10 ดอกไม้ริมรั้ว กินได้และสวยด้วย ในโซน Green Home Village
“ดอกไม้” นอกจากมีความสวยงามชื่นตาชื่นใจแล้ว บางชนิดยังช่วยให้อิ่มปากอิ่มท้องอีกต่างหาก ส่วนมากจะเป็นพวกยําสารพัดดอกไม้ ผักแกล้มหรือไม่ก็เอามาชุบแป้งทอด ซึ่งควรจะเด็ดดอกไม้ในสวนใกล้มือที่ปลูกไว้ในบ้านนี่แหละ เพราะมั่นใจได้ว่าปลอดภัยจากยาฆ่าแมลงและสารเคมีแบบร้อย เปอร์เซ็นต์ ซึ่งเรานำมาใช้จัดสวนในงานบ้านและสวนแฟร์ 2021 ระหว่างวันที่ 17 – 26 ธันวาคม 2564 ณ อาคาร 98 – 102 ไบเทค บางนา
1.ดอกบัวหลวง
เลือกแต่กลีบชั้นในมาทําเป็นเมี่ยงกลีบบัวหรือยํากลีบบัว(ระวังว่าต้องปลอดภัยจากยาฆ่าแมลง) ถ้าใช้กลีบด้านนอกจะไม่อร่อย หรือถ้าใครหาเกสรชมพู่ม่าเหมี่ยวไม่ได้ ลองใช้กลีบดอกบัวซอยละเอียด คลุกน้ํามะนาวนิดหน่อยกันดํา เวลากินรสชาติจะออกเปรี้ยวเหมือนเกสรชมพู่ม่าเหมี่ยวจริง ๆ เราสามารถปลูกใส่อ่างบัวหรือบ่อน้ำที่มีแดดเต็มวัน นอกจากดอกกินก็ได้ ดูก็สวย
2.ดอกเฟื่องฟ้า
ดอกเฟื่องฟ้าสารพัดสีปลูกง่ายออกดอกดก เวลาใช้อย่าลืมเด็ดเกสรที่ติดกับกลีบดอกออกก่อน และอย่าเลือกดอกแก่ที่เกสรบานแล้ว ที่สําคัญไม่ควรเก็บดอกเฟื่องฟ้าริมถนนมากินเพราะไม่สะอาด เก็บในบ้านหรือข้างบ้านปลอดภัยกว่ากันเยอะ นํามาประดับบนแผ่นก๋วยเตี๋ยวหลอดดูแล้วสวยงามมาก
3.ดอกพวงชมพู
ดอกพวงชมพูไม้เลื้อยที่สีและดอกสวย ดูอ่อนหวาน เราสามารถเด็ดมาโรยหน้าขนมบ้าง โรยบนสลัดผักบ้าง ตกแต่งอาหารบนจานได้ทุกชนิด เวลาใช้ควรเลือกดอกอ่อนหน่อย เวลากินจะได้ไม่สะดุดลิ้น
4.ดอกกุหลาบ
ควรใช้ดอกกุหลาบที่ปลูกเองถึงใช้ได้ แต่ถ้าซื้อมาไม่ควรกิน เพราะว่าต้องมียาฆ่าแมลงเคลือบอยู่ทุกกลีบ หากปลูกเองแล้วมีศัตรูพืชใช้น้ําหมักจากสะเดาราดกันแมลงได้ นํามาใช้ปรุงอาหารและประดับตกแต่งขนมจานโปรดได้ นำมาชุบแป้งทอด ใช้รับประทานเป็นผักร่วมกับน้ำพริกได้ กลีบกุหลาบที่ตากแห้งแล้วนำมาชงในน้ำเดือดก็จะได้ชากุหลาบ
5.ดอกอัญชัน
ไม้เลื้อยข้างรั้วที่กินได้อย่างสบายใจ แถมดอกดกจนกินแทบไม่ทัน เวลาใช้เด็ดขั้วสีเขียวทิ้งเสีย ดอกมาคั่นชงน้ําดื่มให้สีสันสวยงามสามารถใช้ทําขนมหรือโรยบนข้าวยําก็อร่อย รับประทานเป็นผักจิ้มน้ำพริกสด หรือนำมาชุบแป้งทอดก็ได้
