20 ต้นไม้ช่วยลดฝุ่น เพิ่มพื้นที่สีเขียว
ต้นไม้ที่จะช่วยจับฝุ่นละอองในอากาศได้นั้นสามารถจับฝุ่นได้เพียงบางส่วนเท่านั้น ต้องปลูกหนาแน่นระดับสวนสาธารณะ หรือระดับป่าจึงจะช่วยลดมลพิษทางอากาศได้
ยังมีต้นไม้อีกหลายชนิดที่น่าปลูกประดับในสวนด้วย หากเราช่วยกันปลูกต้นไม้กันทุกบ้านจนมีต้นไม้หนาแน่นกระจายอยู่ทั่วเมือง อากาศก็จะดีขึ้นได้ ต้นไม้ที่สามารถช่วยลดปัญหาการฟุ้งกระจายของฝุ่นได้บางส่วน ซึ่งความสามารถในการจับฝุ่นนั้นก็จะแตกต่างกันออกไปตามลักษณะของต้นไม้แต่ละชนิด เช่น ต้นไม้ที่มีใบหนา ผิวใบหยาบสาก หรือใบมีขน จะช่วยดักจับฝุ่นละอองได้ดีกว่าเพราะความหยาบสากของใบจะดักฝุ่นให้จับอยู่บนใบ ไม่ทำให้ฟุ้งกระจาย แต่ถ้าเป็นไม้ที่มีขนาดใบและต้นใหญ่ก็จะช่วยจับฝุ่นได้ดียิ่งขึ้น ต้นไม้ลดฝุ่น
ในเมืองไทยนิยมปลูกต้นไม้สำหรับลดฝุ่นฟุ้งกระจาย และเพื่อบังแดดหลายชนิดด้วยกัน โดยทำเป็นรั้วต้นไม้ อย่างต้นไทรเกาหลี คริสตินา โมก ชาดัด แต่ยังมีไม้พุ่ม ไม้ต้น อีกหลายชนิดที่จับฝุ่นได้ดี ว่าแล้วก็ไปดูกันเลยว่า ต้นไม้ที่ช่วยลดฝุ่นให้บ้าน มีชนิดใดน่าปลูกบ้าง ต้นไม้ลดฝุ่น ต้นไม้ฟอกอากาศ
1. ทองอุไร
เป็นอีกหนึ่งไม้พุ่มสูงที่โตเร็ว ปลูกเลี้ยงง่าย ออกดอกไว ทำให้เป็นที่นิยมปลูกริมรั้วหน้าบ้าน ใบของทองอุไรมีความหยาบสาก ลักษณะใบเรียวยาว ใบดก ดอกมีสีเหลืองสว่างรูประฆังมี 5 กลีบ ออกดอกทั้งปี นอกจากนี้ชื่อ ทองอุไรยังมีความหมายเชิงมงคลอีกด้วย ต้นไม้ลดฝุ่น ต้นไม้ฟอกอากาศ
2. อโศกอินเดีย
ในยุคหนึ่ง อโศกอินเดีย เคยได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เรียกได้ว่าเป็นต้นไม้ริมรั้วคู่บ้านกันทีเดียว ที่เป็นเช่นนั้นเพราะลักษณะทรงที่สูงยาวทรงพุ่มเรือนยอด รูปใบปลายแหลมโคนใบสอบ หากปลูกเป็นแถวช่วยพรางสายตา กันแดด กันลม และช่วยป้องกันฝุ่นเข้าบ้านได้อีกทาง และด้วยเป็นต้นไม้ใหญ่ที่สูงได้ถึง 25 เมตร จึงควรเว้นระยะปลูกให้เหมาะสมที่ 1.50 – 3 เมตร มักจะปลูกเป็นแผงเรียงยาวตามแนวรั้วสร้างความเป็นส่วนตัว ต้นไม้ลดฝุ่น ต้นไม้ฟอกอากาศ
3.สน ซึ่งต้นสนเป็นต้นไม้อีกชนิดที่นิยมปลูกในสวนบริเวณริมรั้วโดยเฉพาะในบ้านตากอากาศริมทะเลที่มีลมแรง ช่วยบังลม บังแดด ได้ดีไม่แพ้อโศกอินเดีย ในท้องตลาดมีหลายชนิดซึ่งมีทรงต้นเป็นเรือนยอดรูปพีระมิดและรูปใบที่แตกต่างกันไป ไม่ว่าจะเป็นต้นสนประดิพัทธ์ สนฉัตร สนสามใบ ต้นไม้ลดฝุ่น ต้นไม้ฟอกอากาศ
