“ระวังให้ดี สิ่งเหล่านี้คือสัญญาณเตือนจากเครื่องไฟฟ้า…ถึงเวลาต้องเปลี่ยน”
สาเหตุเล็กๆ น้อยๆ ที่เรามองข้าม บางครั้งอาจเป็นไฟลามทุ่งที่ทำให้เกิดความเสียหายมากมายตามมา โดยเฉพาะเรื่องไฟฟ้าในบ้าน หากไฟเกิดลัดวงจรหรือเครื่องใช้ไฟฟ้าเสื่อมเป็นฉนวนให้เกิดไฟไหม้ จากจุดเล็กๆ ก็สามารถทำให้บ้านแสนรักของเราวอดวายทั้งหลังได้ ฉะนั้นเมื่อเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านส่งสัญญาณเตือนเหล่านี้ให้รีบเปลี่ยนหรือซ่อมโดยด่วนครับ
• อาหารในตู้เย็นไม่เย็น
ชื่อก็บอกว่าตู้เย็นคือเครื่องทำความเย็น เมื่อเริ่มสังเกตเห็นว่าอาหารไม่เย็นหรือละลาย นั่นแปลว่าตู้เย็นกำลังเข้าสู่ภาวะเสื่อมเช่นตัวตัดความเย็นไม่ทำงานหรือมีฝุ่นหรือเส้นผมเข้าไปติดอยู่ในแผงเหล็กทำความเย็นด้านหลังตู้เย็น วิธีแก้แค่ใช้เครื่องดูดฝุ่นมาดูดสิ่งสกปรกออก หรือจะใช้แปรงขนนุ่มปัดออกก็ได้เช่นกัน แต่ทว่าเสร็จแล้วไม่หายอาจต้องเรียกช่างมาดูหรือถ้าอายุการใช้งานนานควรเปลี่ยนใหม่จะดีกว่า
• มีน้ำแข็งเกาะที่ช่องแช่แข็ง
ส่วนใหญ่แล้วปัญหานี้มักจะเกิดกับตู้เย็นที่มีจำนวนคิวเล็ก โดยที่ช่องละลายน้ำแข็งจะมีน้ำล้นออกมาและเกาะตัวเป็นน้ำแข็ง เมื่อเราเปิดเครื่องละลายน้ำแข็ง น้ำจะไหลลงมาอยู่ที่ฐานและค่อย ๆ ล้น ต่อมาก็จะกลายเป็นน้ำแข็งที่เกาะอยู่จนเต็มด้านล่างช่องแช่แข็ง ควรรีบถอดปลั๊กและปล่อยให้ละลายจนหมด หรือทางที่ดีควรหมั่นดูแลตู้เย็นบ่อยๆ
• เตาไฟฟ้าไม่ร้อน
เรื่องใหญ่ที่ควรระวัง หลายครั้งที่เมื่อคุณแม่บ้านไม่ได้ใช้งานเตาแล้วมักจะวางสิ่งของหนักทับเอาไว้ซึ่งเป็นสาเหตุให้หัวเตาพังได้ แต่การตรวจสอบเรื่องเตาค่อนข้างยาก อาจถึงเวลาต้องเปลี่ยนหัวเตาใหม่ซะแล้ว
• เครื่องซักผ้า ปั่นผ้าแล้วไม่แห้ง
เครื่องซักผ้าทำงานปกติ แต่เมื่อซักเสร็จกลับไม่ปั่นผ้าให้แห้งเหมือนเดิม สาเหตุอาจเกิดจากตัวกรองอากาศมีสิ่งอุดตัน ทำให้เครื่องดูดอากาศเข้าทำงานไม่ได้ และมอเตอร์เดรนไม่ยอมปล่อยน้ำทิ้ง เพราะมีคราบน้ำยา หรือเศษผ้านานนับปีอุดตันอยู่ที่ช่องระบายน้ำทิ้ง ดังนั้นอย่าลืมทำความสะอาดตัวกรองและช่องระบายน้ำทิ้งในเครื่องซักผ้าเสมอ
• มีเสียงดังขณะเครื่องซักผ้าทำงาน
เครื่องซักผ้าเมื่อใช้นานวันเข้า อาจเกิดเสียงดังหวีดแหลมน่ากลัวขณะซัก สาเหตุอาจเกิดจากระบบสายพานเสื่อมโดยเฉพาะคนที่ติดตั้งเครื่องซักผ้าไว้ในที่โดนฝนหรือมีความชื้นเข้าถึงได้มาก
• สวิตช์หรือปุ่มกดต่างๆ ค้าง
เราไม่อาจแน่ใจได้เลยว่าเมื่อสวิตช์หรือปุ่มกดเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ ในบ้านค้างนั่นยังคงมีกระแสไฟวิ่งอยู่หรือไม่ นอกจากจะเป็นอันตรายหากไม่ได้ใช้งาน อาจเพิ่มค่าไฟในบ้านได้โดยไม่รู้ตัว ฉะนั้นควรหมั่นตรวจสอบให้ถี่ถ้วนเสมอก่อนใช้งานทุกครั้ง
• มอเตอร์พัดลมหมุนช้าลงกว่าปกติ
สาเหตุอาจเกิดได้หลายประการ อาทิ
- ตัว Capacitor เสื่อมสภาพ มักเกิดในพัดลมที่ใช้งานมานาน อาการก็คือหมุนแบบฝืดๆ หรือบางทีเปิดแล้วแต่พัดลมไม่หมุน
- Motor พัดลมเสีย ต้องให้ช่างผู้ชำนาญซ่อมแซม หรือซื้อใหม่ลดปัญหาเรื่องจุกจิกภายหลัง
- มีฝุ่น เศษผม เกาะที่แกนหมุนของพัดลม เรื่องนี้เป็นเรื่องที่พบบ่อยมาก และบางครั้งก็พลาดเสียเงินค่าซ่อมในราคาแพงเกินไป เพราะจริงๆ อาการนี้ แค่ทำความสะอาดก็หายแล้ว อาการที่แสดงออกก็คือ พัดลมหมุนช้า และเมื่อจับที่ครอบด้านหลังจะรู้สึกว่าร้อนผิดปกติ
Tips เคล็ดลับชะลอความเสื่อม
- เมื่อเลิกใช้ทุกครั้งให้ปิดสวิตช์หรือถอดปลั๊กออก
- ใช้ไขควงวัดกระแสไฟตรวจสอบไฟฟ้ารั่วเสมอ
- ซักผ้าเสร็จแล้ว ให้รีบนำผ้าออกจากเครื่องทันที อย่าปล่อยผ้าทิ้งไว้นาน
นอกจากเครื่องใช้ไฟฟ้าเสื่อม จะเป็นสาเหตุหนึ่งเพิ่มค่าไฟในบ้านแล้ว ยังอาจเกิดอุบัติเหตุร้ายแรงได้เสมอ ฉะนั้นควรเปลี่ยนเมื่อถึงเวลาเหมาะสม และเลือกเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ราคาดี ไม่ถูกไม่แพงเกินไปเหมาะกับจำนวนคนในการใช้งานภายในบ้าน หรือมองหาไอเดียแต่งบ้านเพิ่มเติมได้ที่ โฮมโปร และโฮมโปร เอส ทุกสาขา หรือช้อปปิ้งออนไลน์ได้ที่ www.HomePro.co.th