10 พรรณไม้ทนแล้ง สำหรับจัดสวนกลางแดดแบบไม่ต้องรดน้ำบ่อย
เพราะในปัจจุบันสถานการณ์ปรากฏการณ์ทางธรรมชาติของโลกเกิดการเปลี่ยนแปลงมากมาย ปัญหาหนึ่งที่เราต้องเผชิญกันในทุกปีคือเรื่องของภัยแล้งหรือไม่มีน้ำจืดสำหรับอุปโภคบริโภค ดังนั้นคงเป็นการดีและช่วยได้มากหากต้นไม้ในสวนของเราเป็นพรรณไม้ทนแล้งที่ไม่ต้องรดน้ำบ่อยก็ยังสามารถมีชีวิตและเจริญเติบโตสวยงามภายในสวนได้อยู่ ภายในโซน Garden of ideas งาน บ้านและสวน Select 2021 ซึ่งเราได้รวบรวมมาเป็นความรู้และให้ผู้อ่านเลือกไปใช้จัดสวนดังนี้
1.ลิ้นมังกร
ชื่อวิทยาศาสตร์ Sansevieria trifasciata
ลิ้นมังกร ไม้ทนแล้ง โตเร็ว มีคุณสมบัติพิเศษที่สามารถผลิตก๊าซออกซิเจนในช่วงกลางคืน และยังดูดซับสารพิษในอากาศได้ดี ช่วยลดมลพิษให้อากาศอีกด้วย ทั้งยังเป็นเป็นไม้ประดับสวนและไม้ในบ้านที่ปลูกเลี้ยงง่าย แข็งแรงและทนแล้งได้ดี ด้วยเทคนิคง่ายๆ ในการปลูกเลี้ยงลิ้นมังกรให้สำเร็จคือ เตรียมดินปลูกที่ร่วนระบายน้ำดี เลือกภาชนะที่มีขนาดเหมาะสม มีแสงแดดส่องถึงอย่างน้อยช่วงครึ่งวันเช้า หรือพรางแสง 50 เปอร์เซนต์ รดน้ำสม่ำเสมอ ทุกเช้า-เย็นเพียงเท่านี้ ลิ้นมังกรก็เติบโตได้ดี ผลิหน่อใหม่ให้ตัดแยกไปปักชำได้
2.สลัดได
ชื่อวิทยาศาสตร์ Euphorbia antiquorum L.
ไม้ยืนต้นขนาดเล็กจำพวกเดียวกับกระบองเพชร เป็นกระบองเพชรชนิดหนึ่งที่เลี้ยงง่าย เติบโตสูงเป็นกอสวยมีหลายชนิด พิษจะอยู่ที่หนามรอบตัวและยางขุ่นขาวในทุกส่วน มุมที่ปลูกสลัดไดควรเป็นริมรั้ว กําแพง เพื่อป้องกันการกระทบกับหนามแหลมคม ไม่ควรปลูกใกล้ตัวบ้าน มุมนั่งเล่น หรือมุมกิจกรรมต่างๆของครอบครัว การปลูกริมรั้วยังช่วยป้องกันการบุกรุกจากคนแปลกหน้าได้อีกส่วนหนึ่งด้วย
3.อากาเว่ปากนกแก้ว
ชื่อวิทยาศาสตร์ Agave attenuata
ไม้กอทรงสวยด้วยการเรียงใบเวียนเช่นดอกไม้ ไม้จากต่างประเทศตอนนี้มีใบหลากสีหลายลายที่โดดเด่นคือหนามแหลมคมเรียงรายบนขอบใบและปลายใบซึ่งมีหนามยาวแข็งแรงเป็นพิเศษหากปลูกเป็นไม้กระถางและยกวางบนแท่นสูงแข็งแรงเหนือระดับสายตา จะช่วยลดอันตรายจากคมหนามได้มาก แต่ต้องใช้กระถางที่มีน้ําหนัก จะได้ไม่ถูกลมพัดตกหรือเอียงโค่นลงมาง่ายๆ มุมเหมาะได้แก่ ริมรั้ว ริมกําแพง หรือจัดทําแท่นวางกระถางบนกําแพงเป็นแนว โดยต้องคํานวณการรับน้ําหนักให้เหมาะสมด้วย อากาเว่ปากนกแก้วเป็นอากาเว่ที่ไม่มีหนามที่ปลายใบและเลี้ยงง่าย แต่ไม่ควรปลูกในที่ที่มีแสงน้อยจะทําให้ใบยืดเสียทรง
4.แคคตัสถังทอง
ชื่อวิทยาสตร์ Echinocactus grusonii
เป็นไม้ประดับที่ปลูกในบ้านเรามานานกว่า 40 ปี มาจากประเทศเม็กซิโก ในธรรมชาติถือว่าเป็นพรรณไม้ที่เสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ เมื่อต้นโตเต็มที่มีเส้นผ่านศูนย์กลางมากกว่า 50 เซนติเมตร รูปทรงกลมดูคล้ายถัง มีหนามแหลมเป็นสีเหลืองทองกระจายทั่วทั้งต้น นิยมปลูกในกระถางที่เคลื่อนย้ายได้ ต้องปลูกในดินปลูกแคคตัสหรือดินผสมที่ชโปร่งระบายน้ำได้ดี แสงแดดเต็มวัน
5.เข็มกุดั่น
ชื่อวิทยาศาสตร์ Yucca aloifolia
ไม้ทนแล้ง ที่เป็นไม้พุ่มขนาดเล็ก ทรงพุ่มกลม ลำต้นมีรอยแผลของใบที่หลุดร่วงไป สูง 1-2 เมตร โตช้า ช่อดอกสีขาว ดอกมีกลิ่นหอมตอนกลางคืน ออกที่ปลายยอด ชูสูงกว่า1 เมตร หลังออกดอกต้นแม่จะหยุดเติบโตและตาย นิยมปลูกประดับกระถาง หรือลงแปลงกลางเเจ้ง ประดับบริเวณสวนหิน สามารถนำไปปลุกริมทะเลได้ แต่ไม่ควรปลูกใกล้สนามเด็กเล่นเพราะปลายใบมีหนามเเหลม
6.พญาไร้ใบ
ชื่อวิทยาศาสตร์ Euphorbia tirucalli L.
