กลับมายืนที่เดิม

    มองจากภายนอก หน้าตาของบ้านดูไม่เปลี่ยนไปเลย แปลนบ้านยังคงวางผังเป็นรูปตัวแอล (L) ทว่าก็มีบางสิ่งบางอย่างที่เปลี่ยนใหม่เหมือนกัน คุณอำนาจเล่าให้ฟังว่า

          “ตอนสร้างบ้านหลังนี้เลือกมุงหลังคาด้วยแป้นเกล็ด ซึ่งเป็นวัสดุที่บ้านในสมัยนั้นนิยมใช้กันมาก แต่เมื่อลองอยู่จริงก็รู้สึกว่าหลังคาแบบนี้มีปัญหามาก เวลาลมพัดแรงๆ ฝุ่นก็จะลงมาจากหลังคาเยอะมาก ปีที่แล้วผมตัดสินใจเปลี่ยนเป็นหลังคาชิงเกิ้ลแทน เวลามองได้ความรู้สึกไม่ต่างจากหลังคาแป้นเกล็ดเลย”

   ในส่วนของการตกแต่งภายในมีการเปลี่ยนแปลงไปบ้างเช่นกัน อาทิ จากที่เคยโชว์โครงสร้างหลังคาก็เปลี่ยนมาทำฝ้าและทาสีขาวสะอาดตา ช่วยให้ห้องดูกว้างขึ้น หรือห้องรับประทานอาหารซึ่งเดิมเคยเป็นพื้นที่โล่งก็เพิ่มหลังคา แล้วทำผนังรอบห้อง เพื่อเชื่อมกับแพนทรี่ซึ่งก็เอาผนังกั้นเดิมออก ทำให้ทั้งสองส่วนนี้กลายเป็นพื้นที่เดียวกัน รวมถึงปรับห้องนอนเล็กให้มีความสบายยิ่งขึ้น

  คุณอำนาจเล่าว่าการตกแต่งภายในบ้านหลังนี้อิงสไตล์อิงลิชเอ็ดวาร์เดียนคอตเทจ เพราะเคยไปเรียนและใช้ชีวิตที่ประเทศอังกฤษนานหลายปี จึงมีความคุ้นเคยและเก็บความประทับใจในสไตล์การตกแต่งแบบนี้กลับมาสร้างบ้านพักส่วนตัว ส่วนเฟอร์นิเจอร์เป็นของเดิมเกือบทั้งหมด มีเพิ่มใหม่บางตัว หรือบางส่วนก็เปลี่ยนผ้าบุใหม่ พร้อมเลือกซื้อพวกหมอนอิงเข้ามาเพิ่มสีสันให้บรรยากาศของบ้านดูสดใสยิ่งขึ้น

          “นอกจากปรับปรุงส่วนเรือนใหญ่แล้ว ส่วนที่เพิ่มเข้ามาอีกก็เป็นเรือนรับรองแขก ผมปรับจากโรงรถและห้องแม่บ้านซึ่งอยู่ด้านหลังสุด แยกจากเรือนใหญ่ ภายในเรือนรับรองแขกนอกจากห้องนอน 3 ห้องแล้วก็มีห้องนั่งเล่น และแพนทรี่เล็กๆ การตกแต่งก็เป็นรูปแบบสไตล์อิงลิชเอ็ดวาร์เดียนคอตเทจเช่นกัน ส่วนใหญ่จะเลือกเฟอร์นิเจอร์ลอยตัวมาวาง พร้อมหาผ้าม่านและผ้าคลุมเตียงที่ดูสัมพันธ์กันมาตกแต่ง”

 นอกจากนี้การวางแปลนของตัวบ้านก็ดูเป็นความจงใจของคุณอำนาจที่ต้องการให้ทุกส่วนของบ้านได้สัมผัสกับสวนอย่างใกล้ชิด และไม่ว่าจะอยู่บริเวณใดในบ้านหลังนี้ก็จะได้ความเย็นสบายจากสายลมเอื่อยๆที่พัดผ่านตัวบ้าน สิ่งเดียวที่อาจดูแตกต่างจากการมาเยือนเมื่อ 20 ปีที่แล้วก็คือ บ้านนี้มีความร่มรื่นมากกว่าเดิม เพราะไม้ยืนต้นที่เคยปลูกไว้ต่างก็เจริญเติบโตคอยแผ่ร่มเงาให้บ้านเดิมหลังนี้ยังคงเป็นที่พักพิงที่แสนสงบและร่มเย็น