรียกว่า Sick Building Syndrome

Sick Building Syndrome หรือ SBS คือโรคตึกเป็นพิษ ภัยสุขภาพที่ไม่ใช่เรื่องใหม่แต่เป็นเรื่องเงียบที่มักถูกมองข้ามไป จะถูกสนใจเมื่อร่างกายเริ่มแสดงอาการชัด ความน่ากลัวของโรคตึกเป็นพิษเกิดขึ้นจากวิถีการใช้ชีวิตประจำวันภายในอาคารที่ไม่ปลอดภัยยาวนานมากถึง 80-90 % ในแต่ละวัน ซึ่งไม่ใช่แค่ออฟฟิศสำนักงานเท่านั้น แต่ยังรวมถึงบ้าน คอนโดมิเนียม และอาคารทุกประเภทที่เข้าไปใช้ชีวิตแต่พื้นที่เหล่านั้นไม่ได้ปลอดภัยอย่างเช่นการตกแต่งที่สวยงามที่มองเห็น

ทำไมในอาคารถึงเป็นพิษ??

รศ.พญ.พรรณทิพา ฉัตรชาตรี แพทย์ผู้เชี่ยวชาญจากหน่วยภูมิแพ้และภูมิคุ้มกัน ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทยได้เล่าถึงสาเหตุที่ก่อให้เกิด Sick Building Syndrome ว่าเกิดขึ้นจากหลายสาเหตุด้วยกัน เช่น

1.การหมุนเวียนอากาศภายในอาคารที่ไม่เพียงพอ ทำให้อากาศเสียคั่งค้างอยู่ภายใน เช่นคาร์บอนไดออกไซด์ คาร์บอนมอนอกไซด์ เป็นต้น

2.เกิดสารเคมีที่มีต้นกำเนิดอยู่ในตัวอาคาร ไม่ว่าจะเป็นข้าวของเครื่องใช้ในชีวิตประจำวันที่ปนเปือนสารเคมีเช่น การทาสี เฟอร์นิเจอร์ การถ่ายเอกสาร น้ำยาเช็ดพื้นน้ำยาฆ่าเชื้อน้ำยาทำความสะอาด สเปรย์ฆ่าแมลงต่างๆ รวมถึง สาร VOCs สาร Formaldehydeควันบุหรี่ ซึ่งสารพิษเหล่านี้ทำให้เกิดปัญหาสุขภาพทั้งระยะสั้นระยะยาว และบางชนิดเป็นสารก่อมะเร็งได้ด้วย

3.สารเคมีหรือมลภาวะที่มาจากนอกอาคาร เช่น ควันพิษ การจราจรหรือ ฝุ่น PM 2.5

4.สารชีวภาพ จำพวกเชื้อโรคต่างๆ เช่น แบคทีเรียเชื้อราเชื้อไวรัส สารก่อภูมิแพ้ เช่น ไรฝุ่น เป็นต้น

ร่างกายส่งสัญญาณเตือนว่าตึกกำลังเป็นพิษ

จะเห็นได้ว่าต้นเหตุของโรคตึกเป็นพิษนั่นล้วนอยู่รอบตัวเราอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ กว่าจะรู้ตัวก็ตอนที่ร่างกายอาจจะแสดงอาการบ่งชี้ เช่นอาการทางเดินหายใจ ไอหอบ หายใจไม่สะดวกแน่นหน้าอก อาการทางผิวหนังผื่นคัน ผื่นแดง แสบจมูก แสบคอ ตาแดง แสบตา ปวดศีรษะ มึนงง ไม่มีสมาธิอ่อนเพลีย เป็นไข้และปวดเมื่อยตามตัว อาการเหล่านี้คล้ายกับอาการป่วยทั่วๆไป ทำให้หลายคนมองข้ามและเลือกรักษาที่ปลายเหตุแต่ต้นเหตุยังคงไม่ถูกแก้ไขทำให้เกิดขึ้นได้ซ้ำๆ จนส่งผลเสียในระยะยาว

ป้องกันและรักษาอย่างไร??

รศ.พญ.พรรณทิพาแนะนำวิธีป้องกันที่ต้นเหตุคือแก้ไขสิ่งแวดล้อมภายในอาคารให้มีสภาวะที่เหมาะสมไว้ว่า“หากจำเป็นต้องใช้อาคารนั้น ควรปรับปรุงการถ่ายเทอากาศ ขนย้ายหรือกำจัด สิ่งที่เป็นต้นเหตุ ของมลภาวะภายในอาคาร ติดตั้งเครื่องฟอกอากาศที่มีประสิทธิภาพ ผู้ที่อยู่อาศัยในอาคารก็จะต้องรักษาสุขภาพให้แข็งแรงเพื่อให้เกิดผลกระทบต่อสุขภาพให้น้อยที่สุดโดยเฉพาะผู้ที่เป็นภูมิแพ้จะเป็นผู้ที่มีความไวต่อสภาพแวดล้อมที่ไม่เหมาะสมในอาคารมากกว่าผู้ที่ไม่เป็นภูมิแพ้ดังนั้นจึงต้องควบคุมโรคภูมิแพ้ให้ดี เพื่อลดผลกระทบจาก Sick Building Syndrome”