6.ดอกโสน
กินเป็นผักเหนาะจิ้มน้ําพริก หรือทําขนมดอกโสนก็ได้มีสองแบบ แบบแรกเรียกว่า “โสนเค็ม” วิธีการทําคือ ล้างดอกโสนให้สะอาด พรมด้วยน้ําเกลือเล็กน้อย แล้วนํามาคลุกกับแป้งข้าวเจ้า จากนั้นจึงนําไปนึ่งจนสุก เวลารับประทานให้โรยด้วยมะพร้าวขูดและน้ําตาล รสชาติอร่อยเค็มปะแล่ม ๆ ส่วน“โสนหวาน” วิธีทําคล้ายกับโสนเค็ม แต่ต่างกันที่ต้องโขลกดอกโสนที่ผสมแป้งกับน้ําตาลมะพร้าวก่อนนําไปนึ่ง และกินคู่กับมะพร้าวขูด
7.ดอกดาหลา
จัดอยู่ในวงศ์พืชเดียวกันกับขิงและข่าหัวใต้ดินนํามาใช้ปรุงต้มยําได้ ส่วนกลีบดอกมีรสเผ็ดปร่าติดเปรี้ยวและหอมซ่าติดจมูก คนภาคใต้นิยมซอยใส่ข้าวยําเพื่อช่วยเสริมสรรพคุณขับลมคู่กับใบกระพังโหมเล็ก ส่วนภาคกลางนิยมนํากลีบดอกดาหลามายําสดๆ กับกุ้งและปลาหมึก ด้วยสีสัน กลิ่น และรสชาติเฉพาะตัว พร้อมสรรพคุณขับลมชั้นเลิศ
8. ดอกกระเจียวแดง
นิยมลวกช่อดอกอ่อน หน่ออ่อนของดอกกระเจียว กินแกล้มน้ําพริก กินเคียงกับอาหารรสเผ็ด เช่น ส้มตํา ยํา หรือ หั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ แกงร่วมกับผักหวานหรือผักสดนานาชนิด ไม่เพียงมีสารต้านอนุมูลอิสระสูงที่สุด ยังจัดเป็นดอกไม้ที่มีสารพฤกษเคมี เช่น สารประกอบฟีนอล ฟลาโวนอยด์ และแอนโทไซยานิน เป็นองค์ประกอบมากกว่าดอกไม้ชนิดอื่น โดยสารเหล่านี้มีคุณสมบัติต้านการอักเสบ ช่วยป้องกันและชะลอโรคจากความเสื่อม
9.ดอกอ่อมแซบ
ปลูกไว้ทานหรือปลูกประดับบ้านก็ได้ สามารถปลูกได้ทุกฤดูกาล โตง่าย ไม่ต้องดูแลมาก ใบยังนํามาบริโภคเป็นผักได้หลายเมนู ทั้งต้ม ผัด และแกงอ่อม โดยมีสรรพคุณทางสมุนไพร ช่วยแก้ ปวดบวม แก้ปวดตามข้อ ถ่ายพยาธิ สมานลําไส้ และลดไข้ได้ด้วย
10.ดอกดาวเรือง
ไม้ล้มลุก มีอายุได้ราว 1 ปี ดอกสดนำมาต้มกับน้ำผสมกับน้ำตาลรับประทาน ช่วยแก้อาการไอหวัด ไอกรน ไอเรื้อรัง นำมาอบแห้งเป็นชาได้ มีสารแซนโทฟิลมีสรรพคุณช่วยบำรุงสายตา รักษาสภาพผิวพรรณ และชะลอการแก่ก่อนวัยอันควรได้ดี