บ้านหลังเกษียณ โล่ง โปร่ง รับลมดี อยู่สบาย - บ้านและสวน

บ้านหลังเกษียณ อยู่สบาย ด้วยการดักลมทุกทิศทาง

บ้านหลังเกษียณ ที่ออกแบบเพื่อตอบความต้องการพื้นฐานของการมีบ้าน ทั้งในเรื่องการสร้างฟังก์ชันการใช้งาน ด้วยการสร้างลำดับให้เป็นไปตามนิสัยตามธรรมชาติของเจ้าของบ้าน และหลักการเพื่อให้บ้านอยู่สบาย ด้วยการดักลมทุกทิศทางของบ้าน

DESIGNER DIRECTORY
ออกแบบ: Research Studio Panin 

บ้านหลังเกษียณ
ตัวบ้านจัดวางทิศทางตามแนวยาวขนานไปกับคูน้ำที่มีอยู่เดิม โดยมีสระว่ายน้ำเป็นพื้นที่เชื่อมต่อระหว่างสายน้ำตามธรรมชาติกับโครงสร้างของบ้าน
บ้านอิฐ
บ้านวางตัวขนานไปตามทิศตะวันตกตามรูปแบบที่ดิน เปิดส่วนกำแพงบ้านให้หายใจด้วยการติดตั้งผนังอิฐโปร่งสลับกับพื้นผิวปูนฉาบเรียบ
ผนังอิฐ
จากประตูทางเข้าหลักสู่ที่จอดรถ ก่อนส่งต่อเข้าพื้นที่บ้านได้สองทาง  ทั้งจากประตูเข้าส่วนครัว  และเดินอ้อมเข้าสู่ชานกลางบ้านซึ่งเป็นทางเข้าหลักสำหรับแขกโดยใช้ผนังหายใจได้กับการแบ่งกั้นพื้นที่ทุกส่วนนอกบ้าน สร้างความเป็นส่วนตัว โดยยังเอื้อให้การระบายลมเกิดขึ้นได้อย่างสะดวก

บ้านหลังเกษียณ เปรียบเสมือนชีวิตบทใหม่ที่หลายคนใฝ่ฝัน หลายคนหวนกลับบ้านเกิดสู่ความสงบที่เติบโตมา หลายคนโดยเฉพาะชาวกรุงเทพฯ เลือกมุ่งหน้าออกสู่ บ้านต่างจังหวัด เพื่อค้นหาหนทางเรียบง่ายอย่างที่ไม่เคยพบเจอในเมืองหลวง เช่นเดียวกับ คุณลิสา ทอมมัส อดีตผู้บริหารผู้อยู่เบื้องหลังเครือโรงแรมชื่อดังของเมืองไทย ที่เลือกเกษียณตัวเองพร้อมกับพาคุณแม่โยกย้ายถิ่นฐานมาอยู่ที่จังหวัดราชบุรี

เหมือนรักแรกพบเลยค่ะ เรามาถึงราชบุรีครั้งแรกในช่วงเดียวกันกับตอนนี้ซึ่งเป็นฤดูทำนา ประกอบกับส่วนตัวเป็นคนชอบสีของนาข้าวมาก เป็นสีเขียวที่อธิบายไม่ถูก ทุกครั้งที่ได้เห็นเหมือนกับพลังงานในตัวเราถูกทำให้สงบร่มเย็น

คุณลิสาเริ่มต้นเล่าถึงความรู้สึกประทับใจแรกพบเมื่อมาเยือนที่นี่ และเลือกจังหวัดราชบุรีเป็นที่ตั้ง บ้านหลังเกษียณ ของครอบครัวหลังนี้ด้วยหลายเหตุผลประกอบกัน ตั้งแต่เรื่องความสะดวกในการเดินทางที่ใช้เวลาเพียง 2 ชั่วโมงจากกรุงเทพฯ​ สาธารณูปโภครายล้อมที่ครบครัน และที่สำคัญคือ “เส้นขอบฟ้าของที่นี่เป็นสีเขียว ไม่ได้เป็นตึกระฟ้าเหมือนกับวิวที่ชินตาอย่างที่เห็นจากคอนโดมิเนียมที่เคยอยู่”

