รวมเทคนิคขจัดฝุ่นในบ้าน บอกลา PM 2.5 แบบถาวร - บ้านและสวน

รวมเทคนิคขจัดฝุ่นในบ้าน บอกลา PM 2.5 แบบถาวร

ไม่ว่าจะเป็นปัญหามลภาวะจากฝุ่นพิษ PM 2.5 ตามท้องถนน สถานที่นอกบ้าน หรือภายในบ้าน ก็ล้วนก่ออันตรายต่อสุขภาพอย่างเรื้อรังได้ เพราะฝุ่นละอองเหล่านี้สามารถแพร่กระจายได้ทั่วไปในอากาศ เกาะติดทั้งบริเวณบ้าน เครื่องเรือน และตามตัวของเราเข้ามา แน่นอนว่าหากกล่าวถึงเรื่องฝุ่น ก็ไม่ใช่เพียงมลภาวะภายนอกเท่านั้น แต่ภัยร้ายจากไรฝุ่น ความสกปรกที่ก่อเกิดในบ้านก็น่าห่วงไม่แพ้กัน แล้วต้องทำอย่างไรจึงจะขจัดฝุ่นในบ้านเหล่านี้ให้ได้ประสิทธิภาพมากที่สุด โฮมโปรมีเทคนิคเด็ดมาแนะนำ

รู้จักฝุ่นในบ้าน

ช่วงนี้เรารู้จักกับมลภาวะสุดฮอต PM 2.5 ตามหน้าข่าวต่าง ๆ กันไปแล้ว แต่ในบ้านก็ยังมีฝุ่นขนาดเล็กลักษณะนี้เช่นเดียวกัน อย่างแรกคือมลภาวะแพร่ตามอากาศ เกาะติดตัวเราเข้ามา และอีกอย่างนั้นคือตามเฟอร์นิเจอร์ต่าง ๆ บางครั้งเราอาจมองข้ามฝุ่นที่เกิดจากอุตสาหกรรมการผลิตที่อาจติดสิ่งของชิ้นใหม่เข้ามา เช่น ฝุ่นหนัง ฝุ่นไม้ ละอองโลหะต่าง ๆ และสุดท้ายคือฝุ่นที่เกิดจากความหมักหมมของเราเอง ตัวการหลักคือไรฝุ่น สิ่งมีชีวิตขนาดเล็กที่สามารถแพร่พันธุ์ได้ดีมากหากบ้านสกปรก และยังเป็นตัวการก่อโรคภูมิแพ้อีกด้วย

7 เทคนิคขจัดฝุ่นในบ้านสุดง่ายดาย

1. ระบายอากาศ

การเปิดบ้านให้รับเอาอากาศใหม่ ๆ เข้ามาผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนบ้างเป็นเรื่องที่ควรทำประจำสม่ำเสมอ หากไม่สะดวกจริง ๆ อย่างน้อยการเปิดหน้าต่างทิ้งไว้ในวันหยุดสุดสัปดาห์ก็ยังถือว่าใช้ได้ จะทำให้ฝุ่นละอองต่าง ๆ ที่หมักหมมในบ้านได้กระจายตัวลงบ้าง ลดความชื้น ลดความเสี่ยงในการเกิดเชื้อราตามจุดต่าง ๆ ของบ้านได้ด้วย

ลองให้พัดลมระบายอากาศเป็นตัวช่วยอีกแรง คลิกเพื่ออ่านข้อมูล

2. เครื่องกรองอากาศช่วยได้

หลังจากที่เราหมั่นระบายอากาศในบ้านแล้ว แม้จะส่งผลดี แต่ก็ยังคงเป็นช่องทางที่ทำให้อากาศภายนอกเข้ามาได้ด้วย พวกฝุ่นละอองพิษ PM 2.5 ที่ต้องระวังช่วงนี้ ซึ่งประกอบไปด้วยสารโลหะหนักต่าง ๆ รวมไปถึงพวกสิ่งมีชีวิตขนาดเล็กที่เรียกว่า “Bioaerosols” ซึ่งมีชีวิตอยู่ได้ในอากาศ เช่น แบคทีเรีย เชื้อรา เชื้อไวรัส ไรฝุ่น เป็นต้น สิ่งเหล่านี้หลีกเลี่ยงยาก แต่สามารถป้องกันได้ด้วยการเลือกซื้อเครื่องกรองอากาศ บางบ้านอาจใช้เครื่องปรับอากาศอยู่แล้ว แต่ก็ต้องอ่านคู่มือการใช้งานให้ดีว่า เครื่องนั้น ๆ สามารถกรองสิ่งปนเปื้อนในอากาศได้ถึงระดับไหน บางอย่างอาจกรองเฉพาะเชื้อโรค และบางอย่างสามารถกรองฝุ่นขนาดเล็กได้ถึง 2.5 ไมครอนด้วยเช่นกัน