ลดความเสี่ยงด้วยการตกแต่งอาคารให้ปลอดสารพิษ

แค่ดีไซน์ที่สวยงามทันสมัย อาจจะไม่เพียงพอสำหรับการตกแต่งภายในอาคาร แต่ต้องปลอดภัย ปลอดสารเคมีอันตราย เพื่อให้การใช้ชีวิตภายในอาคารห่างจากโรคตึกเป็นพิษ เริ่มจากการสร้างสภาพแวดล้อมให้บริสุทธิ์ด้วยสีฟอกอากาศ Nippon Paint AirCare ด้วยนวัตกรรมอัดแน่นกับฟิล์มสีที่มาพร้อมเทคโนโลยีแอคทีฟคาร์บอน (Active Carbon Technology) สามารถดูดซับสารพิษในอากาศอย่างสารฟอร์มัลดีไฮด์ซึ่งพบได้ใน วอลล์เปเปอร์ กาวสำหรับงานไม้ ไม้อัด เฟอร์นิเจอร์ สีทาบ้าน พรมปูพื้นวอลเปเปอร์ สาเหตุสำคัญของโรคตึกเป็นพิษ ทำงานด้วยการเปลี่ยนสารพิษเป็นไอน้ำแล้วปล่อยออกสู่พื้นที่ภายใน ทำให้ภายในอาคารสดชื่น สะอาด ปลอดภัยหมดกังวลเรื่องสารระเหยที่เป็นพิษสาเหตุของโรคตึกเป็นพิษที่เกิดจากคุณภาพอากาศภายในบ้าน

Nippon Paint AirCare ยังมีเทคโนโลยีซิลเวอร์ไอออน (Silver Ion Technology)เป็นประจุเงินที่ได้จากธรรมชาติที่มีความปลอดภัย มีคุณสมบัติในการกำจัดเชื้อไวรัสโคโรนาบนผนัง 99.96% และกำจัดเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่บนผนังได้ถึง 99.99% กลิ่นไม่ฉุน แห้งไว และปลอดสารระเหยต่ำ (Zero VOCs) จึงปลอดภัยต่อสุขภาพอย่างแท้จริง

มั่นใจมากยิ่งขึ้นด้วยมาตฐาน LEED V4.1 และ WELL V2 ซึ่งสี Nippon Paint AirCare ผ่านการทดสอบการระเหยของสารเคมีที่เป็นพิษตามมาตรฐานระดับโลก ทั้งมาตฐาน LEED V4.1 ที่รับรองอาคารเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมที่มีประสิทธิภาพสูงและมีสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมต่อการอยู่อาศัย ซึ่งหนึ่งในหลักเกณฑ์พิจารณาที่สำคัญคือคุณภาพสภาพแวดล้อมในอาคาร (Indoor Environmental Quality : IEQ) คือ ควบคุมสภาวะอากาศภายในอาคารเพื่อสภาวะอยู่สบายและสุขภาพที่ดีของผู้ใช้อาคาร ทั้งการระบายอากาศ การจัดการกับมลภาวะทางอากาศ การเลือกใช้วัสดุที่มีสารระเหยที่เป็นพิษต่ำ การส่งเสริมสภาวะอยู่สบาย การใช้แสงธรรมชาติและการออกแบบอาคารให้มองเห็นบรรยากาศภายนอก และการป้องกันการเกิดเชื้อรา

ส่วนมาตรฐาน WELL V2 หรือ WELL Building Standard คือมาตรฐานทางสุขภาวะแรกของโลกที่ให้ความสำคัญกับการส่งเสริมคุณภาพการอยู่อาศัยของผู้ใช้อาคาร ซึ่งทั้ง 2 มาตรฐานระดับโลกนี้เป็นเครื่องหมายการันตีถึงความปลอดภัยของสินค้าที่ได้รับการรับรองเป็นอย่างดี และมั่นใจได้ว่า Nippon Paint AirCare เป็นตัวช่วยที่ดีในการหนีไกลจากโรคตึกเป็นพิษได้อย่างแน่นอน

Nippon Paint AirCare ไม่เพียงแค่เป็นตัวช่วยที่ดีในการสร้างสภาพแวดล้อมให้ร่างกายห่างไกลจากโรค Sick Building Syndrome เท่านั้น แต่ยังเป็นตัวช่วยสำคัญในการเติมแต่งให้บ้านน่าอยู่ด้วยความสวยงาม ด้วยฟิล์มสีที่เรียบเนียน ทาง่าย ไม่มีกลิ่นฉุน ฟิล์มสีติดทนนาน ทำความสะอาดง่ายสามารถเช็ดได้มากถึง 200,000 ครั้ง เหมาะเป็นอย่างยิ่งสำหรับห้องเด็ก ห้องผู้สูงอายุ หรือผู้ป่วยที่ต้องรักษาความสะอาดให้พื้นที่นั้นปลอดเชื้อโรคอยู่เสมอ

นอกจากการสร้างสภาพแวดล้อมในบ้านให้บริสุทธิ์ปลอดภัย ลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคตึกเป็นพิษแล้ว การดูแลสุขภาพให้แข็ง ออกกำลังกายอยู่เสมอ และทานอาหารที่มีประโยชน์ครบตามหลักโภชนาการ ก็เป็นหนึ่งสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้ห่างไกลจากโรคต่างๆ ด้วย