ผนังอิฐ
ส่วนนอกสุดของชานบ้านชั้นล่างเป็นระแนงหมุนเปิด – ปิดได้อีกชั้นหนึ่ง เพื่อรักษาความเป็นส่วนตัวได้ในขณะเดียวกันยังคงฟังก์ชันการระบายอากาศได้เป็นอย่างดี  และส่วนชานยังทำหน้าที่เป็นระเบียงให้ห้องนอนชั้นบนด้วย
ประตูระแนงไม้
โครงสร้างอาคารส่วนอยู่อาศัยเป็นคอนกรีตเสริมเหล็ก ส่วนชายคาและชานบ้านเป็นโครงสร้างเหล็กที่ดูโปร่งเบาให้เป็นเสมือนกรอบของการสร้างทิวทัศน์รอบบ้าน

ผู้มาสานต่อความฝันของคุณลิสาคือ รองศาสตราจารย์ ดร.ต้นข้าว ปาณินท์ และคุณธนาคาร โมกขะสมิต สถาปนิกจาก Research Studio Panin ที่เริ่มต้นการออกแบบบ้านหลังนี้ด้วยวิธีการฟัง

“เรารู้สึกดีมากถ้าเราสามารถแปลชีวิตประจำวันทุกแง่ทุกมุม ไม่ว่าจะเป็นการหมุนตัวของเจ้าของบ้านเป็นอย่างไร เช้าถึงเย็นใช้ชีวิตแบบไหน ออกมาเป็นการวางผังของบ้านได้ โดยค่อยๆ ให้บ้านผุดขึ้นมาจากบทสนทนาระหว่างเรากับเจ้าของบ้าน ถ้าเราสามารถจะทำอย่างนั้นได้ ก็เหมือนกับว่าเราสามารถตอบโจทย์ของเจ้าของบ้านได้ ก็เลยรู้สึกว่านี่เป็นบทเรียนแห่งการถอยที่ดี และรู้จักที่จะฟัง”

บ้านหลังนี้จึงเป็นเหมือนการออกแบบเพื่อตอบความต้องการพื้นฐานของการมีบ้าน ทั้งในเรื่องการสร้างฟังก์ชันการใช้งานด้วยการสร้างลำดับ ให้เป็นไปตามนิสัยตามธรรมชาติของเจ้าของบ้านและหลักการเพื่อให้บ้านอยู่สบายอย่างเรื่อง Cross Ventilation หรือการระบายอากาศแบบให้ลมผ่านอาคาร ด้วยการกำหนดชานกลางบ้านแบบกึ่งเอ๊าต์ดอร์เป็นส่วนแรกของบ้านและเป็นทางเข้าพื้นที่ต้อนรับตรงกลาง ทำหน้าที่เป็นจุดเชื่อมต่อผ่านการเป็นพื้นที่ดักลมในทุกทิศทาง และเป็นพื้นที่เปลี่ยนผ่านระหว่างพื้นที่ภายในกับภายนอกบ้าน โดยไม่ได้มองว่าเป็นเพียงทางผ่านของการสัญจรภายในบ้าน หากแต่มองว่าเป็นพื้นที่ใช้สอยในบ้านอีกส่วนเพื่อให้ผู้อาศัยใช้ชีวิตอยู่ได้อย่างสบาย