เลือกครื่องปรับอากาศที่สามารถกรองฝุ่นขนาดเล็ก PM 2.5 ได้ คลิกเพื่ออ่านข้อมูล

3. อุปกรณ์ดูดฝุ่นต้องพร้อม

การกวาดบ้าน ปัดฝุ่นตามปกติ แม้จะดูสะอาดตา แต่ในเชิงลึกแล้วยังมีสิ่งน่ากลัวที่มองด้วยตาเปล่าไม่เห็น อย่างที่ได้แนะนำไปแล้วว่ายังมีฝุ่นละอองขนาดเล็กมาก จนถึงชีวมวลต่าง ๆ ที่ก่อให้เกิดโรคในระบบทางเดินหายใจได้ ดังนั้นอุปกรณ์ทำความสะอาดสุดพื้นฐานอย่างเครื่องดูดฝุ่นจึงเป็นสิ่งที่ทุกบ้านต้องมี เพราะสามารถดูดเอาฝุ่นมากักเก็บไว้ได้แน่นอน ไม่เหมือนไม้กวาดที่เป็นการปัดฝุ่นออกจากพื้นที่เท่านั้นแต่ที่จริงฝุ่นละอองอาจย้อนขึ้นไปในอากาศแล้ว ถ้าหากต้องการดูแลเรื่องฝุ่นอย่างครบวงจรมากที่สุด พวกหุ่นยนตร์ดูดฝุ่นก็ตอบโจทย์ เพราะสามารถช่วยลดฝุ่นได้แบบ Real time

หุ่นยนต์ดูดฝุ่น ตัวช่วยทำความสะอาดสุดอัจฉริยะ คลิกเพื่ออ่านข้อมูล

เครื่องดูดไรฝุ่น ระบบ Power Dry System และ UV คลิกเพื่ออ่านข้อมูล

4. เลือกน้ำยาทำความสะอาดอย่างดี

มาถึงเทคนิคการจัดการสิ่งมีชีวิตขนาดเล็ก จำพวกเชื้อรา ไรฝุ่น ไวรัส และแบคทีเรียกันบ้าง ตัวร้ายเหล่านี้สามารถกำจัดได้น้ำยาทำความสะอาดที่มีคุณสมบัติในการฆ่าเชื้อโรค ดังนั้นเดิมที่เคยเลือกแต่แบบเน้นกลิ่นหอม ลองอ่านฉลากผลิตภัณฑ์กันอีกหน่อย เพื่อตรวจสอบว่าในน้ำยานั้นมีส่วนผสมของอะไรบ้าง ขจัดเชื้อแบคทีเรีย และไรฝุ่นได้หรือไม่ เป็นต้น และเวลาใช้งาน ควรใช้หลังจากที่ทำการดูดฝุ่นเรียบร้อยแล้ว ทำความสะอาดอย่างน้อยสัปดาห์ละครั้งเพื่อสุขอนามัยที่ดีของคนในบ้าน

ไม่ใช่เพียงกลิ่นหอม  แต่ต้องทำความสะอาดแบบล้ำลึก คลิกเพื่ออ่านข้อมูล

 