ไม้ยืนต้นขนาดเล็ก มีความสูงของต้นประมาณ 4-7 เมตร รูปทรงดูคล้ายกับปะการัง ควรปลูกในที่ที่มีแสงแดดจัด ถ้าได้รับแสงแดดไม่เพียงพอ ต้นจะยืดยาว ทรงพุ่มเก้งก้าง นิยมขยายพันธุ์ด้วยวิธีการใช้เมล็ดและการตัดชำ ชอบดินร่วนที่ระบายน้ำได้ดี และมีแสงแดดตลอดวัน ปัจจุบันนิยมนำมาแตกแต่งภายในบ้าน แต่ควรปลูกในที่ซึ่งมีคนสัมผัสได้ยากเนื่องจากยางมีพิษทำให้ผิวหนังอักเสบ บวมเป็นผื่นแดง เกิดอาการคัน และเป็นอันตรายเมื่อเข้าตาอาจตาบอดได้
7.สับปะรดหนาม
ชื่อวิทยาศาสตร์ Dyckia spp.
สับปะรดหนามจัดอยู่ในกลุ่มไม้ทนแล้ง ต่างจากสับปะรดสีทั่วไปที่ส่วนใหญ่ชอบความชื้น ดังนั้นสถานที่ที่ปลูกสับปะรดหนามต้องมีอากาศถ่ายเทได้สะดวก จัดเป็นพรรณไม้ที่ทนแล้งมาก สามารถขาดน้ำได้เป็นระยะเวลาหลายสิบวัน แต่ควรระวังไม่ให้อยู่ในตำแหน่งที่คนเดินผ่านบ่อยเนื่องจากใบมีหนามแหลมคมมาก
8.เงินเต็มบ้าน
ชื่อวิทยาศาสตร์ Kalanchoe sp.
จัดเป็นพรรณไม้ล้มลุก ลำต้นตั้งตรง สูงได้ประมาณ 20-100 เซนติเมตร สามารถแตกต้นอ่อนที่ใบนําไปขยายพันธุ์ต่อได้ ขึ้นได้ในดินที่เป็นหิน ในที่โล่งแจ้ง หรือในที่ค่อนข้างร่ม ทนทานและสามารถขึ้นได้แม้ในสภาพอากาศที่แห้งแล้ง
9.ใบเสมา
ชื่อวิทยาสตร์ Opuntia sp.
แคคตัสสกุลโอพันเทียหรือที่รู้จักกันในชื่อ“ใบเสมา” ปลูกเลี้ยงกันมาแต่อดีต ทนดินเค็มได้ดี ในต่างประเทศนิยมนำกิ่งมารับประทานทั้งกินเป็นผักสดและปรุงสุกได้ เจริญเติบโตได้เร็วและสามารถขยายพันธุ์ได้ง่าย ครั้งหนึ่งในประเทศออสเตรเลียเคยประสบปัญหาใบเสามาระบาดจนกลายเป็นกฎหมายห้ามนำเข้าใบเสมามาบนแผ่นดินของทวีปออสเตรเลีย
10.ว่านหางจระเข้
ชื่อวิทยาศาสตร์ Aloe vera (L.) Burm.f.
ถือว่าเป็นต้นไม้สวนครัวที่นิยมปลูกเป็นไม้กระถาง เนื้อในแผ่นใบนำมาต้มใส่น้ำตาลและใบเตยเล็กน้อย กินอร่อยคล้ายวุ้น หรือล้างให้สะอาดนำมาปั่นเป็นเครื่องดื่ม เนื้อใบสดรักษาแผลไฟไหม้ น้ำร้อนลวก แผลเรื้อรัง และแผลในกระเพาะอาหารได้ดี เหมาะสำหรับบำรุงต่อมไทรอยด์ ต่อมพิทูอิทารี และรังไข่ ล้างพิษของตับ ทำให้เลือดดี ตำรายาจีนใช้รากและเหง้าต้มกินแก้หนองใน เคี่ยวน้ำยางสีเหลืองจากใบให้แห้ง กินเป็นยาระบาย หากกินสดจะเป็นอันตราย