ชานกลางบ้าน
ชานกลางบ้าน จุดเริ่มต้นของบ้านหลังนี้ เป็นพื้นที่แบบกึ่งเอ๊าต์ดอร์ที่สามารถเปิด – ปิดได้ตามสภาพอากาศและเพื่อความปลอดภัย โดยยังคงรักษาคุณสมบัติความเป็นพื้นที่กักลมไว้ได้อย่างดียามเลื่อนเปิดบานเฟี้ยม
แพนทรี่
ส่วนใช้ชีวิตประจำวันของคุณลิสาจัดสรรให้เป็นอาคารชั้นเดียวมีฝ้าเพดานสูงทรงจั่ว ตอบรับกับไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตอย่างสบายในช่วงกลางวัน เฟอร์นิเจอร์ทั้งหมดเป็นของเก่าที่ยกมาจากบ้านของคุณแม่ที่ประเทศฝรั่งเศส
แพนทรี่
ครัวคือพื้นที่แรกสุดของบ้านที่เกิดขึ้นจากวิธีการใช้ชีวิตของเจ้าของบ้านอย่างแท้จริง
ส่วนรับประทานอาหาร
จากส่วนครัวและส่วนรับประทานอาหารเปิดเชื่อมต่อกับส่วนนั่งเล่นผ่านทางบานเลื่อนแบบซ่อน
โถงบันได
โถงส่วนนั่งเล่นแบบดับเบิลสเปซ บันไดแบบติดผนังทำหน้าที่เป็นเส้นทางทอดต่อไปสู่พื้นที่ในสุดของบ้าน นั่นคือห้องนอนของคุณลิสา
บันไดไม้
  บันไดไม้โปร่งที่ไม่ปิดกั้นลมและแสง
โถงบันได
“คุณค่าของสิ่งของอยู่ที่การมองเห็น” ด้วยความที่ชื่นชอบผลงานการออกแบบของคุณปิ่น -ศรุตา  เกียรติภาคภูมิ จึงเลือกใช้โคมไฟแบรนด์ PIN เป็นจุดนำสายตาชิ้นมาสเตอร์พีซของโถงห้องนั่งเล่น
แชนเดอเลียร์
โชว์โครงสร้างใต้หลังคา ทำให้ส่วนดับเบิลสเปซไม่สูงจนดูเวิ้งว้างเกินไป ทั้งยังเป็นจุดสำหรับติดตั้งไฟตกแต่งทั้งแชนเดอเลียร์ส่วนกลางห้องและไฟสปอตไลต์เฉพาะจุด
หน้าต่างบานเกล็ด
สะพานเหนือพื้นที่ชานกลางบ้านกึ่งเอ๊าต์ดอร์ สร้างความรู้สึกส่งผ่านจากส่วนของชีวิตประจำวันออกไปข้างนอกก่อน แล้วค่อยเข้าสู่บ้านอีกหลังหนึ่งซึ่งเป็นห้องนอน

ส่วนการวางรูปแบบของอาคารเกิดขึ้นตามรูปแบบของที่ดิน โดยใช้คูน้ำธรรมชาติตามแนวยาวของพื้นที่ซึ่งเป็นบริบทเดิมที่สำคัญเป็นที่ตั้ง เชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างตัวบ้านกับคูน้ำด้วยสระว่ายน้ำที่วางขนานกัน ถึงนั่นจะบังคับให้บ้านต้องหันหน้าไปทางทิศตะวันตก แต่สถาปนิกเลือกแก้ปัญหาความร้อนจากแสงแดดตลอดทั้งวัน ด้วยการให้ชานหรือระเบียงมีระยะที่กว้างขึ้นตามระยะแดด โดยเลือกใช้โครงสร้างอาคารส่วนอยู่อาศัยเป็นคอนกรีตเสริมเหล็ก ส่วนชายคาและชานบ้านเลือกใช้โครงสร้างเหล็กที่ดูโปร่งเบา และเป็นเสมือนกรอบของการสร้างทิวทัศน์รอบบ้าน

บ้านหลังนี้จะไม่มีความหมายเลยถ้ามันไม่มีชีวิตประจำวันของคุณลิสา ที่ตื่นขึ้นมาเพื่อสร้างลำดับต่างๆ ของพื้นที่ทั้งในแง่รูปแบบและตัวพื้นที่เอง ฟอร์มของบ้านจึงเกิดขึ้นตามธรรมชาติของสถานที่สอดคล้องไปกับธรรมชาติของการอยู่อาศัย โดยในส่วนใช้ชีวิตประจำวันอย่างส่วนครัว ห้องรับประทานอาหาร และห้องนั่งเล่นเป็นส่วนด้านหน้าซึ่งต้องการฝ้าเพดานสูง และบานเกล็ดที่ออกแบบเป็นบานทรงแคบคั่นระหว่างบานเปิดแบบอื่นๆ เพื่อการระบายอากาศที่ดีตลอดช่วงกลางวัน คั่นกลางด้วยโถงทางเข้าหลัก ก่อนส่งต่อไปสู่ห้องนอนส่วนหลังที่ชั้นล่างเป็นของคุณแม่ และชั้นบนเป็นของคุณลิสาซึ่งขึ้นจากบันไดในห้องนั่งเล่น