4.กันภัยมหิดล ไม้เถาเลื้อยขนาดกลางที่มีขนอ่อนๆ ปกคลุม รูปใบมนมีติ่งแหลมสั้นโคนใบมนและขอบใบเรียบ ออกดอกสีม่วงอมชมพู ดอกมีขน ทยอยบานจากล่างขึ้นบน กันภัยมหิดล ออกดอกเดือนสิงหาคม – พฤศจิกายน นิยมปลูกเป็นซุ้มไม้เลื้อยเพิ่มความสวยงามให้สวน ต้นไม้ลดฝุ่น
5.คำมอกหลวง เป็นอีกหนึ่งไม้ต้นที่นิยมใช้จัดสวน ด้วยขนาดความสูงที่กำลังพอดี บวกกับเป็นไม้ดอกหอมที่มีเสน่ห์คือ ดอกจะเริ่มแย้มช่วงเย็นเป็นสีขาวนวลก่อนเปลี่ยนเป็นสีเหลืองเข้ม เมื่อใกล้โรยมีกลิ่นหอมแรงมากขึ้น และร่วงตอนบ่ายวันรุ่งขึ้น ส่งกลิ่นหอมอ่อนๆ ตลอดวัน ใบของคำมอกหลวงเป็นใบเดี่ยวออกตรงข้าม ปลายใบแหลมหรือมน โคนใบมน แผ่นใบเหนียวและสาก ช่วยจับฝุ่นละอองได้ดี
6.สร้อยอินทนิล ไม้เลื้อยเนื้อแข็งขนาดใหญ่ เลื้อยได้ไกล 15 – 30 เมตร ลำต้นอ่อนเป็นเหลี่ยม ใบรูปไข่ถึงรูปหัวใจ ช่อดอกเป็นช่อกระจะออกตามซอกใบและปลายกิ่งห้อยลง ดอกรูปกรวย กลีบดอกสีฟ้าอมม่วงหรือสีขาว ออกดอกเดือนมีนาคมถึงตุลาคม เปลือกและรากมีสรรพคุณแก้อาการฟกชํ้า บวม และอักเสบได้ โดยนำมาตำแล้วพอกบริเวณที่เกิดอาการ
7.เล็บมือนาง เป็นพรรณไม้เลื้อยดอกหอมที่ปลูกง่าย ดูแลง่าย ทนน้ำท่วม จึงนิยมปลูกประดับบ้านทำซุ้มบังแดด และปลูกประดับริมรั้ว ใบอ่อนเล็บมือนางสามารถรับประทานทั้งแบบสดหรือ นึ่ง ชุบแป้งทอด ลวก ส่วนเมล็ดเป็นสมุนไพรพื้นบ้านที่มีประโยชน์หลายอย่าง
8.พวงคราม เป็นไม้เลื้อยอีกหนึ่งชนิดที่นิยมปลูกเพิ่มความสวยงามในสวน โดยเฉพาะพวงครามออสเตรเลียหรือพวงครามช้างที่มีพวงดอกขนาดใหญ่ และมีใบขนาดใหญ่ด้วยเช่นกันซึ่งลักษณะใบของพวกครามจะมีขนสากปกคลุม หยาบ จึงเป็นตัวช่วยจับฝุ่นได้ดีอีกชนิด
9.กรรณิการ์ ไม้พุ่มขนาดกลางที่สูงไม่มากเพียงแค่ 2-5 เมตรเท่านั้น แต่ออกดอกกลิ่นชอบชื่นใจ จึงเป็นที่นิยมปูลกเป็นไม้ประธานในสวนสำหรับพื้นที่แคบ สามารถปลูกเป็นกลุ่มเพื่อเพิ่มความถี่ในการบังสายตา ใบของ กรรณิการ์ มีความหยาบสากและมีขนปกคลุม ช่วยบังลมและจับฝุ่นได้ดี
10.เสลาใบใหญ่ เป็นไม้ต้นผลัดใบสูง 10 – 20 เมตร เปลือกลำต้นสีเทาเข้มเกือบดำ ผิวขรุขระ มีรอยแตกเป็นร่องตื้นๆ ตามยาว ปลายกิ่งย้อยลู่ลงต่ำแผ่นใบค่อนข้างหนามีขนนุ่มทั้งสองด้าน ดอกออกเป็นช่อตามง่ามใบและปลายกิ่งมีหลายสี เช่นสีม่วงม่วงอมแดง และขาว ออกดอกเดือนธันวาคม-มีนาคม ชอบแดดเต็มวัน ทนแล้งนิยมปลูกในสวนริมถนนและทางเดิน