5. งดการเผาในบ้านให้มากที่สุด

การเผาไหม้ในครัวเรือนก็ก่อให้เกิดมลภาวะได้เช่นกัน เราจะเห็นช่วงที่ผ่านมาทางรัฐบาลขอความร่วมมือประชาชนเรื่องการเผาขยะ หญ้าแห้ง ฟางข้าว หรือแม้แต่การประกอบอาหารกลางแจ้งตามร้านตามสั่ง ร้านปิ้งย่างต่าง ๆ เมื่อลดสเกลมาเป็นระดับบ้านเรือน ลองปรับเปลี่ยนในเรื่องของการใช้เตาแก๊สกันดู หากเปลี่ยนได้มาใช้เตาไฟฟ้าจะดีต่อสิ่งแวดล้อมมากกว่า การสูบบุหรี่เองก็ก่อมลภาวะเช่นกัน รวมถึงการจุดเทียน จุดเตาผิงไฟ ก็ควรหลีกเลี่ยง หรือหากจำเป็นจริง ๆ ก็ให้ดับทันทีหลังใช้งาน

เตาแม่เหล็กไฟฟ้า ช่วยลดควันจากการเผาไหม้ คลิกเพื่ออ่านข้อมูล

 

6. ควบคุมความชื้น

ความชื้นในอากาศมีส่วนสำคัญต่อการกระจายตัวของฝุ่นละออง อย่างที่เราจะพบว่าหน้าหนาวมักจะมีปัญหาเรื่องหมอกควันและฝุ่นพิษในอากาศบ่อย ๆ สำหรับในบ้าน หากเปิดเครื่องปรับอากาศเย็นจัดตลอด จนอากาศแห้ง ไม่ถ่ายเท สังเกตดูว่าคนในบ้านมักจะจามบ่อย คัดจมูก ภูมิแพ้กำเริบได้ง่าย ๆ วิธีแก้ไขคือติดตั้งเครื่องพ่นไอน้ำ ที่นอกจากจะสามารถใส่กลิ่นหอม ๆ ตามชอบลงไปได้แล้ว ละอองน้ำยังช่วยจับฝุ่นในอากาศให้ลอยต่ำลง ไม่ฟุ้งกระจายตัวไปทั่ว ทำความสะอาดง่าย

ปรับความชื้นในพื้นที่อย่างเหมาะสมด้วยพัดลมไอน้ำ คลิกเพื่ออ่านข้อมูล

 

 

7. ต้นไม้คือมิตรแท้เสมอ

 

นาทีนี้คงไม่มีอะไรสารพัดประโยชน์มากเท่าต้นไม้ เพราะนอกจากจะช่วยดักฝุ่นแล้ว ยังเป็นเครื่องฟอกอากาศธรรมชาติที่ให้ผลอย่างยั่งยืนมากที่สุด สำหรับในบริเวณบ้าน ลองปลูกไม้กระถางขนาดกลาง ๆ อย่างพวกลิ้นมังกร พลูด่าง เศรษฐีเรือนใน หรือหมากสายพันธุ์เล็กต่าง ๆ ซึ่งนอกจากจะมีลักษณะต้นเก๋ไก๋ เหมาะกับบ้านดีไซน์ต่าง ๆ แล้ว ยังเป็นมิตรต่อปอดแม้ในช่วงกลางคืน ส่วนนอกบ้านลองใช้ไม้ยืนต้นที่กันลมแรง กันฝุ่นพัดได้ด้วย เช่น ต้นอโศก สน กรรณิการ์ หรือพวกไม้เลื้อย ไม้ที่สามารถปลูกเป็นแนวกำแพงได้ก็เข้าที

กระถางสุดเก๋พร้อมรองรับไม้ขนาดเล็กปลูกตามจุดต่าง ๆ คลิกเพื่ออ่านข้อมูล

เทคนิคเหล่านี้เป็นเรื่องที่ทำได้ไม่ยากเลย เพียงแค่ต้องอาศัยความละเอียดในการเลือกอุปกรณ์ต่าง ๆ ขั้นแรกกันสักหน่อย เมื่อเลือกได้ของที่ถูกใจ ตอบโจทย์ตามความต้องการในการลดมลภาวะ ขจัดฝุ่นในบ้านแล้ว ก็สามารถใช้สิ่งของที่เราจัดหามาได้ต่อเนื่องไปอีกในระยะยาว ดังนั้นลองสละเวลาศึกษาข้อมูลตรงนี้เพื่อป้องกันและดูแลสุขภาพคนในบ้านให้ห่างไกลจากภัยฝุ่นอย่างยั่งยืนกันเถอะ