ห้องนอน
ห้องนอนแขกจัดสรรให้อยู่ในส่วนหน้าสุด เปิดรับวิวทั่วบริเวณบ้าน
ห้องนอนสไตล์โอเรียนทัล
ห้องนอนของคุณลิสาที่ยกเฟอร์นิเจอร์เก่ามาจากคอนโดมิเนียมเดิมทั้งหมด  รวมไปถึงบานกั้นส่วนวอล์คอินคลอเซตขนาดโอเวอร์ไซซ์ เหมือนเป็นงานจิตรกรรมชิ้นใหญ่ที่ช่วยสร้างบรรยากาศอ่อนช้อยงดงามให้ห้อง
บานกั้นห้อง
บานกั้นห้องสั่งทำพิเศษสไตล์จีนผสมกับความอ่อนช้อยแบบฝรั่งเศส ซึ่งคุณลิสายกมาจากคอนโดมิเนียมเดิม
ห้องน้ำลายหินอ่อน
ห้องน้ำลายหินอ่อน
ห้องน้ำลายหินอ่อนสีขาวเชื่อมจากห้องนอนหลัก โดยเปิดช่องแสงใต้จั่วหลังคาติดตั้งหน้าต่างบานฟิกซ์กระจกเพื่อให้แสงธรรมชาติส่องผ่านเข้ามาสร้างสุขลักษณะที่ดีให้ห้องน้ำ
โครงสร้างเหล็ก
ส่วนชานนอกและโครงสร้างนอกบ้านเลือกใช้โครงสร้างเหล็กที่ให้รูปลักษณ์โปร่งเบา ดูสวยงามจนเป็นเหมือนส่วนตกแต่งไปในตัว รวมทั้งยังซ่อนฟังก์ชันการใช้งานอย่างท่อของรางระบายน้ำฝนไว้อย่างแนบเนียน
บานเกล็ดกระจก
บานเกล็ดกระจก
บานเกล็ดคือตัวละครสำคัญของบ้านหลังนี้ เพราะเป็นความต้องการแต่แรกเริ่มของคุณลิสา ซึ่งสอดคล้องไปกับแนวทางการจัดสรรอากาศภายในบ้านของสถาปนิก โดยบางส่วนยังมีการซอยเป็นบานเกล็ดทรงแคบแทรกไว้ระหว่างบานเปิดรูปแบบอื่น อย่างบานเลื่อนกระจกและบานฟิกซ์กระจก เพื่อให้สามารถเลือกใช้งานได้ตามสภาพอากาศของแต่ละวัน
บานเฟี้ยมระแนงไม้
ระแนงบังคอมเพรสเซอร์
ระแนงไม้ที่เป็นหน้าบานรอบบ้านช่วยรักษาความเป็นส่วนตัวภายในและระบายอากาศได้ดี โดยยังนำระแนงรูปแบบเดียวกันนี้มาใช้พรางส่วนคอมเพรสเซอร์ด้วย เพื่อให้ดูกลมกลืนกับงานสถาปัตยกรรมโดยรวมทั้งหมด
บานเลื่อนแบบโรงนาสูงโอเวอร์สเกลสีแดงสด ช่วยเติมความสดใสและคืนความทรงจำของบ้านในวัยเด็กให้เจ้าของบ้านได้แบบไม่ยาก

“เรื่องที่สำคัญตอนนี้คือเรื่องของเวลาค่ะ” คุณลิสากล่าวทิ้งท้าย “เราเลือกว่าจะใช้เวลากับชีวิตของตัวเราเองจริงๆ ทำเพื่อตัวเอง อะไรที่เป็นความสุขในแง่สิ่งที่เราชอบ และการกลับมาอยู่ร่วมกับคุณแม่ เหมือนได้ย้อนกลับไปคิดถึงความรู้สึกของการอยู่บ้านในสมัยยังเด็ก บ้านซึ่งเป็นพื้นที่ปลอดภัย กลับไปยังสิ่งที่จารึกอยู่ในใจของเรามาตลอด”

สิ่งนี้จึงเป็นเสมือนมิตรภาพที่ส่งต่อจากสถาปนิกสู่ผู้เป็นเจ้าของบ้าน ผ่านบ้านขนาดพอดีที่สร้างความสุขอย่างยั่งยืน

เจ้าของ : คุณลิสา ทอมมัส
สถาปนิก : Research Studio Panin โดยรองศาสตราจารย์ ดร.ต้นข้าว ปาณินท์​ และคุณธนาคาร โมกขะสมิต


เรื่อง : ณัฐนิช ชัยดี

ภาพ : สิทธิศักดิ์ น้ำคำ

สไตล์: ทิพยา ตาริชกุล

บ้านธรรมดา ที่ไม่ธรรมดา

รวม 10 บ้านต่างจังหวัด เอาใจคนรักบรรยากาศธรรมชาติ