11.รวงผึ้ง ไม้ยืนต้นขนาดเล็ก สูงประมาณ 5-8 เมตร แตกกิ่งจำนวนมาก เรือนยอดเป็นพุ่มกลมทึบ เปลือกสีน้ำตาลปนขาว มีดอกออกเป็นช่อกระจุกสั้น ตามซอกใบใกล้ปลายกิ่ง สีเหลืองสด ดอกย่อยบานไม่พร้อมกันและบานอยู่ได้นาน ดอกมีกลิ่นหอมอ่อนๆส่วนใหญ่ออกดอกในช่วงฤดูฝน
12. โสกน้ำ ไม้ยืนต้นขนาดกลาง สูงประมาณ 10-20 เมตร ทรงพุ่มกลมทึบ เนื้อไม้แข็งและเหนียวมาก ยอดอ่อนสีแดงเรื่อ ช่อดอกแบบกระจุกออกที่ปลายกิ่งหรือตามลำต้นและกิ่ง มีดอกย่อยสีส้มจำนวนมาก ลักษณะคล้ายกับอโศกอินเดีย
13. โมกหลวง ไม้ยืนต้นขนาดเล็ก สูงประมาณ 5-8 เมตร เรือนยอดทรงกลมทุกส่วนของต้นมีน้ำยางสีขาว
14. โมกราชสีห์ ไม้พุ่มขนาดใหญ่ สูงกว่า 5 เมตร ทรงพุ่มแน่นทึบ ทุกส่วนมีน้ำยางสีขาว แผ่นใบหนาเหมือนแผ่นหนัง
15. โมกเครือ ไม้เถาเลื้อย เลื้อยได้ไกลถึง 10 เมตร ทุกส่วนมีน้ำยางสีขาว ยอดอ่อนมีสีแดงเรื่อ แผ่นใบบิดหนาสีเขียวเป็นมัน
16. มะป่วน ไม้ยืนต้นผลัดใบ เรือนยอดทรงกลม สูง 10-15 เมตร เปลือกต้นเรียบสีน้ำตาล กิ่งอ่อนมีขนสีน้ำตาลปกคลุม แผ่นใบหนาและเหนียว
17.มหาพรหมราชินี ไม้ยืนต้นขนาดเล็ก สูงประมาณ 4-5 เมตร เปลือกต้นหนาสีน้ำตาลเข้มและมีกลิ่นฉุน แผ่นใบค่อนข้างหนา
18. พุดเศรษฐีสยาม ไม้พุ่ม สูงได้ถึง 15 เมตร ทรงพุ่มแน่นทึบ ทุกส่วนมีน้ำยางสีขาว แผ่นใบสีเขียวเข้มเป็นมันทั้งสองด้าน
19. พุดภูเก็ต ไม้ยืนต้น สูงประมาณ 3-6 เมตร เปลือกต้นหนาสีน้ำตาลอ่อน แตกกิ่งน้อย มีใบดกตามปลายกิ่ง ผิวใบด้านบนเป็นเส้นใบย่อยเป็นร่องเด่นชัดเจน
20. พุดดาราราย ไม้พุ่ม สูงประมาณ 5-10 เมตร ใบเดี่ยวออกดอกตรงข้ามกัน ปลายใบแหลม โคนใบสอบ แผ่นใบใหญ่หนาสีเขียวเข้ม
ไม่เพียงเท่านั้นยังมีต้นไม้อื่นๆที่จับฝุ่นได้ดีอีก เช่น กะทกรก ไผ่รวก แก้ว หางนกยูงไทย โมกมัน สกุลชงโค ตะแบก พวงชมพู อัญชัน วงศ์ส้มกุ้ง ฉัตรพระอินทร์ วาสนา โมกบ้าน สั่งทำ โพทะเล พฤกษ์ ขี้เหล็กเลือด ปอกระสา ตะลิงปลิง ขี้เหล็กบ้าน ชมพูพันธ์ทิพย์ โมกหลวง เป็นต้น
เมื่อปลูกต้นไม้ช่วยดักฝุ่นในบ้านแล้ว อย่าลืมรดน้ำล้างฝุ่น คราบสกปรก ที่เกาะอยู่ตามใบไม้ด้วย เพราะด้วยธรรมชาติต้นไม้ไม่ได้ดูดสารอาหารทางรากเท่านั้น แต่ยังรับสารอาหารทางใบและทางอากาศด้วยเช่นกัน